Lifestyle

"พิ้งค์พลอย" ปภาวดี ชี้หลักแต่งตัวให้มีสไตล์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แต่งตัวตามวัยให้เหมาะสมตามกาลเทศะก็จะสวยสมวัย

         งาน “คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 16” ภายใต้ธีมไทยโมเดิร์น ซึ่งเชิญชวนให้นักแสดงและศิลปินแต่งกายด้วยผ้าไทย ผ่านพ้นไปแล้วด้วยความชื่นมื่น แต่ควันหลงยังคงมีอยู่ เมื่อนักแสดงสาวน้อยหน้าใส นางเอกดาวรุ่งมาแรงแห่งช่อง 7HD “พิ้งค์พลอย” ปภาวดี ชาญสมอน ซึ่งกำลังมีผลงานละครหลังข่าวภาคค่ำเรื่อง “มังกรเจ้าพระยา” หลังแจ้งเกิดสุดตัวจากละครเรื่อง ขิงก็ราข่าก็แรง ก็ทำให้แฟนคลับได้ส่งเสียงกรี๊ดด้วยความยินดีอีกครั้ง ด้วยว่าเจ้าตัวได้รับคัดเลือกให้คว้ารางวัลพิเศษ “คนบันเทิงแต่งกายไทยร่วมสมัยดีเด่น” ด้วยความโดดเด่นของชุดบวกกับบุคลิก ของเธอ โอกาสนี้จึงชวนเธอมาเปิดมุมมองพูดถึงเรื่องการแต่งกาย เพราะเบื้องหลังหากตามติดจริงๆ จะรู้ว่าเธอเป็นสาวชื่นชอบการแต่งตัวแบบจริงจัง จากการที่เธอร่ำเรียนจบมาจากคณะเทคโนโลยี คหกรรมศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีเสื้อผ้า และแพทเทิร์น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ

"พิ้งค์พลอย" ปภาวดี ชี้หลักแต่งตัวให้มีสไตล์

          ภายหลังจากขึ้นรับรางวัล “คนบันเทิงแต่งกายไทยร่วมสมัยดีเด่น” สาวมากความสามารถติด 1 ใน 10 บนเวทีการประกวด “ไทยซูเปอร์โมเดล 2015” ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่เส้นทางบันเทิงเป็น ดาราในสังกัดช่อง 7HD  เล่าถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัลพิเศษนี้ด้วยน้ำเสียงสดใสว่า ตอนที่ได้ยินเสียงพิธีกรประกาศชื่อตัวเอง ยังรู้สึกงงอยู่นิดๆ ก็ไม่รู้เลยว่าเราต้องยืนตรงไหนอะไรยังไง ตอนนั้นไม่รู้จะพูดอะไรเพราะไม่ทันคิดเลยว่าเราจะได้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณคณะกรรมการที่เลือกพิ้งค์พลอยด้วยนะคะ สำหรับชุดที่ใส่ในวันนั้นเป็นชุดไทยประยุกต์จากผ้าไหมแพรวา ที่ได้รับการออกแบบและตัดเย็บจากร้านแบรนด์เสื้อผ้า “ค้ำคูณ” ซึ่งโดยส่วนตัวมีความชอบแบรนด์นี้อยู่แล้ว เนื่องจากทางร้านตัดเย็บผ้าไทยออกมาได้สวยและมีความทันสมัยมาก วัยรุ่นหลายคนอาจจะไม่ค่อยมั่นใจ แต่สำหรับตัวเองซึ่งพอจะมีพื้นฐานจากการเรียนด้านแฟชั่นและแพทเทิร์นมา ขอยืนยันว่าถ้าได้รับการออกแบบและตัดเย็บที่ดี ไม่ว่าคนรุ่นไหนก็สวมใส่ได้อย่างมั่นใจ

"พิ้งค์พลอย" ปภาวดี ชี้หลักแต่งตัวให้มีสไตล์

"พิ้งค์พลอย" ปภาวดี ชี้หลักแต่งตัวให้มีสไตล์

         ถึงจะรู้ว่าตัวเองมีความสนใจเรื่องแฟชั่นเสื้อผ้า-การแต่งตัว มาตั้งแต่เด็กๆ ทว่าด้วยความไม่รู้บวกกับความไม่มั่นใจทำให้ นักแสดงสาวซึ่งกำลังมีผลงานถ่ายทำละครเรื่อง “สิงห์สั่งป่า” และ “รหัสริษยา” อยู่ในขณะนี้ ต้องเกือบพลาดในสิ่งที่ตัวเองถนัดและรัก 

         “ตอนเรียนมัธยมปลาย ได้เข้าไปขอคำแนะนำจากคุณครูแนะแนว ซึ่งตอนนั้นท่านแนะนำด้วยความเป็นห่วงว่า การเรียนทางด้านแฟชั่นค่อนข้างหนักมาก ทำให้ตัวเองเป๋ ใจแป้วเลย เพราะกลัวว่าจะเรียนไม่ไหว จึงเปลี่ยนใจไปชอบอย่างอื่น โดยลองเรียนมัณฑนากร ตั้งใจว่าหากเรียนจบแล้วจะกลับมาช่วยงานที่บ้าน แต่พอไปเรียนแล้วมันยิ่งรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เลยตัดสินใจกลับมาเรียนเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้าที่คณะเทคโนโลยี คหกรรมศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีเสื้อผ้าและแพทเทิร์น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ซึ่งเขาก็มีให้เลือกเพิ่มเติมอีกระหว่าง แฟชั่นกับแพทเทิร์น เลยเลือกแพทเทิร์นเพื่อลงลึกไปอีก (อันนี้คิดเองนะคะ)” นักแสดงสาวสังกัดช่อง 7HD เล่าถึงที่มาของความสนใจด้านแฟชั่นอย่างจริงจัง

"พิ้งค์พลอย" ปภาวดี ชี้หลักแต่งตัวให้มีสไตล์

         ถึงจะชอบการแต่งตัวตามแฟชั่น แต่ “พิ้งค์พลอย” ปภาวดี ย้ำว่าเธอไม่ใช่คนแต่งตัวประเภทเปรี้ยวจี๊ดมาก แต่ชอบดูว่าเสื้อผ้าแบบไหนเข้ากับตัวเอง ปกติถ้าแต่งตัวไปงาน เสื้อผ้าจะเป๊ะอยู่แล้ว บางครั้งมีปรึกษาพี่ๆ สไตลิสต์ รวมถึง “พี่หนิง” ปณิตา ธรรมวัฒนะ ว่าแต่งแบบไหนให้เหมาะ ส่วนถ้าไปเที่ยวก็จะคุมโทนทั้งตัวนิดหนึ่ง เพราะชอบโทนขาว ดำ เทา ซึ่งนอกจากเรื่องเฉดสีแล้วยังให้ความสำคัญกับเรื่อง “มิกซ์แอนด์แมตช์” อีกด้วย เช่น กางเกงเข้ากับเสื้อหรือไม่ หรือรองเท้าล่ะไปทางเดียวกับกระเป๋าหรือเปล่า ตอนเลือกเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวจะคิดแบบนี้ตลอด

"พิ้งค์พลอย" ปภาวดี ชี้หลักแต่งตัวให้มีสไตล์

         นอกจากการ “มิกซ์แอนด์แมตช์” แล้ว เรื่องการ “แต่งตัวตามกาลเทศะ” ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ “นักแสดงสาว” ให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องแพทเทิร์นและสไตล์ ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า จริงๆ แล้วตอนเด็กๆ เราชอบมองนะว่าคนนี้แต่งตัวสวยจัง คนนั้นแต่งตัวแซบจัง มันอาจดูว้าวในตอนนั้น อันที่จริงไม่ได้เป็นเรื่องผิดนะว่าใครจะแต่งแบบไหน ขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคน ข้อสำคัญต้องคำนึงว่าเราทำอะไรอยู่ บางคนอาจบอกว่า แบบนี้ใส่ชุดว่ายน้ำก็ต้องโป๊สิ มันโป๊ได้แต่ต้องอยู่ตามขอบเขตความเหมาะสมด้วย สำหรับตัวเองยังคงมองว่าการแต่งตัวตามวัย แต่งตัวให้เหมาะสมตามกาลเทศะ มันก็จะดูโตและสวยสมวัย เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน ทั้งนี้โดยหน้าที่การงานของตัวเองต้องออกงานสังคม ต้องไปตามสถานที่ต่างๆ ในบางครั้งต้องพบปะผู้คนจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่ามีหลากหลาย ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่ที่ต้องให้เกียรติ หรือเพื่อนรุ่นเดียวกัน เวลาไปตามสถานที่ต่างๆ เรื่องการแต่งกาย การเลือกเสื้อผ้าถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ มันช่วยส่งเสริมให้เราดูดีขึ้นด้วย ซึ่งเรื่องเทสต์การแต่งกายถึงจะเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ละคนย่อมมีความชอบต่างกันออกไป แต่การเลือกให้เหมาะกับสถานที่และเวลาตรงนั้นภายใต้รสนิยมที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของตัวเองอันนี้สำคัญที่สุด 

"พิ้งค์พลอย" ปภาวดี ชี้หลักแต่งตัวให้มีสไตล์

          การมี “ไอดอล” หรือ “แรงบันดาลใจ” เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้เราแต่งตัวได้สวยสง่าอย่างมีสไตล์ ซึ่ง "นางเอกสาว เจ้าของรางวัลพิเศษคนบันเทิงแต่งกายไทยร่วมสมัยดีเด่น” ก็เช่นกัน เธอยอมรับว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานแสดงก็ดี หรือการแต่งตัวก็ดี เธอนั้นก็มีต้นแบบอยู่หลายคน

          “สำหรับงานแสดงละครนั้น หนูไม่มีพี่ๆ เป็นต้นแบบหรือแรงบันดาลใจแบบรายบุคคล แต่หนูจะใช้แรงบันดาลใจจากพี่ๆ ที่หนูได้ร่วมกองทุกๆ ท่าน เพราะตัวเองเป็นเด็กใหม่ในวงการ เมื่อไปเจอกับพี่ๆ หรือผู้ใหญ่ในกอง หนูจะขอคำแนะนำจากท่านในเรื่องเทคนิคต่างๆ ที่สำคัญแต่ละท่านก็ยังมีมุมมองต่างกันออกไปทำให้ได้เทคนิคไม่เหมือนกัน ทำให้สามารถนำไปต่อยอดการแสดงของตัวเองหลากหลาย ในขณะเดียวกันเรื่องการแต่งตัวนั้นจะมี “อินฟลูเอนเซอร์” จากต่างประเทศชื่อ “Kelsey Simone” ที่หนูตามดูในไอจีของเขาบ่อยๆ ที่ชอบเพราะโทนในไอจีของเขาด้วย เขาคุมโทนขาวดำเทานี่ล่ะค่ะ ก็เลยชอบแล้วนำมาปรับใช้ให้เขากับบุคลิกของตัวเอง”

"พิ้งค์พลอย" ปภาวดี ชี้หลักแต่งตัวให้มีสไตล์

          จากความชื่นชอบในการแต่งตัวให้มีสไตล์ของตัวเอง บวกกับการได้ทำงานในวงการบันเทิงทั้งงานเดินแบบและงานแสดง จึงนำพา “พิ้งค์พลอย” มาสู่ “ความฝัน” อีกขั้นคืออยากทำงานในฐานะ “สไตลิสต์” โดยนางเอกดาวรุ่งพุ่งแรงในขณะนี้ เล่าถึงความฝันและเป้าหมายของเธอว่า เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ฝันอยากเป็นนางแบบอยากตัวสูงกว่านี้ แต่พอวันนี้ได้มายืนในจุดนี้ ตัวเองมองไปไกลอีกขั้นนั่นคืออยากเป็นสไตลิสต์ อยากเป็นคนดูแลเสื้อผ้าให้นักแสดงหรือนางแบบ ชอบการจัดให้เขาแต่งตัวมากกว่า และที่เราอยากทำอีกอย่างคืออยากทำเสื้อผ้าขาย อยากมีแบรนด์เป็นของตัวเอง แต่ถ้าทำก็คงเป็นแนวเรียบๆ ตอนนี้เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีตอนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ก็อยากทำแบรนด์เสื้อผ้า ที่ราคากลางๆ ลูกค้าเข้าถึงง่าย คิดว่าคงไม่ใช่ปีนี้ ต้องใช้เวลาในการศึกษาให้ลึกซึ้งอีกสักหน่อยทั้งเรื่องตลาดและกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ