"มะเขือม่วง" ปลูกง่ายให้ผลผลิตดี กับคุณประโยชน์สุดว้าว ดีต่อสุขภาพ

ผักหลากหลายชนิดคือทางเลือกของคนรักสุขภาพ กับเมนูง่าย ๆ ผักจิ้มน้ำพริกหรือผักสด และหนึ่งในสำรับของทุกบ้านก็ย่อมต้องมี "มะเขือม่วง" รวมอยู่ในเมนูอาหารด้วย เพราะไม่ใช่เพียงแค่ความอร่อยเท่านั้น แต่ยังให้คุณค่าทางอาหารสูง 

 

 

มะเขือม่วงเป็นพืชล้มลุกหรือไม้พุ่ม มีความสูงประมาณ 1-1.5 เมตร ลำต้นมีขนนุ่มปกคลุมอยู่ทั่วไป และอาจมีหนามเล็ก ๆ ออกดอกและผลได้ตลอดทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ผลมะเขือม่วงมีลักษณะกลมรียาวทรงหยดน้ำ ผิวผลเรียบ ขนาดของผลขึ้นอยู่กับสายพันธุ์โดยมีขนาดยาว 4-30 เซนติเมตร สีผลอาจจะมีสีเดียวหรือหลายสี อาทิ สีขาว เหลือง เขียว แดงม่วง หรือดำ ส่วนภายในผลจะมีเมล็ดจำนวนมาก 

 

เมนูที่หลายบ้านนิยมนำมาประกอบอาหารส่วนใหญ่ อาทิ เผากินกับน้ำพริก หรือฝานเป็นชิ้นชุบแป้งทอดกรอบ ทั้งนี้มะเขือม่วงยังเป็นพืชผักเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่ปลูกได้ง่าย ให้ผลผลิตดี เก็บเกี่ยวได้นาน 

 

มะเขือม่วงอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด โดยคุณค่าทางโภชนาการของมะเขือม่วงต่อ 100 กรัม จะประกอบไปด้วย พลังงาน 24 แคลอรี, โปรตีน 1 กรัม, ไขมัน 0.2 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 5.7 กรัม, ใยอาหาร 0.8 กรัม, เถ้า 0.6 กรัม, วิตามินเอ 130 หน่วยสากล, วิตามินบี1 10 มิลลิกรัม, วิตามินบี2 0.05 มิลลิกรัม, วิตามินบี 3 0.6 มิลลิกรัม, แคลเซียม 30 มิลลิกรัม, ธาตุเหล็ก 0.6 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 27 มิลลิกรัม, โซเดียม 4 มิลลิกรัม, โพแทสเซียม 223 มิลลิกรัม 

 

ส่วนสีม่วงที่เห็นในผลมะเขือม่วง เกิดจากสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่าวิตามินซีหลายเท่า การรับประทานมะเขือม่วงเป็นประจำจึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยเสริมให้ร่างกายต่อต้านเชื้อโรค และช่วยสมานแผลได้ดี 

 

 

 

สารแอนโทไซยานินในมะเขือม่วงมีฤทธิ์ขยายเส้นเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและอัมพาตได้ด้วย การใส่มะเขือม่วงลงไปในอาหารต่าง ๆ จึงเป็นที่ให้คุณค่าทางยาเพิ่มกับคุณค่าทางอาหาร 

 

สำหรับสรรพคุณของ "มะเขือม่วง" ช่วยรักษาอาการของโรค ดังนี้ 

 

• ดอกสดหรือดอกแห้ง นำมาเผาให้เป็นเถ้า แล้วบดให้ละเอียด ใช้เป็นยาแก้ปวดฟัน (ดอก) 
• ผลแห้งมีสรรพคุณเป็นยาขับเสมหะ (ผลแห้ง) 
• ลำต้นหรือรากใช้ต้มกินเป็นยาแก้บิด หรือจะนำใบแห้งมาป่นให้เป็นผงใช้เป็นยาแก้โรคบิดก็ได้เช่นกัน (ลำต้น, ราก, ใบแห้ง) 
• ช่วยแก้อาการตกเลือดในลำไส้ (ผลแห้ง) 
• ใบแห้งใช้เป็นยาแก้ปัสสาวะขัด (ใบแห้ง) 
• ช่วยรักษาโรคหนองใน (ใบแห้ง) 
• ผลสดใช้เป็นยาพอกบริเวณที่เป็นแผลอักเสบ ฝีหนอง หรือโรคผิวหนังเรื้อรังและผดผื่นคัน (ผลสด) 
• ลำต้นหรือรากนำมาคั้นเอาน้ำใช้ล้างแผลเท้าเปื่อย (ลำต้น, ราก) 
• ผลแห้งใช้ทำเป็นยาเม็ดแก้ปวด (ผลแห้ง)