Lifestyle

เที่ยวกาญจน์ส่งเสริมอัตลักษณ์ในชุมชน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เที่ยวท่ามกลางธรรมชาติที่กาญจน์สืบสานและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม

           ใกล้สิ้นปีแล้วใครวางแผนไปเที่ยวไหนกันบ้าง หากอยากไปสถานที่ทิวทัศน์สวยๆ พร้อมเซลฟี่เก็บทุกเหตุการณ์ไว้เป็นความทรงจำแต่ไม่อยากเดินทางไกลๆมีสถานที่อยากแนะนำซึ่งนอกจากจะบรรยากาศดี วิวสวยแล้ว ยังได้ศึกษาวัฒนธรรมของชุมชนอีกด้วย คือ “จ.กาญจนบุรี”

          เที่ยวกาญจน์ส่งเสริมอัตลักษณ์ในชุมชน

              ดินแดนแห่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ด้วยผืนป่า พรรณไม้ โถงถ้ำ น้ำตก และประเพณีวัฒนธรรมอันหลากหลายของผู้คนหลากเชื้อชาติ ทั้งไทย พม่า มอญ ปกาเกาะญอ (กะเหรี่ยง) ฯลฯ อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออารี  ยิ่งไปกว่านั้นกาญจนบุรียังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นแตกต่างกัน ซึ่งวันนี้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี รับอาสาพาไปเที่ยวที่ อ.ทองผาภูมิ ใน โครงการส่งเสริมอัตลักษณ์วิถีชีวิตวัฒนธรรมเพื่อความยั่งยืนและกิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนยั่งยืน 

เที่ยวกาญจน์ส่งเสริมอัตลักษณ์ในชุมชน

 สุสานพลายทองผาภูมิ

                   จุดแรกที่ไปเยี่ยมชมคือ ชุมชนบ้านห้วยปากคอก ที่นี่ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยน้ำสมุนไพรดื่มแล้วหอมชื่นใจ และยังมีการแสดงสื่อถึงความเป็นอัตลักษณ์ในชุมชนด้วย จากนั้นตรงดิ่งไปยัง สุสานพลายทองผาภูมิ ซึ่งมีประวัติที่น่าสนใจ ผู้ใหญ่บ้านเล่าให้ฟังว่า มีช้างที่ถูกนายพรานล่าจากฝั่งพม่าและเกิดบาดเจ็บเดินตกลงไปในฝาย ทางอุทยานได้นำมารักษาได้ประมาณ 1 ปี ช้างตัวนี้ก็ตายเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด เจ้าหน้าที่จึงนำร่างไปฝั่งไว้ในที่ที่เจอช้างครั้งแรก ต่อมาพบว่าช้างตัวนี้มีลักษณะตรงตามตำราคชศาสตร์ จึงเรียกกันว่า ช้างพลอยทองผาภูมิ    

เที่ยวกาญจน์ส่งเสริมอัตลักษณ์ในชุมชน

สนุกสนานกับการล่องแก่ง

          เราเดินทางต่อเพื่อไปเยี่ยมชม กลุ่มจักสาน ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ไผ่ และผลิตภัณฑ์แปรูปจากกล้วย ที่หมู่บ้านห้วยปากคอก ภายในหมู่บ้านยังมีสถานที่ที่มีความเงียบสงบเสมือนได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง ส่วนใครชอบทำกิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์แนะนำให้มา ล่องแก่ง ระดับน้ำตั้งแต่จุดแรกจนถึงจุดปลายทางสุดท้ายมีความลึกไม่มากนัก แต่กระแสน้ำจะค่อยๆ แรงไปตามเลเวลของแต่ละจุด ล่องไปเรื่อยๆ พร้อมชมฝูงนกและฝูงโคตลอด 2 ข้างทาง หลังจากทำกิจกรรมจนเหนื่อยล้าก็ได้เวลาเข้าพักผ่อนภายโฮมสเตย์ที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนกายกันอย่างเต็มที่

  เที่ยวกาญจน์ส่งเสริมอัตลักษณ์ในชุมชน

กลุ่มทอผ้าไหมจกกะเหรี่ยงและปักผ้า

เที่ยวกาญจน์ส่งเสริมอัตลักษณ์ในชุมชน

ขนมทองโย๊ะ

         เช้าวันใหม่อันสดใส หลังจากเติมอาหารเช้าจนเต็มกระเพาะแล้วเราเดินทางไปต่อที่  บ้านทิพุเย เพื่อชมการดำเนินงานของ กลุ่มทอผ้าไหมจกกะเหรี่ยงและปักผ้า ซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้คนในชุมชน นั่นเพราะผ้าปักจากฝีมือคนในชุมชนมีลวดลายมากมาย ทั้งยังเป็นงานฝีมือที่ม่ีความละเอียดละออเช่นเดียวกันกับการทอผ้าไหม ห่างกันไม่ไกลนักเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านไร่กาแฟ บ้านชะแล เพื่อชมไร่กาแฟที่ชาวบ้านปลูกเองไม่มีสารพิษเพราะปลูกด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ชาวบ้านที่นี่คั่วและบดเมล็ดกาแฟขายเป็นการสร้างรายได้และหากมีนักท่องเที่ยวแวะมาเยี่ยมเยียนก็สามารถลงมือคั่วและชงดื่มด้วยตัวเอง รับรองความกลมกล่อมและกลิ่นหอมละมุน ยิ่งได้กินคู่กับ ขนมทองโย๊ะ ที่มีงาดำเป็นส่วนผสมรับรองว่าฟินสุดๆ ทีเดียว

เที่ยวกาญจน์ส่งเสริมอัตลักษณ์ในชุมชน

ผลิตภัณฑ์เส้นบุก

           ต่อจากบ้านชะแลเราเดินทางต่อไปที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทำบุก เพื่อชมการแปรรูปจากบุกนำมาทำเป็นเมนูอาหารต่างๆ ที่ได้ชิมวันนี้คือลาบบุก รสชาติบอกเลยว่าแซบหลาย และอนาคตข้างหน้าทางชุมชนคิดที่จะนำบุกมาทำเป็นไข่มุกที่ใส่กับชาอีกด้วย หลังจากอิ่มท้องก็ได้เวลาเดินเล่นย่อยอาหารท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่บ้านพุล่อ ซึ่งไฮไลท์คือ น้ำพุร้อนลิ่นถิ่น ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจี ริมแม่น้ำแควน้อย ด้านในมีบ่อน้ำร้อนให้แช่ตัวแบ่งเป็นบ่อรวม บ่อส่วนตัว และบ่อสำหรับแช่เท้า รวมทั้งมีห้องบริการนวดสปา แวะมาผ่อนคลายสลัดความเหนื่อยล้ากันได้ทุกวัน ราคาก็ไม่แพงผู้ใหญ่เพียง 20 บาท ส่วนเด็ก 10 บาทเท่านั้น 

เที่ยวกาญจน์ส่งเสริมอัตลักษณ์ในชุมชน

น้ำพุร้อนลิ่นถิ่น          

            บ้านพุล่อยังมีโฮมสเตย์หลายขนาดไว้ให้นักท่องเที่ยวเลือกพัก หากมากันเป็นคู่หรือไม่เกิน 3 คนสามารถเข้าพักในบ้านขนาดกลางได้สบายๆ หรือหากมากันกลุ่มใหญ่ที่นี่ก็มีบ้านหลังใหญ่ไว้รองรับด้วย ขอบอกว่าภายในน่าอยู่มากๆ เปิดประตูหลังห้องพักจะเห็นทิวทัศน์ ภูเขา และหมอกปลิวสวยงาม หากใครอยากสัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนแบบใกล้ชิด จะนอนเต็นท์ก็ได้ฟีลไปอีกแบบ ยิ่งไปช่วงปลายปีแบบนี้รับรองว่าได้สัมผัสอากาศเย็นสบายแน่นอน แถมตื่นเช้ามายังได้ลิ้มรสอาหารเช้าร้อนๆ ที่ทางโฮมสเตย์จัดเตรียมไว้ให้ มีทั้งข้าวต้มหมูและกวยจั๊บญวนให้เลือกได้ตามใจชอบ หรือจะลองทั้งสองแบบก็ไม่ผิดกติกา ก่อนโบกมือลาเรายังไม่พลาดที่จะอุดหนุน แจ่วบองกัลยา ของขึ้นชื่อที่ใครมาก็ต้องซื้อกลับไปเป็นของฝาก เพราะนอกจากรสชาติจะถูกปากแล้วราคาก็ไม่แพงด้วย กระปุกละ 35 บาท แต่หากซื้อรวบ 3 กระปุก เขาคิดแค่ 100 บาท เท่านั้น 

เที่ยวกาญจน์ส่งเสริมอัตลักษณ์ในชุมชน

กลุ่มผลิตภัณฑ์ชาอบสมุนไพร

เที่ยวกาญจน์ส่งเสริมอัตลักษณ์ในชุมชน

ประเพณีผูกข้อไม้ข้อมือ

          วันสุดท้ายเราเดินทางเราไป กลุ่มผลิตภัณฑ์ชาอบสมุนไพร บ้านหนองบาง ที่นี่มีน้ำสมุนไพรหลากหลายรสชาติให้ลองชิม เช่น น้ำตะไคร้ รสชาติหอมและหวานกำลังดี น้ำมะตูมรสหวานอมเปรี้ยวผสมกับน้ำกระเจี๊ยบรสกลมกล่อม แต่ที่อินเทรนด์สุดๆ ต้องยกให้ชานมไข่มุกรสชาติหวานหอมกำลังดี นอกจากนี้ยังมีชาและสมุนไพรอบแห้งขายด้วย นักท่องเที่ยวสามารถซื้อกลับไปต้มดื่มเองที่บ้านได้ ก่อนกลับชาวบ้านยังร่วมกันทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อเรียกขวัญและเพื่อความเป็นสิริมงคล นับเป็นความประทับใจที่ชาวบ้านร่วมมือใจกันรังสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อนักท่องเที่ยวทุกคน 

ณรงค์กร สกุลไทยประสงค์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ