ข่าว

แฉซ้ำนายทุนใหญ่ตัวการบุกรุกลำคลองคีรีวง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แฉตัวการรุกลำคลองคีรีวง!!ชาวบ้านคีรีวงแฉซ้ำนายทุนใหญ่ตัวการบุกรุก-ทั้งสร้างรีสอร์ทพร้อมแอบระบายน้ำเน่าเสียลงลำคลองตัวจริง

จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ค “winyu rungsitham”ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความ “ #หน่วยงานใดรับผิดชอบ!!@#คีรีวง...ก่อนที่..#คีรีวงจะเหลือเพียงตำนานในไม่ช้า...#เทคอนกรีตรุกล้ำลำน้ำต้นน้ำคลองท่าดี...##เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากไปมั๊ย...ช่วยกันหาคำตอบหน่อยครับ...” โดยสถานที่ตามในภาดคือคลองคีรีวง หรือคลองท่าที หมู่ 9 ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช จนนายศิริพัฒ  พัฒน์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งให้กรมเจ้าท่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและทำการรื้อปูนที่รุกลำลำน้ำออกทั้งหมด โดยผู้ประกอบการให้ความร่วมมือรับปากจะทำการรื้อถอนเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. เป็นต้นไปตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

             (16 ต.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานจากการเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงมาวบ้านจำนวนมากทราบข่าวว่ามีสื่อมวลชนลงมาตรวจสอบในพื้นที่จึงไปดักพบเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับสื่อมวลชน โดยระบุตรงกันว่าการที่สถานประกอบการร้านกาแฟ ร้านอาหารเทปูนบุกรุกลำคลองท่าดีหรือคลองคีรีวงนั้น เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อมใด ๆ เพราะเป็นสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้กีดขวางทางน้ำใด ๆ เพราะในฤดูฝนช่วงปลายปีระยะ 2-3 เดือนของทุกปีน้ำป่าไหลหลากท่วมมิดทุกปีสิ่งปลูกสร้างรวมทั้งแผ่นปูนที่เทปิดทับริมคลองบาง ๆ ก็จะหลุดหายไปทั้งหมด  แต่ในทางตรงข้ามเป็นการอำนวยความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องเดินฝ่าแนวโขดหินเป็นระยะทางไหล ๆ เพื่อลงไปเล่นน้ำ

            “ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต่างมองในจุดนี้ ประกอบกับผู้ประกอบการเล็ก ๆ เหล่านจึงไม่ได้ห้ามปรามหรือจับกุมดำเนินคดี แต่ถามว่าการกระทำใด ๆ ที่รุกล้ำลงไปในลำคลองผิดกฎหมายหรือไม่ มันคงผิดกฎหมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากจะจัดการเอาผิดกับผู้ที่รุกล้ำลำคลองและการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง ๆ  เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานน่าจะรู้ดีว่ามีการสร้างโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหารขนาดใหญ่ของกลุ่มนายทุนนักธุรกิจจากนอกพื้นที่ที่เข้ามาลงทุนในคีรีวงจำนวนมาก ที่สำคัญการแอบระยบายน้ำเน่าเสียจากสถานประกอบการเหล่านี้ทุกแห่งจะระบายลงคลองคีรีวงหรือคลองท่าดีทั้งหมด โดยไม่รู้ว่าสถานประกอบการใดบ้างที่มีระบบการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงลำคลองหรือไม่ หากตรวจสอบให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายอย่างจริงจังรับรองว่าคีรีวงคงยางวุ่นวาย ไม่สงบเหมือนที่ผ่าน ๆ มาแน่ ซึ่งการที่นายสำคัญ อรทัย นายอำเภอลานสกา ใช้หลักรัฐศาสตร์ในการแก้ปัญหามาตลอดเป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว”

แฉซ้ำนายทุนใหญ่ตัวการบุกรุกลำคลองคีรีวง

แฉซ้ำนายทุนใหญ่ตัวการบุกรุกลำคลองคีรีวง

แฉซ้ำนายทุนใหญ่ตัวการบุกรุกลำคลองคีรีวง

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบร้านกาแฟ ร้านอาหาร 12 ร้านที่เทปูนรุกล้ำแนวลำคลอง พบว่ากำลังเตรียมการรื้อปูนออก เริ่มขนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ออกจากพื้นที่ที่รุกล้ำแนวลำคลอง โดยเฉพาะร้านเพียรชม ของนายสมพร อนุโต ซึ่งเป็นร้านแรกติดกับสะพานแขวนและเพิ่งเทปูนปรับพื้นที่รุกแนวลำคลองเมื่อวันที่ 5-6 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปจัดหาคนงานและเครื่องจักรกลมารื้อถอนคาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงบ่ายของวันนี้

            นายสมพร อนุโต กล่าวว่า ผู้ประกอบการทุกคนยอมรับว่าเทปูนรุกล้ำลำคลองจริง และพร้อมจะรื้อถอนตั้งแต่บ่ายวันนี้เป็นต้นไป โดยตนอยากอธิบายชี้แจงคนจากต่างพื้นที่ถึงสภาพลำคลองที่แท้จริงไม่ได้มีน้ำตามที่ปรากฏในภาพที่โพสต์เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาตลอดไปทั้งปี เพราะในช่วงฤดูฝน 2-3 เอนที่กำลังจะมาเยือนในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเมื่อฝนตกหนักจะเกิดน้ำป่าจากเทือกเขาหลวงไหลลงมาตามลำคลองจำนวนมหาศาล ระดับน้ำในคลองจะเพิ่มขึ้นอีก 2-3 เมตรหรือมากกว่านั้นและไหลเชี่ยวกรากรวดเร็วและรุนแรงมาก ไม่ว่าอะไรขวางกั้นก็จะพังเสียหายยับเยินหายไปพร้อมสายน้ำ  และทุกปีตนจะทำหน้าที่แจ้งเตือนสภาพน้ำป่าที่ไหลลงคลองคีรีวงหรือคลองท่าดีไปยังประชาชนและนักท่องเที่ยวด้านล่างให้ระมัดระวังและอพยพหลบหนีได้ทัน

            “ต่อข้อถามเรื่องนายทุนจากนอกพื้นที่เข้ามาลงทุนก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ที่พัก ร้านอาหารขนาดใหญ่ ทางกลุ่มผู้ประกอบการเล็ก ๆ ที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่คิดอย่างไร นายสมพร อนุโต กล่าวว่าวันนี้สภาพของหมู่บเนคีรีวงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ชาวบ้านก็เป็นห่วงเรื่องสภาพสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน และหากตรวจสอบกันจริงจังอาจจะมีหลายแห่งที่รุกล้ำที่หรือแนวลำคลองสาธารณะ แต่ไม่ทราบว่ามีที่ใดบริเวณใดบ้าง  แต่สิ่งที่ชาวคีรีวงเป็นห่วงมากที่สุดคือเรื่องการที่สถานประกอบการทุกแห่งจำเป็นต้องระบายน้ำเสียลงคลอง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับสภาพสิ่งแวดล้อมในคลองคีรีวงหรือคลองท่าดีในระยะยาวก็ได้  จึงอยากเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมปกป้องดูแลทรัพยากรท่องเที่ยวให้คงอยู่อย่างยาวนานคู่คีรีวงคู่เมืองนครศรีธรรมราชตลอดไป”

แฉซ้ำนายทุนใหญ่ตัวการบุกรุกลำคลองคีรีวง

แฉซ้ำนายทุนใหญ่ตัวการบุกรุกลำคลองคีรีวง

แฉซ้ำนายทุนใหญ่ตัวการบุกรุกลำคลองคีรีวง

นายสมพร อนุโต กล่าวอีกว่า  เมื่อกว่า 10 ปีก่อนทางราชการได้มาสร้างแนวกำแพงคอนกรีตกั้นไว้และก่อสร้างถนนเลียบลำคลอง ทำให้สภาพสายน้ำตกหรือลำคลองเดิมเปลี่ยนแนวเป็นอย่าวที่เห็นในปัจจุบัน จากนั้นทางราชการได้สร้างฝายน้ำล้นข้ามคลองเพื่อให้รถวิ่งผ่านไปมาได้ในฤดูแล้ง แต่ในฤดูฝนน้ำป่าไหลหลากระดับน้ำในลำคลองเพิ่มสูงขึ้นรถไม่สามารถวิ่งผ่านายน้ำล้นได้ ทางราชการจึงคิดจะสร้างสะพานแขวนเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินข้ามไปมา 2 ฝั่งได้ แต่ไม่มีเจ้าของที่ดินรายใดอนุญาตให้สร้างได้ ตนจึงยินยอมให้ทางราชการก่อสร้างสะพานแขวนได้ตามที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน  

            “จริง ๆ การเทปูนริมลำคลองชั่วคราวในช่วงฤดูแล้งแม้จะผิดกฎหมายและโดยส่วนตีวตนก็ไม่ชอบแต่เพื่อการให้บริการ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวตนคิดว่าทาง อบต.กำโลน หรือ อบจ.นครศรีธรรมราชน่าจะจัดทำโครงการปรับพื้นที่ริมลำคลอง โดยมีการขอนุญาติกรมเจ่าท่าและหนาวยงานที่เกี่ยวข้องให้ถูกตองตามกฎหมาย จากนั้นให้ผู้ประกอบการร้านกาแฟ ร้านอาหารริมลำคลองใช้ในการให้บริหารนักท่องเที่ยว โดยทาง อบต.หรือ อบจ.จัดเก็บภาษีเป็นรายได้ให้ภาครัฐได้อีกทางหนึ่ง แต่ในปัจจุบันกระแสโซเชี่ยลมันรวดเร็วและรุนแรงมาก โดยผู้ที่แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ไม่ใช่คนในพื้นที่จึงไม่รู้สภาพข้อเท็จจริงต่าง ๆ ว่าเป็นอย่างไร เอาเป็นว่าทุบรื้อทิ้งตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอำเภอลานสการวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงและสรุปเมื่อวาน (15 ตค.) ก็แล้วกัน ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีทางนายอำเภอรับปากว่าจะใช้หลักรัฐศาสตร์ในการแก้ปัญหา ไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี ตนและผู้ประกอบการทุกรายขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง และถือเป็นบทเรียนสำคัญที่จะไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ข้นมาอีก นายสมพร กล่าวย้ำ.

แฉซ้ำนายทุนใหญ่ตัวการบุกรุกลำคลองคีรีวง

แฉซ้ำนายทุนใหญ่ตัวการบุกรุกลำคลองคีรีวง

แฉซ้ำนายทุนใหญ่ตัวการบุกรุกลำคลองคีรีวง

ภาพ/ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.มาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ข่าว  ยุทธนะ เตมะศิริ /นครศรีธรรมราช

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ