Lifestyle

เมื่อสัญญาณจากผิวกายบอกโรคอันตรายในตัวคุณ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เมื่อสัญญาณจากผิวกายบอกโรคอันตรายในตัวคุณ คอลัมน์...  ดูแลสุขภาพ 

 

 

          ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจฉันใด ผิวพรรณก็เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความแข็งแรงสมบูรณ์ของสุขภาพร่างกายฉันนั้น เราทุกคนคงส่องกระจกเพื่อสำรวจรูปลักษณ์ภายนอกกันทุกวัน และบางท่านสำรวจกันวันละหลายๆ ครั้ง เชื่อหรือไม่ว่าเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เพื่อการสังเกตผิวหนังของเราได้อย่างถี่ถ้วน นอกจากจะช่วยให้เราดูดีแล้ว ถ้าสามารถช่วยให้ระแวดระวังโรคภัยต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้

 

 

          ๐ ผิวดำคล้ำขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีเหตุผล
          หากสังเกตตนเองแล้วพบว่าผิวดำขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ได้โดนแดดจัดหรือมีกิจกรรมกลางแจ้งแต่อย่างใด ผิวกลับคล้ำขึ้น พบปื้นดำตามเยื่อบุต่างๆ เช่น ในกระพุ้งแก้ม ร่องเส้นลายมือกลายเป็นสีคล้ำ ริ้วรอยแผลเป็นต่างๆ ดำขึ้นเรื่อยๆ อาการนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การรับประทานยาบางอย่าง เช่น ยาลดความดัน หรือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงโรคหลายชนิด เช่น โรคของต่อมหมวกไตที่สร้างฮอร์โมนได้น้อยกว่าปกติ การวินิจฉัยโรคนี้จะแน่ชัดก็เมื่อมีการพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและตรวจทางห้องปฏิบัติการอย่างละเอียด


          ๐ ผิวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
          หากสังเกตพบว่าผิวเหลืองขึ้นเรื่อยๆ อาจจะบ่งว่ามีตับอักเสบ หรือมีการอุดตันของทางเดินน้ำดีซ่อนอยู่ ภาวะนี้เรียกกันแต่เดิมว่าดีซ่าน หากสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงว่าผิวเริ่มเหลือง แนะนำให้ลองมองดูที่ตาขาว หากตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองด้วยรวมทั้งอุจจาระมีสีซีดลง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์อย่ารอช้า หากตัวเหลือง ฝ่ามือฝ่าเท้าเหลือง แต่ตายังไม่เหลือง ยังไม่ต้องตกใจ เนื่องจากการรับประทานผลไม้สีเหลือง เช่น มะละกอ ฟักทอง จำนวนมากๆ สารแคโรทีนในผัก ผลไม้ เหล่านี้ จะทำให้ผิวเหลืองขึ้นได้ หากหยุดกินสีเหลืองก็จะค่อยๆ จางลงและหายไปเองได้


          ๐ พบผื่นดวงขาวๆ ที่ผิวหนัง
          ถ้าเป็นดวงสีขาวและสีขาวจัดจนเหมือนกระดาษขาว เห็นขอบเขตได้ชัด ที่ใบหน้า แขนขา รอบดวงตา ริมฝีปากหรือในลำตัว อาจจะเป็นอาการแสดงของโรคด่างขาว ซึ่งเกิดจากเซลล์เม็ดสีถูกทำลาย ซึ่งผู้ป่วยด้วยโรคด่างขาวนี้ส่วนหนึ่งมีโรคของต่อมไทรอยด์ซ่อนอยู่ จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อจะได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด นอกจากจะป้องกันโรคที่แอบซ่อนอยู่ได้แล้ว ยังอาจจะรักษาให้ผิวกลับมาสวยเหมือนเดิมได้ด้วย

 



          ๐ สิวขึ้นแถมประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
          หากสิวขึ้นเยอะมากๆ หน้ามัน น้ำหนักตัวขึ้น เริ่มเห็นหนวด ขนดกยาวและประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เหล่านี้อาจเกิดจากฮอร์โมนที่ผิดปกติไปเนื่องจากโรคถุงน้ำในรังไข่ได้ ดังนั้นแม้เป็นสิวอย่านิ่งนอนใจ หากสิวเริ่มไม่ชิลอย่างที่คิด แถมด้วยอาการผิดปกติดังข้างต้น อย่าลืมแจ้งให้หมอผิวหนังของท่านทราบเพื่อจะได้ส่งตรวจต่อได้อย่างทันท่วงที


          ๐ ผิวแห้งแตกระแหง
          เมื่ออายุมากขึ้นผิวจะแห้งลงตามธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณหน้าแข้ง ซึ่งเราจะเห็นผู้สูงอายุหลายท่านมีปัญหาผิวพรรณที่แห้งมากถึงขั้นอักเสบเป็นผื่นได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามหากผิวแห้งหนักมาก แม้ทาโลชั่นครีมบำรุงก็ยังไม่ดีขึ้น แต่กลับแห้งแตกระแหงเป็นเกล็ดปลา ดังนี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเกิดการขาดสารอาหารบางอย่าง เช่น กรดไขมันจำเป็น หรืออาจจะเป็นโรค เช่น มะเร็งในต่อมน้ำเหลือง หรือเกิดการติดเชื้อบางอย่างขึ้น หากมีผิวแห้ง แนะนำเบื้องต้นให้บำรุงรักษาผิวให้ชุ่มชื้น งดการอาบน้ำที่อุ่นจัดจนเกือบร้อน หรือใช้สบู่ที่มีฤทธิ์เป็นด่างสูง หมั่นทาครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ สำรวจคลำก้อนที่บริเวณต่างๆ เช่น คอ รักแร้ หรือขาหนีบ โดยก้อนที่เป็นมะเร็งนั้นมักไม่เจ็บต่างจากการติดเชื้อทั่วไป หากยังไม่ดีขึ้นหรือคลำได้ก้อนแนะนำให้พบแพทย์ทันที


          ๐ คัน คัน คัน
          อาการคันเป็นอาการที่มาคู่กับผิวแห้ง หากผิวแห้งจะคันได้มาก แต่ในบางท่านอาการคันเป็นมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือถึงขั้นนอนไม่หลับเลยทีเดียว ทั้งๆ ที่ไม่มีผื่นแพ้ ไม่มีลมพิษ หากมีอาการเช่นนี้อาจเกิดจากการสะสมของสารที่ก่อให้เกิดการคันในร่างกาย ซึ่งพบได้ในโรคไตวายเรื้อรัง โรคตับ ในบางรายมีอาการคันมากหลังอาบน้ำ ซึ่งเป็นอาการแสดงเบื้องต้นของโรคเลือดบางชนิดอีกด้วย


          ๐ ผมร่วงมาก
          โดยปกติผมจะร่วงจากหนังศีรษะเป็นประจำอยู่แล้วเนื่องจากต้องมีการผลัดเปลี่ยนให้ผมเส้นใหม่ขึ้นมาแทนที่ แต่หากผมก็ร่วงเยอะมากๆ โดยเฉลี่ยเกิน 100 เส้นต่อวัน หรือแค่ลูบหรือดึงเบาๆ ก็หลุดติดมือออกมา อาจแสดงถึงความผิดปกติ เช่น เกิดจากยาบางอย่าง ภาวะเครียดของร่างกายอย่างรุนแรง โรคภูมิแพ้ตนเอง หรือโรคของต่อมไทรอยด์ ลองสังเกตอาการผิดปกติอย่างอื่นร่วมไปด้วย เช่น มีผื่นแพ้แสง แผลในปากด้วยหรือไม่ อาจจะเป็นอาการของโรคแพ้ภูมิตนเองที่เรียกว่า เอสแอลอี (SLE) มีเหงื่อแตก ใจสั่น น้ำหนักลด หงุดหงิดง่าย ซึ่งอาจเป็นอาการของฮอร์โมนต่อมไทรอยด์มากเกินไป


          สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยตระหนักอยากให้ทุกๆ คนหมั่นดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอ และสังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและร่างกายจะช่วยให้พบกับความผิดปกติหรือโรคได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ทางผิวหนังอาจช่วยให้ท่านป้องกันโรคร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว


รศ.พญ.ภาวิณี ฤกษ์นิมิตร
ประชาสัมพันธ์ สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ