หลากกิจกรรมไม่จำเจเมื่อต้อง stay at Home
ทั้งภาคกฎหมายทั้งภาคสังคม ออกมาบังคับบวกรณรงค์ให้ประชาชนพำนักอยู่ในที่พักของตัวเอง รักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing และบริษัทใหญ่ๆ หลายบริษัทเริ่มมีนโยบายให้ทำงานจากที่บ้าน ภายใต้แคมเปญ “Stay at Home” เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ซึ่งกำลังออกฤทธิ์ออกเดชอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นสิ่งสำคัญในเวลานี้คือการทำคุณภาพชีวิตของตัวเองให้ดีเมื่อต้องอยู่บ้าน จึงรวบรวม “หลากกิจกรรมไม่จำเจ เมื่อต้อง Stay at Home” แบบชิลๆ มาฝากคุณผู้อ่านให้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตแบบชิคๆ ในยุคโควิด-19 ครองเมืองไม่ให้น่าเบื่อจนเกินไปนัก
เริ่มต้นกันที่ “ออกกำลังกายให้หายเครียด” เมื่อต้องอยู่บ้านทำให้หมดสิทธิ์ที่จะปฏิเสธว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย คุณสามารถเลือกช่วงเวลาได้เลยว่าจะลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายตอนไหน ไม่ว่าจะเป็น เช้า สาย บ่าย เย็น หรือแม้แต่ช่วงค่ำ ส่วนเรื่องอุปกรณ์ยิ่งไร้ซึ่งปัญหา เพราะว่าสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพแวดล้อม หรือจะเปิดเพลงเต้นแอโรบิกชิคๆ ก็สนุกไปอีก หากยังเกรงว่าจะไม่ถูกต้องตามหลักการออกกำลังกายล่ะก็ สามารถหาเปิดดูตัวอย่างได้จากในยูทูบ...สรุปหมดข้ออ้างนะจ๊ะสำหรับข้อนี้
การได้ออกแรง “ทำอาหารกินเอง(นักเลงพอ)” ในยามนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด เพราะนอกจากปลอดภัยจากปนเปื้อนของเชื้อไวรัสแล้ว ยังปลอดภัยจากการแพร่ระบาดไวรัส และยังเป็นการหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงตามที่รัฐบาลประกาศอีกด้วย ดังนั้นอาหารง่ายๆ ที่เราเข้าครัวลงมือทำเอง เช่น ไข่เจียว ไข่ต้ม ผัดผัก จึงน่าจะสะอาด ปลอดภัย และทางเลือกได้ดีกว่าออกจากบ้านไปหาซื้อจากร้านค้าข้างนอกนะเออ ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศภายในครอบครัวให้มีกิจกรรมทำด้วยกัน ...ยิ่งหากลงมือทำอาหารรับประทานเองวันละ 3 มื้อ รับรองเหนื่อยจนลืมเครียดไปเลยล่ะคุณ
เมื่อกินแล้วจะให้นั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ คงไม่ดีต่อสุขภาพกายสุขภาพใจสักเท่าไร ดังนั้น กิจกรรม “ปลูกและดูแลต้นไม้” ถือเป็นการเพิ่มสีสันให้บ้านดูมีชีวิตชีวา แถมยังช่วยทำให้บรรยากาศในบ้านดูร่มรื่นและเย็นสบายขึ้นอีกด้วย สำคัญคือ ต้นไม้ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย “ฟอกอากาศ” เพราะต้นไม้เหล่านี้มีคุณสมบัติในการช่วยปรับอากาศในบ้านให้สะอาดยิ่งขึ้น แถมยังมีกลิ่นหอม ช่วยปรับกลิ่นภายในบ้านได้ “ช่วยให้หลับสนิท” เช่น ดอกมะลิ ช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด ทำให้การนอนหลับของเรานั้นมีประสิทธิภาพ ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่น
อะๆๆ ในรายที่ไม่ถนัดออกแรง เรายังมีทางเลือกให้ นั่นคือ “อ่านหนังสือ” ข้อนี้ Dr. David Lewis นักจิตวิทยาจาก Mindlab International แห่ง University of Sussex บอกไว้ว่า วิธีการขจัดความเครียดที่ดีที่สุดและเร็วที่สุด นั่นก็คือ “การอ่าน” แม้จะอ่านในเวลาสั้นๆ แค่ 6 นาที แต่ช่วยลดความเครียดไปได้มากถึง 2 ใน 3 ส่วนเลยทีเดียว แถมช่วยทำให้อัตราการเต้นของหัวใจกลับสู่ในระดับปกติอีกด้วย นั่นเป็นเพราะว่า จิตใจถูกจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว ทำให้อาการตึงเครียดต่างๆ ทั้งหัวใจและกล้ามเนื้อลดลงตามไปด้วยนั่นเอง
ในส่วนของกลุ่มคนรุ่นใหม่ การได้นั่ง “ดูหนัง-ฟังเพลง-เล่นเกม ผ่านแอพพลิเคชั่น” ในวันที่เราไม่สามารถออกเป็นเดินช็อปปิ้ง เพื่อปลอดปล่อยความเครียดให้ตัวเองได้ การได้นั่งดูซีรีส์เรื่องโปรด ดูหนังคอมเมดี้สักเรื่อง หารายการคอนเสิร์ตเด็ดๆ ดู หรือเปิดเพลงแนวบำบัดอย่างเพลงแนวคลาสสิกของโมสาร์ท ดนตรีแจ๊สเบา นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะพาให้เราหลุดออกจากความเครียด และเด็ดสุดลองเปิดเพลงสนุกๆ เต้นแร้งเต้นกา ก็พาให้บันเทิงเริงใจได้ดีอยู่นะ
ขณะที่บางคนเชื่อว่า การปลดปล่อยพลังงานในตัวเราจะช่วยลดความเครียดได้นั้น “บิ๊กคลีนนิ่ง เดย์” ก็เก๋ไม่เบาอยู่นะ ก็แหม!! นานๆ ทีเราจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตว่างๆ อยู่ภายในบ้านของตัวเองนานหลายวัน การจะลุกขึ้นมาทำความสะอาดบ้าน ทิ้งสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง หรือจะขยับขยายปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บางมุมภายในบ้าน เฉพาะห้องนอนของตัวเอง มุมส่วนตัวสุดโปรดและโต๊ะทำงานให้เรียบร้อย นอกจากจะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศแบบเดิมๆ ออกไป ยังได้บ้านที่สะอาด ที่สำคัญบอกลาอารมณ์หงุดหงิดกวนใจต่างๆ ได้ง่ายๆ
สุดท้าย “เล่นกับสัตว์เลี้ยง” ด้วยความเครียดจากการต้องรับมือกับสารพัดปัญหาที่ถาโถม การเริ่มต้นเลี้ยงสัตว์เป็นหนึ่งในสัญญาณที่จะนำพามาซึ่งสุขภาพจิตที่ดีในอนาคต เพราะมีรายงานการศึกษาพบว่า สัตว์เลี้ยงในบ้านอย่างสุนัข แมว กระต่าย หรือปลา นอกจากเป็นเพื่อนคนสำคัญของมนุษย์แล้ว มันยังมีบทบาทในการช่วยบำบัด ช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์ ดีทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกาย...ว่าแต่อย่าเผลอเอาอารมณ์โมโหไปลงกับสัตว์เลี้ยงเชียวล่ะ กฎหมายเขาคุ้มครองกันอยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง