Lifestyle

การผ่าตัดส่องกล้องรักษามะเร็งปอด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การผ่าตัดส่องกล้องรักษามะเร็งปอด คอลัมน์...  ดูแลสุขภาพ

 

 


          โรคมะเร็งปอดเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มมะเร็งทั้งหมดมาตั้งแต่อดีต เนื่องจาก ณ เวลาที่ค้นพบโรคส่วนหนึ่งของผู้ป่วยจะอยู่ในระยะที่ 4 หรือระยะกระจายแล้ว ในปัจจุบันถึงแม้ว่าโรคมะเร็งปอดยังคงเป็นสาเหตุในการเสียชีวิตที่สูงที่สุดของมะเร็งโดยรวม

 

 

          แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นมีการใช้ Low Dose Computed Tomography (Low Dose CT), Computed Tomography Guided Biopsy (CT-Guided Biopsy), Navigational Bronchoscopy และ Positron Emission Tomography (PET/CT) ทำให้เราสามารถตรวจพบและวินิจฉัยมะเร็งปอดได้เร็วขึ้นในระยะที่ 1 หรือ 2 ซึ่งคนไข้ในกลุ่มนี้เราสามารถรักษาให้หายขาดด้วยการผ่าตัดส่องกล้องตัดปอดกลีบที่มีมะเร็งออกไปทั้งกลีบ (VATS Lobectomy) รวมทั้งการผ่าตัดในช่องอกด้วยการส่องกล้องและยังมีข้อบ่งชี้ในโรคอื่น เช่น โรคปอดแตกซ้ำซ้อน (Recurrent Pneumothorax) การตรวจชิ้นเนื้อปอด (Lung Biopsy) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis) โรคเนื้องอกที่ต่อมไทมัส (Thymoma) โรคมะเร็งหลอดอาหาร (Esophageal Cancer) โรคน้ำในช่องปอดหรือช่องหัวใจจากมะเร็ง (Malignant Pleural or Pericardial Effusion) เป็นต้น


          ๐ การรักษามะเร็งปอด
          การรักษามะเร็งปอดนั้นมี 3 วิธีการหลักๆ กล่าวคือ ผ่าตัด เคมีบำบัด และฉายแสง โดยขึ้นอยู่กับระยะของโรคเมื่อตรวจพบ ซึ่งแบ่งเป็นระยะได้ดังนี้
          ระยะที่ 1 (มะเร็งก้อนเล็กกว่า 3 เซนติเมตรและอยู่ในเนื้อปอดเท่านั้น) : ในคนไข้กลุ่มนี้เราสามารถรักษาโดยผ่าตัดได้เพียงอย่างเดียวโดยไม่ต้องรับเคมีบำบัดและฉายแสง โดยเฉพาะหากตรวจพบในระยะ 1a (ก้อนเล็กกว่า 1 เซนติเมตร) หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะมีโอกาสรอดชีวิตเกิน 5 ปี หรือหายขาดได้สูงถึง 92% ซึ่งในปัจจุบันมีการทำคัดกรองมะเร็งปอด (Lung Cancer Screening Program) ด้วยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Low Dose CT) ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งปอดสูง เช่น สูบบุหรี่วันละซองมากกว่า 30 ปี หรือเทียบเท่า มีประวัติมะเร็งปอดในครอบครัว เป็นต้น  ทำให้เราสามารถตรวจพบผู้ป่วยในระยะนี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก




          ระยะที่ 2 (มะเร็งก้อนใหญ่กว่า 3 เซนติเมตร หรือแพร่ไปที่ต่อมน้ำเหลืองในเนื้อปอดแต่ยังไม่ผ่านขั้วปอด) : ในคนไข้กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่รักษาโดยการผ่าตัดเป็นหลัก และอาจจะได้รับหรือไม่ได้รับเคมีบำบัดขึ้นอยู่กับผู้ป่วยเป็นกรณีไป 


          ระยะที่ 3 (มะเร็งลุกลามไปอวัยวะอื่นในช่องอกหรือแพร่ผ่านต่อมน้ำเหลืองขั้วปอด) : ในคนไข้กลุ่มนี้การรักษาจะมุ่งเน้นไปที่เคมีบำบัดหรือภูมิคุ้มกันบำบัดเป็นหลัก โดยร่วมกับผ่าตัดและฉายแสงเป็นกรณีไป 


          ระยะที่ 4 (มะเร็งกระจายไปอวัยวะอื่นหรือมีน้ำในช่องอกจากเชื้อมะเร็ง) : ในคนไข้กลุ่มนี้จะได้รับการรักษาโดยเคมีบำบัดหรือภูมิคุ้มกันบำบัดเพื่อบรรเทาอาการ โดยอาจมีการผ่าตัดเพื่อทุเลาอาการหากจำเป็น


          ๐ การผ่าตัดส่องกล้อง (VATS)
          ในกลุ่มมะเร็งปอดระยะที่ 1 และ 2 นั้น ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันเราสามารถผ่าตัดปอดออกทั้งกลีบ (Lobectomy) หรือผ่าตัดน้อยกว่าทั้งกลีบ (Sublobar Resection) ด้วยการส่องกล้อง หรือ Video-Assisted Thoracic Surgery (VATS) โดยมีความแตกต่างกับการผ่าตัดเปิดช่องอกแบบเดิม (Thoracotomy) ในประเด็นหลักคือการไม่ใช้เครื่องถ่างขยายซี่โครง (Rib Spreader) ซึ่งการใช้เครื่องถ่างขยายซี่โครงเปิดช่องอกก่อให้เกิดผลเสียต่อผู้ป่วยได้หลายปัจจัย เช่น ความเจ็บปวดหลังผ่าตัดสูงขึ้น ขนาดแผลใหญ่ กลับไปทำงานได้ช้าลง โอกาสปวดร้าวหรือชาตามเส้นประสาทในระยะยาวสูงขึ้น เวลาพักฟื้นเพื่อรับเคมีบำบัดนานขึ้น ระยะเวลาที่นอนโรงพยาบาลสูง 5-7 วันเทียบกับ 2-3 วันสำหรับผ่าตัดส่องกล้อง เป็นต้น


          ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมากทำให้ความคมชัดของกล้องมากขึ้นและกล้องขนาดเล็กลงเพียง 5 มิลลิเมตร ทำให้ในปัจจุบันผลแทรกซ้อนของการผ่าตัดส่องกล้องต่ำกว่าจากการผ่าตัดแบบเปิดช่องอก การผ่าตัดส่องกล้องจึงเป็นที่นิยมสูง โดยเทคนิคการผ่าตัดแบบส่องกล้องนั้นมีได้ทั้งผ่าตัดแบบ 3 แผล (Three Ports), 2 แผล (Two Ports) และแผลเดียว (Uniport) โดยการเลือกผ่าตัดชนิดใดนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ผู้ผ่าตัดและลักษณะโรคของผู้ป่วยเป็นสำคัญ


          ส่วนการที่จะเลือกผ่าตัดเป็นทั้งกลีบหรือน้อยกว่าทั้งกลีบนั้น ขึ้นอยู่กับขนาดและลักษณะของมะเร็ง การทำงานทางปอดของผู้ป่วย อายุ เป็นต้น โดยจะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป


          ๐ การผ่าตัดแบบเปิดช่องอก (Thoracotomy)
          ในกลุ่มมะเร็งปอดระยะที่ 3 โดยคนไข้ในกลุ่มนี้ตัวโรคมีการลุกลามไปอวัยวะอื่นในช่องอกหรือมาพิจารณาผ่าตัดหลังจากที่ได้รับเคมีบำบัด การผ่าตัดแบบเปิดช่องอกจะมีประโยชน์สำหรับคนไข้กลุ่มนี้เนื่องจากมีโอกาสที่ต้องนำปอดออกทั้งข้าง (Pneumonectomy) หรือต้องทำการการตัดต่อเส้นเลือดหรือหลอดลม (Sleeve Resection) ซึ่งการผ่าตัดเหล่านี้มีความซับซ้อนสูงกว่าการผ่าตัดกลีบปอดออกเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามในผู้ป่วยที่เหมาะสมเราสามารถผ่าตัดด้วย Robotic Assisted Thoracic Surgery (RATS) ได้ ซึ่งการใช้แขนกลของ Robot ทำให้เราสามารถควบคุมบริเวณที่ซับซ้อนได้เช่นเดียวกับผ่าตัดเปิดช่องอกแต่ไม่ต้องเปิดแผลขนาดใหญ่และใช้เครื่องถ่างขยายปอด

นพ.ผดุงเกียรติ ตั้งพิรุฬห์ธรรม
ศัลยศาสตร์ทรวงอกเฉพาะทางผ่าตัดส่องกล้องปอด
โรงพยาบาลกรุงเทพ

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ