ปมปลดปธ.มูลนิธิเซี่ยงตึ้งงดจัดตรุษจีน-ห้ามรถกู้ภัยจอดที่บ่อน

 
          ประธานมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง) แฉปมถูกเปลี่ยนตัว เหตุงดจัดงานตรุษจีนปี2560และออกประกาศห้ามนำรถกู้ภัยจอดในบ่อนการพนัน ยืนยันไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ฝากสังคมตรวจสอบการใช้เงินกว่า 1,000  ล้านบาท  ว่าที่ประธานมูลนิธิฯคนใหม่เผยพร้อมสานต่อสิ่งดีๆ เดินหน้าสร้างภาพลักษณ์ใหม่ เตรียมดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงาน  ประเดิมงานแรกปรับภูมิทัศน์

 

 

          นายวันชัย ลีละศิธร ประธานมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง)  กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหากับผลการประชุมของคณะกรรมการและผลการเลือกประธานฯคนใหม่ หากทำถูกต้อง เพราะไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง 
                 

          ซึ่งที่ผ่านมามีการทาบทามคุณธรรมนูญ โกวิทยา รองประธานฯเพื่อให้มารับตำแหน่ง แต่ท่านไม่ตอบรับ  จนกระทั่งวันที่ 15 เม..ย.62 ได้รับหนังสือจากกรรมการมูลนิธิจำนวน 5 คน   เพื่อขอเปิดประขุมคณะกรรมการบริหารสมัยที่ 22 
               

          “ผมยังไม่ครบวาระ จะครบวาระวันที่ 6 มิ.ย.62  การโหวตเปลี่ยนประธานฯ หรือพูดง่ายก็คือ ปลดแบบนี้ ไม่ยุติกรรม เป็นการไม่ให้เกียรติกัน เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่ได้บริหารผิดพลาดจนทำให้เสียหายต่อมูลนิธิ มีการทุจริต”
                

 

 

 

 

          นายวันชัย กล่าวและว่า สาเหตุการเปลี่ยนตัวประธานมูลนิธิฯในครั้งนี้ คาดว่าน่าจะมาจาก 2 สาเหตุด้วย คือ การไม่จัดงานเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2560   เนื่องจากเพิ่งผ่าน  100 วันการถวายอาลัย ร.9 
              

          ทำให้กรรมการหลายท่านไม่พอใจ แต่ก็ยังมีกรรมการบางส่วนที่เห็นด้วยว่า แม้จะเพิ่งผ่าน 100 วันก็ตามแต่เพื่อความเหมาะสมก็ไม่สมควรจัดงานรื่นเริง 
                

          และการออกและติดประกาศ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.62 ที่ผ่านมา  โดยเนื้อหาในการประกาศ “เพื่อชื่อเสียงและภาพพจน์ของหน่วยงานของกู้ภัย ขอให้กู้ภัยปฏิเสธการช่วยงานส่วนตัวของผู้ใด ผู้หนึ่ง เช่น เอารถกู้ภัยไปจอดที่บ่อนการพพนันด่านนอก
               

          หรือเอารถของมูลนิธิฯไปบรรทุกไม้ฟืนส่วนตัว ให้กู้ภัยปฏิเสธและให้รายงานหัวหน้ากู้ภัยทราบเพื่อเป็นหลักฐาน ส่วนงานของมูลนิธิฯให้ทำตามคำสั่งของหัวหน้าเท่านั้น 
             

 

 

 

          เพราะงานของมูลนิธิฯฝ่ายบริหารจะประสานงานกับหัวหน้ากู้ภัยโดยตรง  เพื่อป้องกันผู้ที่ไม่มีหน้าที่มาใช้เป็นเครื่องมือ  ซึ่งมีการติดประกาศให้รับทราบโดยทั่วกัน  
                

          รวมถึงการควบคุมการใช้จ่ายเงินของมูลนิธิฯที่ให้ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง  เนื่องจากเงินเป็นบริจาคที่มีจิตศรัทธาที่ต้องไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ทั้งหมดคือสาเหตุของการเรียกประชุมแบบเร่งรีบและโหวตเลือกประธานมูลนิธิฯ
 

 

 

          “ผมเข้ามาเป็นประธานมูลนิธิฯมีเงินสดอยู่ 30 ล้านบาท ซื้อที่ดินสร้างโรงพยาบาลจำนวน 17 ล้านบาท และซื้อที่ดินลานจอดรถโรงพยาบาลจำนวน 12 ล้านบาทหมด”
                

          แต่ปัจจุบันมูลนิธิฯมีเงินสดฝากในธนาคาร 1,000 ล้านบาท และเงินสดของโรงพยาบาล 150 ล้านบาท ฉะนั้นจึงอยากฝากให้สังคมช่วยกันทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของมูลนิธิฯและโรงพยาบาล  
               

          “อยากให้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ คำนึงผลประโยยชน์ส่วนรวม การใช้จ่ายที่อย่างระมัดระวัง เพราะไม่ใช่เงินส่วนตัวแต่เป็นเงินของบริจาคของประชาชน ต้องมีความยุติธรรม และถูกต้อง” ประธานมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง)  กล่าว
               

          สำหรับการประชุมคณะกรรมการบริหารสมัยที่ 22 และสรรหากรรมการบริหารชุดใหม่มีการประชุมเมื่อวันที่ 21 เม.ย.62 ที่ผ่านมา  ณ ห้องประชุมชั้น 2 มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง)   อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

 

 

              

          ซึ่งจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสมัย ที่ 22 และสรรหากรรมการบริหารชุดใหม่ โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิและกรรมการบริหารเข้าร่วมจำนวน 40 คน 
            

          และมีตัวแทนนายอำเภอหาดใหญ่ (นายสมศักดิ์ จันทรชู) และตัวแทนรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา (เลขาฯนายอำพล พงศ์สุวรรณ) สังเกตุการณ์
             

          โดยมีวาระสำคัญนั่นคือการเลือกประธานกรรมการมูลนิธิและกรรมการสรรหาคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เนื่องจากคณะกรรมการบริหารวสมัยที่ 22  จะสิ้นสุดในเดือนเม.ย.62
            

          ในที่ประชุมมีมติให้นายสมชาย พิทักษ์บุตร รองประธานกรรมการมูลนิธิทำหน้าที่ประธานการประชุม  ก่อนที่ประธานที่ประชุมเปิดให้คณะกรรมการฯเสนอชื่อประธานมูลนิธิ
            

          ซึ่งคณะกรรมการจำนวน 3 ท่าน ได้เสนอชื่อนายอรุณชัย ศิริมหาชัย ประธานสมาคมแต้จิ๋วหาดใหญ่เพียงคนเดียว โดยคณะกรมการบริหารจำนวน 39 คน รับรอง  
            

 

 

 

 

          หลังจากนั้นที่ประชุมได้เสนอชื่อกรรมการสรรหาเพื่อสรรหาคณะกรรมการบริหารสมัยที่ 23 จำนวน 3 ท่าน ซึ่งที่ประชุมมีมติรับรองกรรมการสรรหาคณะกรรมการบริหาร เพื่อนำเสนอต่อประธานมูลนิธิพิจารณาต่อไป
             

          นายกิตติชัย ธรรมศิริพงษ์ กรรมการมูลนิธิ  กล่าวว่า การดำเนินการเปิดการประชุมคณะกรรมการบริหารสมัยที่ 22 และสรรหากรรมการบริหารชุดใหม่นั้น 
             

          มีการดำเนินการตามขั้นตอน โดยทางคณะกรรมการมูลนิธิจำนวน 5 ท่าน ทำหนังสือเรียนคุณวันชัย ลีละศิธร ประธานกรรมการมูลนิธิ เพื่อขอเปิดประชุม เมื่อวันที่ 15 เม.ย.62 ที่ผ่านมา
            

          “เราได้ส่งหนังสือเรียนเชิญท่านประธานฯมาประชุม ท่านก็มีหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 17 เม.ย.62 ว่าให้กรรมการที่เข้าร่วมประชุมทำสำเนาบัตรประชาชนและเซ็นต์รับรองด้วย”
              

          เนื่องจากท่านประธานเกรงว่าความเห็นของคณะกรรมการจะไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรือว่าคณะกรรมการจะถูกชักจูงชักนำ ซึ่งเราก็ทำตามที่ท่านแนะนำ
              

          หลังจากนี้ก็จะเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนทางเอกสารสำหรับการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการมูลนิธิภายในเวลา 59 วัน ที่คณะกรรมการชุดเก่าจะหมดวาระในวันที่ 6 มิ.ย.62 
                

 

 

 

 

          นายอรุณชัย ศิริมหาชัย  กล่าวว่า  สิ่งที่ประธานฯคนก่อนๆทำมา สิ่งที่ดีๆผมจะคงไว้และก็สานต่อทำต่อไป เพื่อนำมามูลนิธิให้เจริญก้าวหน้ามากที่สุด
               

          โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับภูมิทัศน์ ทาสี อาคารใหม่ ทำป้ายให้ชัดเจน รวมถึงการปรับปรุงห้องน้ำให้สะอาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือที่มีเข้ามาไหว้ได้รับความสะดวกสบาย
              

          “มูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ้ง เป็นมูลนิธิที่อายุยาวนาน ได้รับการยอมรับจากสังคมในวงกว้าง เราเป็นประธานของสมาคม 14 จังหวัดภาคใต้ เราเป็นพี่ใหญ่ เราเป็นรองแค่มูลนิธิปอเต็กตึ้งเท่านั้น”
                

          นายอรุณชัย กล่าวและว่า สำหรับกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมก็จะดำเนินการต่อไป เช่น งานประเพณีแห่พระ การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการประชาชน   
               

          รวมถึงการก่อสร้างโรงพยาบาลที่ก่อสร้างมากว่า 10 ปี ยังไม่แล้วเสร็จก็จะเข้ามาดูว่ามีปัญหาอะไร เพราะเราต้องเร่งก่อสร้างให้เสร็จเพื่อให้บริการประชาชน
               

          นอกจากนี้ก็จะให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการดำเนินการกิจการของมูลนิธิ  และการดึงคนหนุ่มสาวเข้ามาช่วยงานมูลนิธิให้มากยิ่งขึ้นเนื่องจากปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก