ทหารเชียงรายปฏิบัติการดับไฟป่าต่อเนื่อง 3 วันแล้ว

 

                  7 เม.ย. 2562 ลานด้านหน้ากองบังคับการมณฑลทหารบกที่ 37 ค่ายเม็งรายมหาราช พล.ต.สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จ.เชียงราย  

 

                  ได้แถลงผลการปฏิบัติการป้องกันและดับไฟป่าที่เกิดขึ้นใน จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมาที่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งให้เร่งแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันฝุ่นละอองอย่างเร่งด่วนในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ

 

                  โดยสั่งการให้หน่วยทหารเข้าสนับสนุนการปฏิบัติการดับไฟป่าอย่างเข้มข้น ซึ่งกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จ.เชียงราย ได้จัดกำลังพลจำนวน 36 ชุด ออกไปสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ประจำเพื่อป้องกันและดับไฟป่าทั้ง 18 อำเภอแล้วและจะอยู่ในป่าจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ล่าสุดได้ประสานขอเฮลิคอปเตอร์ MI -17 กองบินที่ 41 กรมการบิน ศูนย์การบินทหารบก ทำการลำเลียงน้ำครั้งละ 3,500 ลิตร ลงไปโปรยตามพื้นที่ที่กำลังพลภาคพื้นดินเข้าถึงได้ยาก เช่น เป็นป่าเขาสูงชัน หน้าผา  ซึ่งในรอบ 2 วันที่ผ่านมาได้ปฏิบัติการทั้งในเขต อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย อ.เมือง จ.เชียงราย 

 

 

                  พล.ต.สัชฌาการ กล่าวว่าปฏิบัติการโปรยน้ำดังกล่าวถือได้ว่าสามารถระงับไฟป่าได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น และยังต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนและท้องถิ่นต่อไปเนื่องจากไฟป่ากว่า 90% เกิดจากการฝีมือของคนเผา ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าและส่งดำเนินคดีไปแล้วจำนวน 4 ราย แต่ก็ยังคงเกิดไฟไหม้ขึ้นอีกหลายจุดล่าสุดในวันนี้ก็ได้ประสานเฮลิคอปเตอร์เข้าสนับสนุนภารกิจดับไฟพื้นที่ป่าของ อ.เวียงป่าเป้า ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่าง จ.เชียงราย เชียงใหม่ และลำปาง  เพราะจุดเกิดไฟไหม้และเป็นพื้นที่ที่สูงชัน

 

                  ส่วนพื้นที่เดิมที่เคยปฏิบีติก็ยังไม่ดับเต็ม100% โดยต้องอาศัยกำลังภาคพื้นดินของเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าที่มีอยู่แล้วโดยฝ่ายปกครองแต่ละอำเภอ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อาสาสมัคร  และหน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดับให้สนิทต่อไปทำให้สถานการณ์ยังไม่ชัดเจนและต้องเฝ้าระวังต่อไป

 

          "ปัจจุบันพื้นที่ชายแดนยังคงมีสถานการณ์น่าเป็นห่วงโดยเฉพาะทางฝั่ง อ.แม่ฟ้าหลวง ที่ติดกับประเทศเมียนมาเพราะมีผืนป่าและแนวเขาติดต่อกันและมักเกิดไฟไหม้จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้วลามเข้ามาได้บ่อยครั้ง ส่วนทางด้าน อ.แม่สาย นั้นไม่น่าเป็นห่วงเพราะเจ้าหน้าที่ได้สกัดกั้นเอาไว้ได้และที่ผ่านมาพื้นที่นี้ก็ไม่เคยเกิดจุดความร้อนหรือฮอตสปอตเลยแต่กลับเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักเพราะรับกลุ่มควันจากการเผาไหม้โดยรอบ"ผู้บัญชาการ กกล.รส.จ.เชียงราย กล่าว
 

 
                  เรื่องโดย : ณัฐวัตร ลาพิงค์  ภาพโดย : ณัฐวัตร ลาพิงค์