ข่าว

เดือดร้อนชาวบ้านร้องถูกโกงเงินออมทรัพย์หมู่บ้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชาวบ้านเดือดร้อน โดนโกงเงินออมทรัพย์หมู่บ้านกว่า 2.5 ล้านบาท จี้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา ช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนด่วน

 

 

8 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหัวสะพาน หมู่ 5 ต.หินดาด อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา หลังได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนกรณีถูกกรรมการของกลุ่มสัจจะเงินฝากแม่บ้านบ้านหัวสะพาน 

 

 

 

 

โกงเงินที่ชาวบ้านมาฝากออมทรัพย์ไว้เป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท โดยมีชาวบ้านกว่า 80 คน ได้รวมตัวกันอยู่ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหัวสะพานหมู่ 5  หลังจากไปร้องขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วหลายเดือนแล้วทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งศูนย์ดำรงธรรมแต่เรื่องก็ยังเงียบจึงอยากจะร้องเรียนสื่อช่วยเป็นสื่อกลางในการดำเนินการในครั้งนี้เพราะชาวบ้านเดือดร้อนมาก

 

โดยมีนายนิพนธ์  ปะโมนะตา อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 80 หมู่ 5 บ้านหัวสะพาน ต.หินดาด อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ตัวแทนชาวบ้านเล่าว่า ในหมู่บ้านหัวสะพานได้มีการจัดตั้งกลุ่มสัจจะเงินฝากแม่บ้านบ้านหัวสะพานขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2532 เดิมกลุ่มออมทรัพย์อยู่ในความรับผิดชอบของพัฒนาชุมชนอำเภอห้วยแถลง 

 

ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2549  ได้มีการถ่ายโอนมาให้กับทางชาวบ้านได้ดำเนินการกันเอง โดยมีนางหนูจันทร์  มะรังสี อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 5 ต.หินดาด อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นประธาน อสม. และทำหน้าที่เกี่ยวกับเงินกองทุนต่างๆ ของหมู่บ้าน เป็นผู้ดูแลรับช่วงต่อ และคณะกรรมการรวม 9 คน   

 

เดือดร้อนชาวบ้านร้องถูกโกงเงินออมทรัพย์หมู่บ้าน

 

ทั้งนี้กลุ่มออมทรัพย์สัจจะเงินฝากแม่บ้านบ้านหัวสะพานนี้จะให้ชาวบ้านที่สนใจฝากเงินเพื่อเป็นการออมทรัพย์มาเปิดบัญชีกับทางคณะกรรมการกลุ่มซึ่งสิ้นปีจะได้รับเงินปันผลเฉลี่ยคืนเป็นเงินร้อยละ 9 - 10 บาท แต่หนึ่งคนจะสามารถฝากได้ไม่เกิน 30,000 บาท

 

นอกจากนี้สมาชิกที่เปิดบัญชีทุกคนสามารถกู้เงินของกลุ่มฯได้โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อเดือน ซึ่งสมาชิกที่จะฝากเงิน จะยื่นกู้ หรือจะชำระหนี้จะมีกำหนดทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน ซึ่งก็เป็นข้อตกลงกันในหมู่บ้านซึ่งกลุ่มออมทรัพย์สัจจะเงินฝากแม่บ้านนี้ ถือว่าเป็นการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดีเพราะหมู่บ้านหัวสะพานก็อยู่ห่างจากตัวอำเภอกว่า 10 กม. การเดินทางค่อนข้างลำบากถ้าคนเฒ่าคนแก่จะต้องเดินทางไปทำธุรกรรมการเงินที่ธนาคาร  กลุ่มออมทรัพย์นี้ถือว่าสะดวกมาก 

 

ปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่มทั้งหมด 376 ราย มีจำนวนเงินฝากของสมาชิกจำนวน 4,255,371 บาท (สี่ล้านสองแสนห้าหมื่นห้าพันสามร้อยเจ็ดสิบเอ็ดบาท) ปล่อยให้สมาชิกกู้ประมาณ 1,470,000 บาท (หนึ่งล้านสี่แสนเจ็ดหมื่นบาท) ทุกปีได้มีการปันผลเฉลี่ยคืนให้แก่สมาชิกทุกวันที่ 25 มกราคม ของทุกปี แต่ปีนี้คือวันที่ 25 มกราคม 2562 นางหนูจันทร์  ไม่สามารถนำเงินปันผลมาให้แก่สมาชิกได้เหมือนในทุกๆ ปี  

 

เดือดร้อนชาวบ้านร้องถูกโกงเงินออมทรัพย์หมู่บ้าน

 

เพราะป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล  ต่อมาประมาณเดือนกุมภาพันธ์สมาชิกจึงได้ประชุมปรึกษาหารือกันเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเงินฝากของสมาชิกที่เหลืออยู่กับนางหนูจันทร์ฯ เพื่อส่งคืนให้กับสมาชิกอีกประมาณ 2,500,000 บาท (สองล้านห้าแสนบาท) ว่ายังอยู่ครบหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีเงินเหลืออยู่เลย  

 

สอบถามนางหนูจันทร์  ซึ่งเป็นคนดำเนินการเพียงผู้เดียวได้ความว่า นางหนูจันทร์ ได้นำเงินของสมาชิกไปใช้ส่วนตัวจริงแต่ไม่คิดว่าจะมากมายขนาดนี้ ทางสมาชิกจึงไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอห้วยแถลงเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 62 แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ  และเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา เพื่ออยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเงินกองทุนออมทรัพย์นี้  เพราะสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุพอทราบข่าวว่าเงินออมทรัพย์ของตนที่ฝากมากว่า 10 ปี ได้หายไปก็คิดมากกินไม่ได้นอนไม่หลับ บางคนฝากเงินไว้ให้ลูกให้หลานรวมเป็นเงินกว่า 2 แสนบาทเลยทีเดียว 

 

ต่อมาทางสมาชิกได้เข้าไปคุยกับนางหนูจันทร์  ผู้ฉ้อโกงเงินของชาวบ้านให้รับผิดชอบเงินจำนวนประมาณ 2,500,000 บาท โดยจะให้นางหนูจันทร์ หาเงินมาใช้คืนโดยแบ่งจ่ายเป็นปี ปีละ 500,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี   นางหนูจันทร์  ก็ยินยอม แต่ที่ชาวบ้านยังหนักใจอยู่ในตอนนี้ก็คืออยากให้ทางอำเภอหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทำหนังสือให้นางหนูจันทร์ และทายาท ได้เซ็นต์เพื่อรับสภาพการเป็นหนี้เพราะชาวบ้านเกรงว่าถ้าวันหนึ่งนางหนูจันทร์ไม่อยู่แล้วเงินของสมาชิกทั้งหมดก็จะหายสาบสูญไปเลย นายนิพนธ์ฯกล่าว

           

 

 

ด้านนางหนูจันทร์ มะรังสี ผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งอยู่ในอาการป่วย เล่าว่า ตนยอมรับผิดทุกอย่างแต่ยังไม่รู้จะไปหาเงินจากที่ไหนมาใช้คืนให้สมาชิก ตอนนี้ก็ให้ลูกชายและลูกเขยไปทำงานต่างประเทศเพื่อหาเงินมาคืนให้กับสมาชิกแต่ไม่รู้ว่าจะได้ตามที่ตกลงไว้หรือเปล่า แต่ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามเจรจาขอใช้หนี้ตามเวลาที่ตกลงไว้ 5 ปี นางหนูจันทร์  กล่าว

 

ทั้งนี้ชาวบ้านต้องการให้นางหนูจันทร์  ทายาทหรือคนในครอบครัวเซ็นต์ชื่อยอมรับสภาพการเป็นหนี้ถ้าวันหนึ่งนางหนูจันทร์ไม่อยู่แล้วก็ยังจะมีทายาทหรือคนในครอบครัวจะรับผิดชอบเงินจำนวนนี้ของสมาชิกต่อไป   เพื่อความสบายใจของสมาชิกและเพื่อความสงบสุขของคนในหมู่บ้านเดียวกันจึงอยากให้ทางอำเภอหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการเรื่องนี้ให้โดยเร็วที่สุด.

 

 

เรื่อง / ภาพ  นายประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ