พ่อหมอหนานอินสม ตอกเส้นล้านนา งานดีบ้านโฮ่ง

 

 

 

          น้ำเสียงใจดีของ พ่อหมอหนานอินสม สิทธิตัน จากปลายสาย ทำให้เรารู้ว่าพ่อหมอยังคงแข็งแรง แถมยังขี้เล่นอารมณ์ดีอีกด้วย เมื่อท่านบอกเราว่า ปีนี้จะกลับบ้านเดิมด้วยวัยที่มากแล้วถึง 57 ปี แต่อย่ากลับ (ฮา)

          บ้านเดิมของพ่อหมอ ท่านบอกว่าบนฟ้า แต่วันนี้ขอคุยกับพ่อหมอผ่านสายโทรศัพท์กันก่อนว่าชีวิตและเส้นทางของหมอยาพื้นบ้าน หมอไทยดีเด่นที่มีรางวัลการันตี เป็นมาเช่นใด

 

 

          และจริงๆ การตอกเส้นมันคืออะไรกันแน่ ข่าวว่าการรักษาตลอดจนการร่ำเรียนตามศาสตร์ชนิดนี้ ต้องอาศัยความเชื่อถือศรัทธาอยู่มาก มันจริงแท้ขนาดไหน

++

 

 

 

          โดยสายเลือด
          พ่อหมอหนานอินสม สิทธิตัน เกิดที่บ้านป่าป๋วย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ในครอบครัวชาวนาชาวไร่ทั่วไป 

          ด้วยความที่ครอบครัวยากจนจึงมีโอกาสร่ำเรียนหนังสือเพียงชั้น ป.7 จากนั้นจึงบวชเรียนเป็นสามเณรจนเรียนพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมตรี โท และเอก เป็นเหตุให้คนในหมู่บ้านเรียกท่านว่า “หนาน”

          และขณะที่บวชเรียนท่านก็ได้เรียนรู้ตำรายาสมุนไพรโบราณจากท่านครูบาพระปวน เหมะวัณโณ เจ้าอาวาสวัดห้วยกาน จนเมื่อสึกออกมาในวัย 25 ปี เสร็จจากทำไร่ไถนา ก็เปิดบ้านรักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วยมาจนถึงทุกวันนี้

          อย่างไรก็ดีพ่อหมอหนานอินสม เล่าว่า นอกจากร่ำเรียนมาจากขณะบวชเรียนแล้ว ที่จริงทางบรรพบุรุษก็เป็นหมอมาก่อน ไม่ว่าจะทางปู่ หรือทางตา

 

 

 

          “มันมีธงอยู่แล้ว คือเพราะว่าตาเป็นหมอพื้นบ้าน ปู่เป็นหมอพิธีกรรม เช่น สะเดาะเคราะห์ ส่งเคราะห์บายสีสู่ขวัญ ส่วนตาก็รักษาโรคต่างๆ ด้วยยาสมุนไพร คือมันอยู่ในสายเลือดทั้งฝั่งปู่เลย เมื่อก่อนพ่อก็ไม่อยากเรียนนะ แต่พอไปบ้านตา ตาก็บอกว่าเอ้าเก็บเอาไว้ ไปบ้านปู่ปู่ก็บอกว่าเอ้าจดเอาไว้ ไปอยู่วัดท่านสมภารก็บอกเอ้าอ่านเอาไว้ ต่อไปถ้าพวกเขาไม่ถึงที่ และเขาไม่มีทางไป เขาก็จะกลับมาหาเรา”

          และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

 

++

          รักษาดี ศรัทธาได้
          สำหรับความชำนาญเรื่องการรักษาโดยเฉพาะ “การตอกเส้น” ของพ่อหมอหนานอินสม แม้จะเพิ่งร่ำเรียนเอาในวัย 50 กว่า หลังจากเป็นหมอพื้นบ้านมาเนิ่นนานแล้ว แต่ก็จัดว่าเด็ด

          โดยพ่อหมอหนานอินสมท่านร่ำเรียนมาจาก "พ่อหมอณรงค์ อุณยะนัม" ซึ่งท่านเรียนต่อมาจาก “พ่อครูดาว พรหมณะ” อีกทอดหนึ่ง

          ลักษณะการรักษาโดยใช้ค้อนและรูปแบบการรักษาที่ต้องอาศัยความเชื่อถือศรัทธา ยังนับเป็นสเน่ห์ลึกลับที่พ่อหมอบอกว่าเรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ อย่างการเลือกไม้มารักษาก็ต้องเป็นไม้ที่ถูกฟ้าผ่า และถ้าใช้แก่นไม้มะขามก็จะทำให้โรคพยาธิเกรงขาม จากนั้นยังมีคาถากำกับค้อนด้วย

          “คนโบราณจะทำอะไรเขาต้องบริกรรมคาถากำกับตลอด แต่คนสมัยนี้น้อยคนที่จะทำได้ พ่อสอนคนมาในหลักพันคนนะ มีคนท่องได้ประมาณ 4-5 คนเท่านั้นเอง ถามว่ามันยาก ก็ไม่ยากนะ แต่อยู่ที่ความสนใจจริงของคน"

          ถามว่าการตอกเส้นดีอย่างไร พ่อหมอหนานอินสมเล่าว่ามันเข้าถึงจุดมากกว่าการนวดธรรมดา อย่างกระดูกทับเส้น ใช้หัวแม่มือไปกดมันไม่ถึง

          “อย่างสลักเพชรหรือแก้มก้นนะ หรือกระดูกไขสันหลังคด เราใช้หัวแม่มือไปกดไม่ไหว ไม่ถึง มันต้องใช้ค้อน จะให้ผลดีกว่านวดธรรมดา”

          อย่างไรก็ดี การรักษาแบบนี้หากใครห่วงกังวลเรื่องอันตราย พ่อหมอบอกว่าคงมีแต่ส่วนตัวไม่เคยพบ เพราะคนที่รักษาต้องผ่านการร่ำเรียนมาแล้ว อย่างตนเองเมื่อสอนคนจะกำชับเลยว่าห้ามตอกที่ “หัวกับหน้าแข้ง”

          ถามทำไม พ่อหมอตอบเสียงแจ้วว่า “เพราะมันเจ็บมากไง ลองเอามะเหงกเขกหน้าแข้งดูสิ (ฮา) ส่วนที่หัวยังไงก็ไม่ได้อยู่แล้ว มันเป็นจุดสำคัญ"

++

          ครูโดยแท้
          พ่อหมอบอกเราว่าน่าเสียดายที่แก่มากแล้ว เมื่อก่อนได้รับเชิญไปสอนหลายที่ เช่น วิทยาลัยสาธารณสุขสิรินธร, ม.นเรศวร, ม.รังสิต, มรภ.เชียงราย, ม.แม่ฟ้าหลวง แต่ทุกวันนี้ไปไม่ไหวแล้ว เลยเปิดสอนที่บ้านแทน

          แอบกระซิบว่าขณะที่คุยกันอยู่จะมีเสียงตอกโป๊กๆ จากปลายสายแทรกอยู่ตลอดเวลา พ่อหมอบอกว่ากำลังนั่งดูลูกศิษย์ตอกเส้นให้คนอยู่ เพิ่งมาเรียนได้ไม่กี่วันก็ชำนาญ เพราะมีความตั้งใจสูง

          ถามว่าค่ารักษาคิดอย่างไร พ่อหมอบอกแล้วแต่เขาจะบูชาครู โดยหลักๆ แล้วค่ายกครู 108 บาท ตามคุณของพระรัตนตรัย 108 มีพระพุทธคุณ 56 อักขระ คุณพระธรรม 38 อักขระ และคุณพระสงฆเจ้า 14 อักขระ

          “บางคนพอรักษาจนหายก็จะมีสิ่งที่ทางภาคเหนือเขาเรียกว่า “ดำหัว” แต่ภาษากลางเขาเรียกว่าสมนาคุณ บางคนก็ 108 บาท หายแล้ว ก็หายไปเลย (ฮา) บางคนก็กลับมาดำหัว 5,000-7,000 ก็ยังมี แล้วแต่คน”

          ทุกวันนี้พ่อหมอยังเปิดบ้านรักษาคนทุกข์ยากจากป่วยไข้ ใครสนใจติดต่อได้ที่บ้านพ่อหนานอินสม สิทธิตัน เลขที่ 52 หมู่ 3 บ้านป่าป๋วย ต.บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน โทร.08-9552-3934

          การันตีเพราะท่านได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพแห่งชาติ ให้เป็นหมอไทยดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2557 และอื่นๆ อีกมากมาย