ฮือฮา "ป้ายหาเสียง" ต้าน "ด่านตำรวจ" โผล่กลางเมืองโคราช

 

นครราชสีมา วันนี้ (18 ก.พ.  2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่ เขต.1 จ.นครราชสีมา เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะการติดป้ายหาเสียงของบรรดาผู้สมัคร ส.ส.พรรคต่างๆ ได้แย่งชิงพื้นที่ทำเลทอง เช่น ปากซอย, เสาไฟฟ้า, กำแพงวัด และรั้วสถานที่ต่างๆ เพื่อติดตั้งป้ายแนะนำตัวผู้สมัคร ชูนโยบายพรรค เรียกคะแนนเสียงกันอย่างเข้มข้น ซึ่งแต่ละป้ายก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่มีป้ายหาเสียงของนักการเมืองคนหนึ่ง ที่สะดุดตาของชาวโคราชเป็นอย่างมาก คือป้ายหาเสียงของนายอัคคชา พรหมสูตร ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 2 จากพรรคประชาชาติ ที่มีข้อความขึ้นป้ายว่า “ด่านเยอะ เบื่อมั๊ย ผมแก้ได้ใน 1 เดือน” และ “ด่านเยอะ รถติด น้ำท่วม เบื่อไหม” โดยได้รับความสนใจจากประชาชนชาวโคราชเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ชาวโลกโซเชียลจำนวนมากเคยตั้งฉายาให้เมืองโคราชว่าเป็น “เมืองหลวงของด่านตำรวจ” มาแล้ว จนทำให้มีประชาชน และนักธุรกิจในเมืองโคราช ได้รวมตัวไปยื่นหนังสือกับนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเข้าไปเจรจากับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา แต่ไม่เป็นผล

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นายอัคคชา พรหมสูตร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 2 จ.นครราชสีมา พรรคประชาชาติ กล่าวว่า ปัญหาของเมืองโคราชนั้น อาจจะมีอยู่หลายมิติ แต่เรื่องด่านตำรวจถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างผลกระทบกับประชาชน และเศรษฐกิจในพื้นที่ จ.นครราชสีมาเป็นอย่างมาก ถ้าคนที่เคยมาเยี่ยมเมืองนครราชสีมา เมื่อขับไปทางไหนของเมือง ไม่ว่าจะช่วงกลางวัน หรือกลางคืน ก็จะต้องเจอด่านตำรวจอย่างน้อย 2 ด่าน ซึ่งสร้างความน่ารำคาญใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้การจราจรติดขัดแล้ว ยังทำให้การทำมาค้าขาย เศรษฐกิจซบเซาอีกด้วย ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากว่าการตั้งด่านมีผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง ยิ่งตั้งด่านมาก ยิ่งได้เงินมาก ดังนั้นจึงทำให้เกิดช่องว่างให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิดกฎหมายเสียเอง ด้วยการรับสินบน แม้ว่าประชาชนจะยินยอมเพื่อที่จะได้ไม่ต้องถูกดำเนินคดี แต่นั่นหมายความว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระทำผิดกฎหมาย ตามมาตรา 157 แล้ว ซึ่งมีโทษถึงกับไล่ออกจากราชการเลยทีเดียว

 

 

 

 

 

 

ส่วนวิธีที่ตนอยากจะนำเสนอเป็นนโยบายแก้ปัญหาตั้งด่านให้ได้ภายใน 1 เดือนนั้น ก็คือการเสนอให้มีบทลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเฉียบขาด โดยให้ประชาชนเป็นเครือข่ายจับผิด และการปรับโครงสร้างเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียใหม่ ด้วยการกระจายอำนาจของตำรวจภูธรจังหวัด มาอยู่ในการควบคุมดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดแทนฯ เนื่องจากทุกวันนี้ตำรวจภูธรจังหวัด ขึ้นตรงกับตำรวจภูธรภาค และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ และกำหนดทิศทางเศรษฐกิจในพื้นไม่มีอำนาจสั่งการใดๆ ได้ เพราะไม่สามารถให้คุณและโทษแก่ตำรวจได้

ดังนั้นเมื่อชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาตำรวจตั้งด่านขูดรีดประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัด จึงไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ซึ่งตนยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความคับแค้นส่วนตัว แต่เป็นความเดือดร้อนของชาวเมืองโคราชจริงๆ จึงได้เสนอนโยบายนี้ เพื่อที่จะได้เข้าไปเป็น ส.ส.และใช้เสียงนี้เสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาเพื่อกำหนดเป็นนโยบายใช้แก้ปัญหาการตั้งด่านขุดรีดประชาชนต่อไป นายอัคคชาฯ กล่าว.