วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตรทัวร์ลง หลังถูกแฉโอนเงินอุดหนุนเข้าบัญชีวัดแล้วขอคืน อ้างทำถุงยังชีพเป็นภาพรวม แจงเจตนาบริสุทธิ์ อาจผิดหลักการแต่วิธีการและการดำเนินการโปร่งใสตรวจสอบได้ ถุงยังชีพแจกถึงมือชาวบ้าน เหตุรวมงบเพราะเป็นช่วงโควิด19 เป้าหมายอำนวยความสะดวกให้
วันที่ 22 ก.ย. 2563 วัดบึงสีไฟภัทราราม อ.เมือง จ.พิจิตร นางสาวณัณธิญาจ์ มังคละคีรี วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยทีมงานสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ร่วมชี้แจงกรณีมีผู้ร้องเรียนประเด็นเงินโครงการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรและบวชศิลจาริณีภาคฤดูร้อน ประจำปี 2563 ที่มีการโอนเงินอุดหนุนให้กับวัดต่างๆ 31 แห่ง เป็นเงิน 330,000 บาท เพื่อจัดทำถุงยังชีพแจกผู้ประสบวิกฤตโควิด 19 ในช่วงที่เกิดสถานการณ์ แต่ไปขอทวงเงินคืนจากวัด แล้วนำมาดำเนินการจัดหาถุงยังชีพให้ แต่ถูกร้องเรียนว่า ทำเกินหน้าที่ วันนี้จึงขอชี้แจงซึ่งจากกรณีดังกล่าว นางสาวณัณธิญาจ์ มังคละคีรี วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ได้ชี้แจงว่า ในช่วงเดือนเมษายน 2563 ได้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้ปรับโครงการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรและบวชศิลจาริณีภาคฤดูร้อน ประจำปี 2563 เป็นกิจกรรมการมอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค งบประมาณ 330,000 บาท
โดยมีวัดเข้าร่วมโครงการ จำนวน 31 วัด เพื่อให้ถุงยังชีพตามโครงการมีรูปแบบและสิ่งของในถุงเหมือนกันทุกชิ้น และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร กำหนดหลักเกณฑ์ของถุงยังชีพ ประกอบด้วย ข้าวสารเสาไห้ 5 กิโลกรัม จำนวน 1 ถุง, ไข่ไก่ 1 แผง จำนวน 30 ฟอง, ปลากระป๋อง จำนวน 6 กระป๋อง, นม 1 แพ็ค จำนวน 6 กล่อง, น้ำมันพืชขวดใหญ่ 1 ลิตร จำนวน 1 ขวด, น้ำพริก จำนวน 2 กระปุก รวมมูลค่าถุงยังชีพ 1 ถุง เท่ากับเงิน 500 บาท จำนวน 660 ถุง ช่วยเหลือประชาชนได้ 660 ครอบครัว โดยบรรจุในถุงผ้าที่มีตรา กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม และคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตร นอกจากนี้ วัดท่าหลวง พระอารามหลวง ได้มอบถุงยังชีพสมทบเพิ่มเติม นอกเหนือจากโครงการอีก 50 ถุง นำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบวิกฤตโควิด 19 ในช่วงนั้นอย่างครบถ้วน
ในส่วนของพระพิศาลสาธุกิจ รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เจ้าอาวาสวัดบึงนาราง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ก็มาร่วมเป็นสักขีพยาน และร่วมยืนยันว่า หลายวัดที่เข้าร่วมโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่สะดวกในการจัดทำถุงยังชีพตามที่กำหนดได้ จึงเห็นชอบให้ สนง.วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตรเป็นผู้รับผิดชอบจัดทำ เพื่อความเป็นเอกภาพในการจัดทำถุงยังชีพ ประชาชนได้สิ่งของครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ของถุงยังชีพ ที่ สนง.วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตรกำหนด นอกจากนี้นางทิพวรรณ์ จันทรสุกรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบึงสีไฟ ก็พาเด็กๆ ที่ได้รับถุงยังชีพมายืนยันกับผู้สื่อข่าว ว่าถุงยังชีพที่ได้รับจาก สนง.วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ถึงมือประชาชนและมีสิ่งของครบถ้วนตามรายการอย่างที่เห็นเหมือนกันทุกถุง อีกทั้งผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ก็ได้รับผลประโยชน์จากถุงยังชีพดังกล่าวอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการชี้แจงของ วธ.พิจิตร จึงทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำการดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายที่ว่าเป็นการจัดการงานนอกสั่ง ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของตน แต่เอาความรู้สึกหรือเจตนาส่วนตัวมาดำเนินการ ซึ่งผิดหลักการตามระเบียบการจัดซื้อ-จัดจ้าง แต่วิธีการหรือการทำงานถึงเป้าหมาย ชาวบ้านได้ประโยชน์ ซึ่งก็คงต้องรอผลการสอบสวนจากผู้บังคับบัญชาและคณะกรรมที่มี นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ตั้งขึ้น ว่าจะมีธงในการพิจารณาอย่างไรต่อไป
ทีมข่าวเฉพาะกิจภูมิภาค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง