"มิสสยาม" สืบสานเรื่องราวอันเป็นตำนานแห่งต้นตำรับสำรับไทย และมนต์เสน่ห์อันงดงามของความเป็นไทย
ด้วยรสชาติและรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ “อาหารไทย” มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่การที่จะได้ลิ้มลองรสชาติแบบไทยดั้งเดิมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหลายๆ ร้านได้ปรับแต่งสูตรจนกลายเป็นไทยฟิวชั่นไปแล้ว ในขณะที่ “มิสสยาม” (Miss Siam) ห้องอาหารไทยประจำโรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ ยังคงสืบสานเรื่องราวอันเป็นตำนานแห่งต้นตำรับสำรับไทย และมนต์เสน่ห์อันงดงามของความเป็นไทย บอกเล่าผ่านสำรับอาหารคาว โดยคัดสรรเมนูอาหารไทยจานพิเศษที่ถูกปรุงรสอย่างพิถีพิถันมาเสิร์ฟให้ได้ลิ้มรสกัน
บรรยากาศไทยร่วมสมัยตกแต่งแบบเรียบหรู
เชฟบอมเบย์ โชว์เมนูเด็ด“หลนปู-น้ำพริกตะไคร้”
“เชฟบอมเบย์” ไพโรจน์ ประไพรักษ์ เชฟใหญ่ประจำห้องอาหารมิสสยาม เผยว่า ต้องการนำเสนอเสน่ห์ของอาหารไทย ที่ไม่ว่าใครได้รับประทานก็ต้องติดใจในรสชาติ โดยใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบจากธรรมชาติมาประกอบการทำอาหาร อาทิ การใช้ใบตองห่อกะปิก่อนนำไปเผา เพื่อทำให้กะปิมีกลิ่นหอมยิ่งขึ้น หรือจะเป็นการใช้น้ำตาลเกสรมะพร้าวแทนน้ำตาลทราย เพื่อให้ได้รสหวานละมุน และกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบธรรมชาติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และเราเลือกนำมาปฏิบัติและสานต่อก่อนที่จะเลือนหายไปตามกาลเวลา
ข้าวเม่าหน้าหมี่
“อาหารไทยของเราเชฟได้โจทย์จากสถาปัตยกรรมของโรงแรมซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างยุโรปและไทย ซึ่งมีความทันสมัยและมีวัฒนธรรมแบบผู้ดีอยู่ด้วย ประกอบกับสถาปัตยกรรมบางส่วนจากสะพานหัวช้าง เราจึงกลับไปดูว่าสะพานหัวช้างเกิดในยุครัตนโกสินทร์ตอนกลาง อาหารของเราจึงไม่ใช่ยุคโบราณเสียทีเดียว แต่เป็นอาหารไทยที่เรารู้จัก ไม่ได้เลือกนำเสนอในเรื่องของความแปลกใหม่ เพียงแต่ดึงโจทย์อาหารไทยใกล้ตัวที่สัมผัสได้จริงมาเสิร์ฟในรูปแบบของชนชั้นเจ้านายซึ่งก็หมายถึงแขกทุกท่านที่เข้ามารับประทานนั่นเอง อาหารของเราจึงขึ้นชื่อในเรื่องของความประดิดประดอย ละเมียดละไม ด้วยวัตุดิบที่ไม่หวือหวา ทว่าเป็นวัตถุดิบดีที่สุด” เชฟบอมเบย์อธิบาย
ยำปูนิ่ม
สำหรับอาหารแนะนำที่มาแล้วไม่ควรพลาดชิม ขอเริ่มต้นด้วยอาหารกินเล่นอย่าง ข้าวเม่าหน้าหมี่ ที่มีให้กินเฉพาะฤดูที่มีข้าวเม่าเท่านั้น เชฟจะนำมาทอดจนข้าวเม่าพองแล้วนำไปคลุกเคล้ากับหน้าหมี่ กินคู่กับกุ้งชุบแป้งทอดและผักสดอย่างถั่วงอกและกุยช่าย ต่อด้วยเมนูเด็ด ยำปูนิ่ม เชฟเลือกใช้ปูลอกคราบช่วงกระดองอ่อนๆ มาทอดจนเหลืองกรอบ กินคู่กับยำมะม่วงสูตรเฉพาะที่ไช้น้ำตาลเกสรมาพร้าวเคี่ยว รสจะออกหวานละมุนและเปรี้ยวเล็กน้อยจากมะม่วง
เชฟบอมเบย์ โชว์เมนูเด็ด“หลนปู-น้ำพริกตะไคร้”
ปลาหมึกผัดไข่เค็ม
สำหรับลูกค้าต่างชาติที่ไม่ถนัดรสเผ็ด เชฟแนะนำให้ลอง หลนปู จัดมาในครกขนาดกะทัดรัด รสชาติออกหวานนิดๆ ทั้งยังได้ความหอมจากกะทิ ขณะที่ น้ำพริกตะไคร้ ที่เสิร์ฟมาด้วยกันเป็นน้ำพริกสดรสจัดจ้านมีสรรพคุณขับลม เคียงด้วยผักตามฤดูกาลอย่างกระเจี๊ยบ มะระขี้นก บวบงู มะเขือไข่เต่า ฯลฯ อีกเมนูแนะนำสำหรับคนไม่กินเผ็ดคือ ปลาหมึกผัดไข่เค็ม เป็นกึ่งลูกผสมอาหารจีน ด้วยการใช้ไข่เค็มดิบมาผัดกับปลาหมึกกล้วยสดๆ ชิ้นโต กินกับข้าวสวยร้อนๆ ฟินทีเดียว
ต้มข่ากระดูกหมูอ่อน
ต้มส้มปลากะพง
ส่วนอาหารประเภทน้ำที่ควรสั่งมาซดให้คล่องคอ แนะนำให้ลองเมนูขายดีอย่าง ต้มข่ากระดูกหมูอ่อน ด้วยการเอาน้ำพริกะปิค้างคืนมาต้มกับน้ำข่า ใส่หมูและเอ็นแก้วลงไปเคี่ยวจนเปื่อยนุ่ม แล้วใสโหระพาลงไปเพิ่มความหอม เวลาตักเข้าปากจะได้กลิ่นกะปิอ่อนๆ โชยมาแตะจมูก หรือจะเลือกเป็น ต้มส้มปลากะพง เชฟเลือกใช้ปลากะพงจากกระชังที่เลี้ยงในน้ำกร่อย ซึ่งเนื้อจะแน่นกว่าและไม่คาว ส่วนรสชาติโดยรวมจะคล้ายกับต้มข่ากระดูกหมูอ่อน แตกต่างตรงสมุนไพรที่ใช้ปรุงน้ำเท่านั้น ขณะที่ของหวานมี 2 เมนูที่อยากแนะนำคือ ข้าวเหนียวมะม่วงรสกลมกล่อม และบัวลอยเผือกแป้งนุ่มหนึบ ทั้งยังหวานหอมจากกะทิและน้ำมะพร้าว
บัวลอยเผือก-ข้าวเหนียวมะม่วง
คิดถึงรสไทยดั้งเดิมแวะไปชิมกันได้ ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11 โมงครึ่งไปจนถึง 5 ทุ่ม หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2217-0777, http://www.huachangheritagehotel.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง