ข่าว

คนแก่ยังไม่เว้น โจรแสบทำทีซื้อของ ก่อนย่องฉกเงินในกระเป๋า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยายวัย 65 ขายของเลี้ยงหลานกำพร้า 3 ชีวิต ถูกโจรรูปหล่อทำทีสั่งซื้อของหลายอย่าง ก่อนย่องขโมยเงินในกระเป๋าไป 6 พันบาท สุดกลั้นน้ำตาร่วง ไม่คิดจะกล้าทำกับคนแก่

 

                วันที่ 18 ส.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่ 3 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนร้ายมาหลอกคนแก่ภายในหมู่บ้าน แล้วขโมยเงินในกระเป๋าได้ไปร่วม 6,000 บาท เมื่อเข้าไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 3 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เปิดเป็นร้านขายของชำเล็ก ๆ ในหมู่บ้าน พบนางสุเมศ จินรัมย์ อายุ 65 ปี เจ้าของร้าน ยังคงอยู่ในอาการเสียใจและน้ำตาคลอเบ้า

 

 

 

                โดยนางสุเมศ เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายได้มีชายอายุประมาณ 35-40 ปี ผิวขาว หน้าตาดี ลงจากรถกระบะสีขาว มาจอดหน้าบ้าน บอกว่า “ยายน้ำมันผมหมด ขอซื้อน้ำมันเบนซิน 3 ขวด” ตนก็จัดน้ำมันให้ 3 ขวด

 

 

คนแก่ยังไม่เว้น โจรแสบทำทีซื้อของ ก่อนย่องฉกเงินในกระเป๋า

 

 

                จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เลือกเอาขนมในร้านนานประมาณ 5 นาที แล้วสั่งซื้อน้ำแข็งอีก 20 บาท ซึ่งตอนนั้นตนอยู่คนเดียว ก็เดินไปตักน้ำแข็งที่ถังซึ่งอยู่หน้าบ้าน

 

 

คนแก่ยังไม่เว้น โจรแสบทำทีซื้อของ ก่อนย่องฉกเงินในกระเป๋า

 

 

                หลังจากตักน้ำแข็งใส่ถุงเสร็จ คนร้ายก็หยิบเงินให้ 100 บาท แล้วบอกว่าฝากของไว้ก่อนเดี๋ยวมาเอา แล้วขึ้นรถขับออกไป ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งจะเอาเงิน 100 บาทที่ได้มาไปใส่กระเป๋า พอเปิดดูถึงกับเข่าทรุด เพราะเงินที่เก็บไว้ร่วม 6,000 บาทได้หายไป และคาดว่าชายรูปหล่อคนนั้นเป็นคนขโมย

 

 

คนแก่ยังไม่เว้น โจรแสบทำทีซื้อของ ก่อนย่องฉกเงินในกระเป๋า

 

 

                “เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงที่สุดในชีวิต เพราะเงินที่หายไปเป็นเงินหมุนเวียนไปซื้อของมาขาย ไม่คิดว่าคนร้ายจะใจดำทำกับคนแก่ได้ลงคอ ตนได้แต่ร้องไห้เสียดายและเสียใจ เพราะตนมีภาระต้องเลี้ยงหลานกำพร้าอีก 3 คน”

 

 

คนแก่ยังไม่เว้น โจรแสบทำทีซื้อของ ก่อนย่องฉกเงินในกระเป๋า

 

 

                ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับกลุ่มมิจฉาชีพลักษณะนี้ ได้ออกมาตระเวนก่อเหตุในจังหวัดบุรีรัมย์และในพื้นที่ภาคอีสานเป็นประจำ คาดว่าน่าจะมีหลายแก๊ง ส่วนใหญ่จะใช้วิธีเดียวกัน คือเลือกร้านค้าที่มีคนแก่ขาย และผู้คนไม่พลุกพล่าน ซึ่งที่ จ.บุรีรัมย์ มีการจับกุมผู้ต้องหาได้รายเดียวคือที่ อ.นาโพธิ์ โดยส่วนใหญ่ไม่สามารถจับคนร้ายได้ เพราะไม่มีกล้องวงจรปิดและหลักฐานอื่นๆ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่มาจากจังหวัดอื่น แล้วตระเวนไปก่อเหตุทุกจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคอีสาน

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ