ข่าว

โคราชแล้งหนัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นครราชสีมาแล้งหนัก นาข้าวในเขตและนอกเขตชลประทานเริ่มแห้งตาย  ขณะที่เขื่อนลำแชะ ปล่อยน้ำไปช่วยไม่ถึง

 

               นครราชสีมา - แล้งหนัก นาข้าวในเขตและนอกเขตชลประทานเริ่มแห้งตาย  ขณะที่เขื่อนลำแชะ ปล่อยน้ำไปช่วยไม่ถึง หลายตำบลในอำเภอโชคชัยเดือดร้อน เตรียมประกาศพื้นที่ประสบภัยเพื่อนำงบมาเยียวยาช่วยเหลือปชช.

 

               วันที่ 29 กรกฎาคม 2562 ที่ตำบลละลมใหม่พัฒนาและตำบลท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ซึ่งปีนี้แล้งหนักกว่าหลายปีที่ผ่านมา ทำให้นาข้าวทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทานเริ่มแห้งตายหลายพื้นที่แล้ว แม้ว่าเขื่อนลำแชะ อำเภอครบุรี จะปล่อยน้ำมาช่วยเหลือ แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัด ไม่มีฝนตก และปริมาณน้ำเหลือน้อย ทำให้น้ำที่ส่งมาในคลองชลประทาน ส่งไม่ถึงพื้นที่ตำบลละลมใหม่พัฒนาและตำบลท่าอ่าง อำเภอโชคชัย

 

โคราชแล้งหนัก

 

               ล่าสุด ผู้นำท้องถิ่นได้ประกาศให้เกษตรกรในพื้นที่รีบขึ้นทะเบียนการเพราะปลูกให้เรียบร้อย  เพราะกำลังเตรียมจะส่งเอกสารข้อมูลระดับพื้นที่ให้กับทางอำเภอโชคชัย เพื่อเสนอไปยังจังหวัดให้พิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งฝนทิ้งช่วง จะได้นำงบฉุกเฉินมาเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย

 

               นายเรวิน เปรี่ยมกระโทก ผู้ใหญ่บ้าน บ้านไร่ หมู่ที่ 1 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตนและผู้นำชุมชนในพื้นที่ ได้ประสานกับนายอภิชา เลิศพชรกมล ส.ส. เขต 9 ของจังหวัดนครราชสีมา และสำนักชลประทานที่ 8 เพื่อติดต่อขอเครื่องสูบน้ำมาแก้ไขปัญหาภัยแล้ง บรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในเขตตำบลท่าอ่างและตำบลละลมใหม่พัฒนา อำเภอโชคชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายเขตชลประทานของเขื่อนลำแชะ

 

               แม้ว่าทางเขื่อนจะปล่อยน้ำมาให้ตามรอบการแบ่งการใช้ แต่ขณะนี้มวลน้ำที่ปล่อยให้ กลับมาไม่ถึง จึงประสานขอเครื่องสูบน้ำ มาช่วยสูบน้ำในลำน้ำมูลที่ยังพอมีเหลือขึ้นมาใช้ ซึ่งชลประทานนำเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้วกับ ขนาด 8 นิ้ว รวม 2 เครื่องมาช่วย

 

โคราชแล้งหนัก

 

               โดยสูบน้ำลำมูลขึ้นมาลงคลองชลประทาน แล้วต่อท่อปล่อยน้ำไปยังนาของเกษตรกร แต่ยังมีปัญหาเรื่องค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องสูบ ซึ่งช่วงแรก อบต.ท่าอ่าง ได้สนับสนุนงบประมาณ จากนั้น ตนและคณะกรรมการหมู่บ้าน จะหารือกันอีกครั้งว่า จะเก็บเงินจากกับเกษตรกรผู้ใช้น้ำที่เดือดร้อน ในอัตราไร่ละ 100 บาท เพื่อมาเป็นค่าน้ำมันที่จะสูบน้ำต่อไป หรือจะหางบประมาณจากที่ใดมาช่วยเหลือ ซึ่งหากรัฐบาลช่วยสนับสนุนเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องสูบน้ำ ก็จะเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านหลายพื้นที่ ที่กำลังประสบภัยในขณะนี้ได้

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ