(คลิป) ชบาแก้วลูกช้างป่าพัง ร่าเริง ซุกซน

 

              ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า หลังจากเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์จากกรมอุทยานและสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จ.บึงกาฬ ได้นำ ลูกช้างป่าเพศเมีย “พังชบาแก้ว” อายุ 2 เดือน สูง 88 เซนติเมตร ยาว 100 ซม.น้ำหนัก 76 ก.ก.ที่ได้รับบาดเจ็บจากการตกลงไปในบ่อเกรอะของชาวสวนยางพาราในพื้นที่บ้านโนนไพศาล ต.โคกกว้างอ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ได้รับบาดเจ็บ มีแผลที่ศีรษะ สันหลัง บั้นท้ายและสะดือ เมื่อคืนวันที่ 4 เม.ย.ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้ได้นำช้างน้อยพัง “ชบาแก้ว” ช้างน้อยกำพร้าแม่ เดินทางไปรักษาที่ตัวโครงการคชอาณาจักร(คต-ชะ-อา-นา-จัก) องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ป่าภูดิน ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ตั้งแต่ วันที่ 13 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา

 

 

 

            โดยเจ้าหน้าที่โครงการคชอาณาจักร จ.สุรินทร์ และสัตวแพทย์ ให้การต้อนรับและรับตัวช้างพังชบาแก้ว ไว้รักษาตัว มีแม่ช้าง พังพลอย อายุ 30 ปี ช้างในโครงการคชอาณาจักร ซึ่งเป็นช้างของนายศิริศักดิ์ ร่วมพัฒนา เป็นช้างแม่รับเลี้ยงในเบื้องต้น ช้างน้อยมีอาการตื่นเต้นเมื่อพบแม่ใหม่ และช้างรุ่นพี่ ช้างมีอาการสดชื่นขึ้น เจ้าหน้าที่ชงนมใส่ขวดนมให้กิน สลับกับการกินน้ำนมจากแม่ช้างพังพลอย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บีบคั้นน้ำนม จากแม่ช้างพังพลอย มาใส่ขวด ให้ช้างน้อยพังชบาแก้ว ได้กินและฝึกให้ดูดนมจากช้างแม่เลี้ยง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

            ล่าสุดวันนี้ 6 มิถุนายน 2562 เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว ที่ช้างน้อยพังชบาแก้วเข้ารับการรักษาและอนุบาลอยู่ที่โครงการคชอาณาจักร องค์การสวนสัตว์ ในพระราชูปถัมภ์ บ้านภูดิน ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ โดยมีสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดและมีช้างแม่เลี้ยงคอยให้นม ทำให้ช้างน้อยพังชบาแก้ว มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงขึ้นมาตามลำดับ ส่วนอาการบาดเจ็บและบาดแผลที่เกิดจากการตกท่อทั้งที่บริเวณหลังและที่สะดือ ได้หายดีหมดแล้ว ช้างน้อยมีอาการร่าเริงและวิ่งซุกซนในคอกตามประสาช้างน้อย และเล่นน้ำ หยอกล้อกับควาญช้าง ด้วยความสนิทสนมและคุ้นเคย ด้วยความสนุกสนานเป็นอย่างยิ่ง สร้างความน่ารักน่าเอ็นดูและความประทับใจแก่ผู้ที่พบเห็นอีกด้วย อีกทั้งยังเข้ากันได้กับช้างแม่เลี้ยงและลูกช้างรุ่นพี่ได้เป็นอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่ได้นำทรายมาปูพื้นที่คอก เพื่อให้ช้างน้อยได้วิ่งเล่นอย่างสะดวก ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังคงให้นมผงสำหรับเด็กสลับกับน้ำนมช้างแม่เลี้ยงต่อเนื่องทุกวัน

            นายภาสกร อรสูญ ผู้จัดการโครงการคชอาณาจักร องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ บอกว่า ช้างชบาแก้ว หลังจากมาเลี้ยงไว้ที่โครงการคชอาณาจักร องค์การสวนสัตว์ ในพระราบรมชูปถัมภ์ จังหวัดสุรินทร์ ก็จะมีช้างพังแม่พลอยเป็นช้างแม่เลี้ยงรับให้นม นอกจากนมจากแม่ช้างแล้วก็จะมีนมผงสำหรับเด็กให้เสริมอีก วันหนึ่งก็ประมาณ 2 ถุง สุขภาพโดยรวมหลังมารับการรักษาที่โครงการคชอาณาจักรฯ ดีขึ้นตามลำดับ จนถึงขณะนี้มีความสมบูรณ์แข็งแรง เป็นลูกช้างที่มีลักษณะสวย จากที่มาตอนแรกลูกช้างมีลักษณะแดงๆเป็นลักษณะของลูกช้าง แต่ตอนนี้ผิวมีเข้มขึ้นและมีขนขึ้นสวยสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ส่วนแม่ช้างเลี้ยงเองตอนนี้ทางสัตวแพทย์ได้ดูแลโดยการใช้อาหารเสริม ซึ่งนอกจากจะมีทีมสัตวแพทย์จากโครงการคชอาณาจักรที่ดูแลแล้วยังมีทางด้านเจ้าของช้างก็ได้มีการนำอาหารมาเสริมให้ เป็นอาหารช้างที่ดูแลสุขภาพโดยเฉพาะซึ่งคอ่นข้างจะใช้จำนวนมาก หากท่านใดที่มีความประสงค์จะสนับสนุนช่วยเหลือแม่ช้างก็ยินดี สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 0657326602 จะเป็นอาหารที่บำรุงน้ำนม เช่นกล้วย ฟักทอง สับปะรด เพื่อมาบำรุงแม่ช้างไม่ให้ทรุดโทรม เพราะนอกจากจะให้นมพังชบาแก้วลูกช้างป่าแล้ว ยังมีลูกขอตัวเองด้วย สำหรับลูกช้างป่าพังชบาแก้ว ในขณะนี้มีความสมบูรณ์ บาดแผลก็แห้งสนิทเป็นปกติแล้ว ทั้งแผลบริเวณหลังและทางสะดือ โดยรวมแล้วสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์มาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

            ส่วนการที่จะนำลูกช้างพังชบาแก้วส่งคืนป่านั้น เรื่องดังกล่าวเป็นส่วนของกรมอุทยานที่จะดำเนินการ ส่วนทีมของโครงการคชอาณาจักรเป็นเพียงผู้ให้การสนับสนุนดูแลช้างเพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งการที่จะนำลูกช้างปล่อยคืนสู่ป่านั้นลูกช้างจะต้องหย่านม 3 ปีไปแล้ว เป็นเรื่องของทางกรมอุทยานที่จะดำเนินการต่อไป ตอนนี้ยังไม่มีการดำเนินการเนื่องจากลูกช้างยังเล็กอยู่ ต้องอยู่ที่โครงการคชอาณาจักรไปก่อน ซึ่งการอนุบาลดูแลช้างเป็นเรื่องที่สำคัญ โอกาสภาวะสุ่มเสี่ยงมีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโภชนาการ หากดูแลไม่ดีก็จะทำให้ช้างแคระแกร็นได้ ลูกช้างตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 10 ปี จะมีภาวะสุ่มเสี่ยงเรื่องของไวรัสEA กับช้าง ซึ่งจะทำให้ลูกช้างตายไว้มาก สำหรับช้างน้อยพังชบาแก้ว นักท่องเที่ยวหรือผู้คนทั่วไปก็สามารถมาเยี่ยมชมความน่ารักและให้กำลังใจได้ ที่โครงการคชอาณาจักร องค์การสวนสัตว์ บ้านภูดิน ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์