"ดีเจภูมิ" พร้อมพบ พงส.ตกปลาเขตอุทยาน

          จากกรณีหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือ “ชุดพญาเสือ” ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนตามคลิปยูทูปที่มี นายภูมิใจ ตั้งสง่า อายุ 40 ปี หรือ “ดีเจภูมิ” คนดังแห่งวงการบันเทิง พร้อมกับพวกรวม 7 คน นำเรือสปีดโบ๊ท เข้าไปตกปลาทำรายการออกทางช่องยูทูป ในพื้นที่อนุรักษ์สัตว์น้ำเขตหวงห้ามบริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร พื้นที่ตำบลปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร หลังตรวจสอบหลักฐานตามคลิปภาพปรากฏมีความผิดชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงได้นำหนักฐานไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร ดำเนินคดีทั้งหมด 5 ข้อหา ตามความผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ที่เสนอข่าวแล้วนั้น

         ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 18 สิงหาคม 2562 นายภูมิใจ ตั้งสง่า อายุ 40 ปี หรือ “ดีเจภูมิ” คนดังแห่งวงการบันเทิง ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในเฟสบุ๊ก พร้อมโชว์หมายเรียกที่ส่งมาทางไปรษณีย์ จากพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร ถึงตนเองให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมพวก ตามความผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ โดยในหมายเรียกระบุว่าให้ตนคือผู้ต้องหาที่ 1 ไปพบกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 21 สิงหาคม 2562 เวลา 10.00 น. 

          ดีเจภูมิ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้ติดต่อประสานงานให้ความร่วมมือกับตำรวจในท้องที่อยู่ตลอดเวลา จริงๆแล้วในหมายเรียกระบุชื่อผู้ต้องหาเพียง 2 คน เท่านั้น ส่วนที่เหลือยังไม่รู้เป็นใคร ซึ่งเมื่อเช้านี้ตนก็ได้รวบรวมบัตรประชาชนของทีมงานทุกๆ คนที่อยู่บนเรือส่งไปให้กับตำรวจ สภ.ปากน้ำชุมพร แล้วทั้งหมด และต้องขอขอบคุณแฟนคลับและทุกคนที่ห่วงใยติดตามให้กำลังใจกับตน 

          ดีเจภูมิ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเรื่องมีกระแสตามมาว่าทำไมตนไม่ออกมาแถลงข่าวพูดคุยกับสื่อ ซึ่งตนขอชี้แจงว่าตนไม่เก่งเรื่องกฎหมาย ไม่เก่งเรื่องออกสื่อ ไม่ได้คิดจะหลบหนีสื่อแต่อย่างใด เพราะกลัวจะใช้คำผิดหรือสื่อกันผิด ยกตัวอย่างวันแรกตนรับสายจากสื่อก็ให้สัมภาษณ์ตามความเป็นจริงจากความรู้สึก ซึ่งจำได้มีคำถามประมาณว่าพี่ภูมิรู้สึกกลัวไหมกับคดีเรื่องนี้ ตนก็ตอบไปประมาณว่า ตนไม่ได้รู้สึกกลัว แต่รู้ว่าเสียใจในที่ไม่รอบคอบ รู้สึกผิดหวังที่อาจจะทำให้แฟนคลับเข้าใจว่าตนละเมิดกฎหมาย และจะรีบติดต่อกับเจ้าหน้าที่ให้เร็วที่สุดเพื่อจะให้ความร่วมมือและทำทุกอย่างตามขั้นตอนกฎหมาย ผิดถูกตนน้อมรับตามความเป็นจริงคดีนี้จะได้จบเสียที แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง ตนเห็นมีข่าวขึ้นมาเขียนว่า “ดีเจภูมิลั่นไม่กลัวคดีนี้เคลียร์ได้” ทำให้ตนเข้าใจแล้วว่าถ้าสื่อสารไม่ดี ข่าวก็จะออกไปในเชิงลบได้ ซึ่งตนไม่ได้คิดหลบหนีสื่อแต่อย่างใด แต่ได้มาอัพเดทผ่านสื่อโซเชียลให้ได้รับทราบกัน.