บุกราดน้ำมันจุดไฟเผารถขยะ อบต.เกาะสุกร

 

               เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 ส.ค. 62  พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ จันทร์สุวรรณ์ สว.(สอบสวน) สภ.ปะเหลียน ได้รับแจ้งเหตุเผารถขนขยะ หลัง อบต.เกาะสุกร ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังรับแจ้งได้ลงพื้นที่ พร้อมด้วย นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผวจ.ตรัง พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผบก.ภ.จว.ตรัง นายจักรพงษ์ รัชนีกุล นายอำเภอปะเหลียน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง กำลังชุดสืบสวน ถึงที่เกิดเหตุบริเวณหลังที่ทำการ อบต. พบรถยนต์กระบะซึ่งเป็นรถขยะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียน 80 - 8237 ตรัง ถูกไฟไหม้วอดทั้งคัน สภาพรถกระจกแตกไฟไหม้ดำ ข้างที่เกิดเหตุพบจอบ 1 เล่ม พร้อมขวดแก้วใส่น้ำมัน จำนวน 2 ขวด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

 

 

               จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า ตอนเกิดเหตุเวลาประมาณ 00.45 น. คืนที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายจำนวน 1 คน ใช้จอบทุบกระจกรถแล้วก็ราดน้ำมันจุดไฟเผาและหนีไปทางด้านหลัง ผู้อยู่ในเหตุการณ์ คือ นายสมชิต ยาแดง อายุ 28 ปี ตำแหน่งผู้ช่วยช่าง บ้านเลขที่ 318 ม.5 ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ มาพำนักอยู่ในพื้นที่ นอนเวรอยู่คนเดียวในสำนักงาน ขณะที่นายสมชิต เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนนอนอยู่ในสำนักงาน แล้วได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด จึงลุกขึ้นมาดู ได้เห็นคนร้าย 1 คน กำลังถือจอบ และนำขวดใส่น้ำมันราดใส่รถขยะ พร้อมจุดไฟวางเพลิง ก่อนจะหลบหนีไปทางด้านหลัง

               นายสุทัน เจะสา อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 35 ม.4 ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 50 เมตร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีคนร้ายได้ทุบกระจกสำนักงาน อบต.เกาะสุกร โฮมสเตย์ และสถานีอนามัย ถัดมาในเดือนเดียวกัน ได้มีการเผาเรือตรวจการ ซึ่งทั้ง 2 คดี ยังไม่คืบหน้า มาเมื่อคืนวันที่ 31 ส.ค. ได้มีคนร้ายเข้ามาเผารถขยะซ้ำอีก ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยกับชาวบ้านว่าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้น่าจะมีคนภายในรู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าอีกไม่นานเรื่องจะกระจ่าง

               นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผวจ.ตรัง กล่าวว่า การสืบสวนหาความข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่เรื่องของการสอบสวน โดยให้พนักงานสอบสวน ฝ่ายปกครอง ฝ่ายสืบสวนของจังหวัด สภ.ปะเหลียน ในส่วนแรกคือ แนวทางการสืบสวนจะมีกรอบในการสืบ จะนำภาพที่จำลองเหตุการณ์ว่าจุดไหนบ้างที่มีความบกพร่อง และเกิดได้อย่างไร ซึ่งเราก็มีพยานบุคคล และในเรื่องฝ่ายปกครองที่รับผิดชอบการตรวจตราต่างๆ ซึ่งได้มอบให้ทางกำนัน และปลัดอำเภอที่รับผิดชอบ ตนเองก็จะต้องมาจัดระเบียบที่นี่ ร่วมกับฝ่ายตำรวจ ความรับผิดชอบ อบต.เอง บกพร่องตรงไหน เช่น เรื่องเวรยาม ต้องให้นายอำเภอกำกับดูแล ตั้งกรรมการสอบ หากบกพร่องไม่มีการอยู่เวรยามก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตามระเบียบ ซึ่งก็จะไม่ปล่อยไว้ ส่วนความรับผิดชอบ ความละเมิดต้องดูว่าเกิดจากความ ประมาทไหม หากเกิดจากความประมาทก็ต้องชดใช้ เพราะเป็นของหลวง เราก็ได้มอบหมายให้แต่ละฝ่ายช่วยกันตรวจสอบให้ได้ภายใน 7 วัน ซึ่งกล้องวงจรปิดเราไม่ได้ถูกทำลายแต่ถูกดึงปลั๊ก ต้องจับให้ได้เพราะเหตุการณ์นี้เสียหายต่อภาพลักษณ์ของเกาะสุกร ที่จะมีแผนพัฒนาในปี 2563 นี้ ซึ่งตนก็ได้ลงมาต้องการเคลียร์ทั้งหมด เรื่องนี้ก็เกี่ยวกับเรื่องเรือยางด้วย

 

 

 

 

               นายวัชรา เทศนอก นักการภารโรง เป็นผู้ปิดประตูห้องวงจรปิดในวันศุกร์ เวลา 16.30 น. เล่าว่า ตนได้มารับกุญแจต่อจากแม่บ้าน ซึ่งแม่บ้านได้ลางานในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยในวันพฤหัสบดีตอนที่เข้ามาปิดประตูเห็นปลั๊กของวงจรปิดถูกถอด ตนจึงเสียบเข้าไปใหม่ พร้อมล็อกประตูไว้ มาวันรุ่งขึ้นวันศุกร์ช่วงเย็นหลังเลิกงานตนได้ปิดประตูและไม่ได้สังเกตดูว่าปลั๊กกล้องวงจรปิดเสียบอยู่หรือถูกถอด แต่มาเห็นหลังจากเกิดเหตุการณ์ว่าปลั๊กถูกถอดแล้ว

               นางราตรี จิตรหลัง นายก อบต.เกาะสุกร กล่าวว่า ตอนนี้เราต้องตรวจเข้มเรื่องการอยู่เวรยามมากขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดจากอะไรเพราะไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร การบริหารงานที่ผ่านมาเราก็เน้นการพัฒนามาโดยตลอด เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้รู้สึกว่าจะมีความชัดเจน เพราะว่ามีคนเห็นเหตุการณ์ ทราบถึงลักษณะของรถ และสามารถบอกรูปพรรณสัณฐานของคนรายได้ คาดว่าจะเป็นคนภายในเกาะนี้แหละ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้อนๆ ถามว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่นั้น อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะตอนนั้นกำลังจะหมดวาระตรงนี้แล้ว ซึ่งอยู่ที่คำสั่งของ คสช. ว่าจะให้ออกเมื่อไหร่ แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ ตนอยู่มาหลายปีแล้ว รถคันดังกล่าวก็ซื้อมาเป็น 10 ปีแล้ว ไม่เคยมีใครมาทำอะไรขึ้นมา แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นติดๆ กัน ตนก็ยังอยากพัฒนาเกาะสุกร ซึ่งวันศุกร์ที่ผ่านมานั้นตนได้มีภารกิจข้างนอกไม่ได้เข้ามา แต่ก็ได้มอบหมายหน้าที่ให้ทุกคนไว้

 

 

 

               เบื้องต้นทาง พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนเพื่อสรุปหาข้อมูลในที่เกิดเหตุ จากหน่วยงานกองพิสูจน์หลักฐาน และพยานแวดล้อม ผู้เห็นเหตุการณ์ คาดว่าคงจะกระจ่างได้ภายในไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจากทั้ง 3 เหตุการณ์ที่ผ่านมา น่าจะเชื่อมโยงกันทั้ง 3 คดี และมีผู้เกี่ยวข้องโยงใยไปถึงผู้บงการหรือไม่นั้นตอนนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน

 

 

 

--------------------

ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค คมชัดลึก จังหวัดตรัง