โจรเห็นเจ้าของร้านพิการ ฉวยโอกาสขโมยกระป๋องใส่เงินหนีลอยนวล

เมื่อเวลา 10.00 น.  วันที่ 16 ต.ค. 62  ร.ต.อ.ธีรพัทธ  ป้องเรือ  รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไชโย  ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้ายขโมยทรัพย์สินในร้านค้าขายของชำ  เหตุเกิดบริเวณบ้านเลขที่ 48/2  หมู่ที่ 2  ตำบลตรีณรงค์  อำเภอไชโย  จังหวัดอ่างทอง  หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง  หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ  พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไชโย

ในที่เกิดเหตุ เป็นร้านขายของชำชั้นเดียว  ขายเครื่องดื่ม  และสิ่งของเครื่องใช้เบ็ดเตล็ดทั่วไป  พบ นาง ขนิษฐา  พรเจริญโรจน์ อายุ 51 ปี  เจ้าของร้าน  เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า  โดยปกติ ที่ร้านค้าจะอาศัยอยู่กัน 3 คน  ตนเองและพ่อแม่  โดยตนเองเป็นคนพิการ  เนื่องจากต้องตัดขาเพราะป่วยเป็นโรคมะเร็งไขสันหลัง  ส่วนแม่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไม่สามารถเดินได้  จะมีพ่อที่จะคล่องแคล่วกว่าคนอื่น  แต่ช่วงนี้พ่อล้มป่วยไม่สามารถลุกเดินได้  โดยคนร้ายทำทีเป็นลูกค้ามาเติมเงิน และขอซื้อน้ำดื่ม  ซึ่งในตอนนั้นตนเองและครอบครัวอยู่หลังบ้าน  จึงตะโกนไปว่า ให้ลุกค้าหยิบสินค้าเอาเลยเพราะเดินไม่ไหว  คนร้ายจึงตะโกนถามกลับมาว่าตนเองอยู่ตรงไหน  ตนเองจึงบอกไปว่าอยู่หลังบ้าน  คนร้ายจึงวิ่งเข้ามาตรงเตียงที่ตนเองใช้นอนพัก  ซึ่งมีกระป๋องเงินวางอยู่  จากนั้นบอกกับตนเองอย่างหน้าตาเฉยว่า  ไม่เอาน้ำแล้วจะเอากระป๋องเงินแทน  และได้คว้ากระป๋องเงินวิ่งออกไป  พร้อมขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ตนเองตั้งสติได้จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ  โดยคนร้ายเป็นชายรูปร่างสันทัด  สวมเสื้อแขนสั้นสีส้มออกชมพู  กางเกงขาสั้น  สวมไอ้โม่งคลุมใบหน้า  และสวมหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบคลุมทับ  ส่วนรถจักรยายนต์ที่ใช้ก่อเหตุตนเองจำสีและทะเบียนไม่ได้  ซึ่งทรัพย์สินในกระป๋องมีเงินสดประมาณ 400 บาท  ตะกรุดหลวงพ่อกลั่น  รูปหล่อหลวงพ่อทรวง  และใบโพธิ์บางระจัน  โชคดีที่มีเงินสดไม่มาก  เพราะตนเองจะเก็บเงินทุกวัน  เสียดายแต่ตะกรุดกับพระที่เป็นของเก่าแก่  ครอบครัวตนเองเปิดร้านขายของมาหลายสิบปี  ไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้  ตนเองคิดว่าคนร้ายคงเคยมาดูลาดเลาเอาไว้แล้ว  และเห็นว่าที่ร้านมีแต่คนป่วยและคนพิการ  จึงสะดวกกับการก่อเหตุ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ   หลังจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ  พร้อมสอบถามรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย  ได้ออกตระเวนตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด  ตามเส้นทางจากสถานที่ใกล้เคียงที่คาดว่าจะเป็นทางผ่านที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี  เพื่อสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว : ศุภเสกข์  แสงตระการ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  จ.อ่างทอง