ข่าว

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชาวบ้านตำบลปากนครกว่า 200 คนบุกร้อง ผอ.พรรค พปชร.เมืองคอน ช่วยติดตามเงินออม 2.5 หมื่นตามโครงการบ้านมั่นคง หลังครบ 5 ปีแล้วถอนคืนไม่ได้-แฉสวมชื่อและสิทธิ์ชาวบ้านเบิกเงินรายละ 2.5 หมื่นโดยชาวบ้านไม่รู้เรื่อง

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 ต.ค.2562 ที่ สนง.ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ จ.นครศรีธรรมราช ถนนอ้อมค่าย ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนกว่า 200 คนจาก 4 ชุมชนของเทศบาลตำบลปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ประกอบด้วยชุมชนบ้านคลองขุด ชุมชนหัวถนน ชุมชนบางรักนก ชุมชนบางหัวแตก นำโดยนางเตือนใจ   บรรจุสุวรรณ อายุ 41 ปี  นางศศิวิมล  มานะจิตต์ อายุ 50 ปี และนางวรรณพร  เลิศบุรุษ อายุ 32 ปี ได้รวมตัวกับชาวบ้านที่เดือดร้อนพากันเดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายปรีชา   แก้วกระจ่าง ผอ.ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมและให้ช่วยเหลือประสานงานไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานรับผิดชอบให้ช่วยเหลือพวกตนด้วย

 

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

 

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

 

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

 

นางเตือนใจ   บรรจุสุวรรณ กล่าวว่า เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เดือน มิ.ย.ปี 2557 ชาวบ้านในชุมชนของแต่ละชุมชนต่าง ๆในเขตเทศบาลตำบลปากนครได้ถูกชักชวนให้เข้าสมัครเป็นสมาชิกโครงการบ้านมั่นคงอ้างว่าดำเนินการตามนโยบายสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ซึ่งสมาชิกจะต้องออมเงินขั้นต่ำเดือนละ 100 บาทให้กับทางคณะกรรมการโครงการบ้านมั่นคงดังกล่าว เป็นเวลา 5 ปี เพื่อจะได้รับเงินจำนวน 2.5 หมื่นบาทจากโครงการเพื่อไปซ่อมแซมบ้านที่พักอาศัย ส่วนเงินที่ออมมาครบ 5 ปีก็จะคืนเงินที่ออมมาตลอด 5 ปี แต่ปรากฏว่าเมื่อครบ 5 ปีชาวบ้านได้เงิน 2.5 หมื่นไปซ่อมแซมที่พักอาศัย และติดต่อจะขอถอนเงินออมคืนแต่กลับถูกทางคณะกรรมการโครงการบ้านมั่นคง บ่ายเบี่ยงตอบไม่ชัดเจนมาโดยตลอดว่าจะคืนเงินที่ออมให้กับชาวบ้านได้วันไหนตามกติกาที่ทางคณะกรรมการกำหนดไว้ แม้จะทวงถามหลายครั้งก็ตามทางคณะกรรมการแค่บอกว่าให้รอก่อน โดยอ้างว่าต้องรอผลการตรวจสอบของ ปปช. มาตรวจสอบบ้านและหลักฐานต่าง ๆก่อนถึงจะได้เงิน แต่ผ่านมามาหลายเดือนแล้วคณะกรรมการก็พยายามบ่ายเบี่ยงเป็นอย่างนี้มาตลอด

 สำหรับเงินออมของชาวบ้าน 5 ปี บางรายออมเดือนละ 100 บาท 5 ปีรวม 6,000บาท แต่บางรายออมเดือนละ 2,000- 500 บาทก็มียอดเงินออมจึงไม่เท่ากัน หากออมเดือนละ 500 บาท ยอดเงินออกจะสูงถึง 60,000 บาท เมื่อชาวบ้านสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ก็ตอบว่าไม่ใช่ ไม่เกี่ยวข้องนโยบายของ พ.อ.ช.ซึ่งเท่ากับว่าคณะกรรมการมาตั้งกติกานี้ขึ้นมาเอง เป็นการหลอกลวงชาวบ้าน พวกตนไม่มีที่พึ่งจึงพากันเดินทางมายังศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐนครศรีธรรมราชเพื่อให้ช่วยเหลือประสานงานติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือชาวบ้านโดยด่วนต่อไป เพื่อต้องการที่จะเอาเงินออมกลับคืนหมดทุกคน ล่าสุดทางคณะกรรมการ ฯข่มขู่ว่าจะเรียกเงินที่รับจากโครงการคนละ 2.5 หมื่นคืนทั้งหมดด้วย  นอกจากพวกตนยังพบเรื่องไม่ชอบมาพากลอีกหลายเรื่องของโครงการนี้ เช่น บางชุมชนชาวบ้านบางคนถูกสวมสิทธิ์ โดยชาวบ้านบางคนไม่ได้เงินจากโครงการ 2.5 หมื่น แต่มีกรรมการบางคนเซ็นชื่อรับเงินจำนวนดังกล่าวไปเอง ซึ่งก็ขอให้มีการตรวจสอบการแอบอ้างสวมสิทธิ์ดังกล่าวด้วย

 

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

 

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

 

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

 

ด้านนายปรีชา  แก้วกระจ่าง ผอ.พรรคพลังประชารัฐ นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังจากตนได้รับหนังสือร้องเรียนแล้วจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สอบสวนข้อเท็จจริงและนำผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสวมสิทธิ์ชาวบ้านไปเบิกเงิน 2.5 หมื่น  ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างเอกสารหลักฐานเท็จ เรื่องที่เกิดขึ้นนี้หลาย ๆชุมชนเงินรวมเป็นเงินหลายล้านบาท วันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องท่านอย่าได้นั่งเฉย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ต้องเดินหน้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงไปด้วยกัน  ผมจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อสารไปยังรัฐบาลให้กำชับดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเป็นธรรม  วันนี้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก เรื่องนี้ผมจะรับไว้และก็จะดำเนินการตรวจสอบให้พี่น้องประชาชนตามที่เขามาร้องทุกข์ และขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองใด ๆ  แต่ต้องการความถูกต้องและเป็นธรรมให้เกิดกับพี่น้องประชาชนที่เขาได้รับความเดือดร้อน และสิ่งสำคัญที่สุดผู้ที่กระทำความผิดหรือหมกเม็ดในเรื่องระเบียบราชการ จะต้องนำมาลงโทษให้ได้

            โดยะตนจะทำหนังสือไปยัง .ปปช.,สตง.และ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งหน่วยงานของกองทัพภาค 4 เพื่อจะได้ระดมสรรพกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไปโดยเร็วที่สุด ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นตนตรวจสอบพบว่าคณะกรรมการแอบอ้างในเรื่องของระเบียบสถายันพันาองค์กรชุมน (พอช.) โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาไม่รู้เรื่อง เงิน 2.5 หมื่นซึ่งอ้างว่าเป็นเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าโดยไม่เรียกคืน เพราะฉะนั้นเทคนิคและขั้นตอนที่ในการเรียกที่จะเงินคืนเป็นเรื่องที่คณะกรรมการชุดนี้ดำเนินการกันเอง  เป็นความพยายามฉ้อโกงชาวบ้านชัดเจน  จึงขอให้ทางคณะกรรมการคืนเงินออมคนละ 2.5 หมื่นให้ชาวบ้านแล้วเสร็จภายใน 7 วัน ถ้าหลัง 7 วันยังคืนเงินไม่เรียบร้อยตนจะนำชวบ้านผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

            ผู้สื่อข่าวรายงานต่อมาทางนายศิริพัฒ พัฒน์กุล ผู้ว่าราการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสำนักงานป้องกันจังหวัดและเจ้หน้าที่ จาก กอ.รมน.นครศรีธรรมราช เดินทางมาร่วมเกบข้อมูลและรับเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านดังกล่าว เพื่อเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบเพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป.

 

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

 

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

 

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

 

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

 

สุดทน บุคคลปริศนาสวมสิทธิ์ชาวบ้านแอบเบิกเงินเข้ากระเป๋า

 

ภาพ/คลิป ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ข่าว  ยุทธนะ  เตมะศิริ /นครศรีธรรมราช

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ