ข่าว

ฟอร์ติเน็ตพลิก"เกม"สู่เครื่องมือปั้นนักป้องกันภัยไซเบอร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฟอร์ติเน็ตพลิก"เกม"สู่เครื่องมือปั้นนักป้องกันภัยไซเบอร์ คอลัมน์...   อินโนสเปซ  โดย...  บัซซี่บล็อก




          สัปดาห์ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับเลือกจากบริษัท ฟอร์ติเน็ต หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ระดับโลก ให้เป็นเวทีประชันฝีมือของบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญด้านนี้จากทั้ง 14 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก จำนวนกว่า 150 คน ในหลักสูตรการอบรมวิศวกรขององค์กรพันธมิตรด้านซีเคียวริตี้ในชื่อว่า “APAC NSE xperts Academy” (Asia Pacific Network System Engineer Experts Academy) ซึ่งมีจุดเด่นคือเป็นครั้งแรกที่นำรูปแบบการแข่งขันเกม (Gaming) มาใช้เป็นเครื่องมือสำหรับแข่งขันเฟ้นหาตำแหน่ง “สุดยอด” ในภูมิภาคนี้

 

 

          จากรายงานของ Cybersecurity Ventures คาดการณ์ไว้ว่า ปัญหาที่ซับซ้อนและเพิ่มมากขึ้น เมื่อผนวกกับสถานการณ์โดยรวมที่ยังขาดแคลนบุคลากรเก่งๆ ด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ส่งผลให้จะมีตำแหน่งงานว่างในสาขานี้ถึง 3.5 ล้านตำแหน่งงาน ภานในปี 2564 เมื่อดูจากแนวโน้มนี้ถึงเวลาแล้วที่ภาคธุรกิจและองค์กรต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟกต้องวางยุทธศาสตร์แบบ “คิดใหม่ ทำใหม่” เพื่อให้สามารถปกป้องระบบไอทีและรับมือภัยไซเบอร์ได้อย่างแข็งแกร่งและทันท่วงที


          นายพีระพงศ์ จงวิบูลย์ รองประธานแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และฮ่องกง แห่งฟอร์ติเน็ต กล่าวว่า รูปแบบการอบรมหลักสูตร APAC NSE xperts Academy มุ่งเน้นว่าเมื่อเรียนรู้แล้วสามารถลงมือแก้ปัญหาจริง แทนที่ผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรนี้จะเรียนเฉพาะเทคนิค จะมีการเพิ่มการแก้ปัญหาเข้าไป คือ เกม เพื่อให้ใช้ความรู้ทั้งหมดที่เรียนรู้มาแข่งขันกันแก้ไขสถานการณ์โจทย์ปัญหาในเกม เนื่องจากมองว่า “การแข่งขัน” คือกลไกสำคัญกระตุ้นการเรียนรู้และการให้ความรู้แบบครบวงจร


          โดยหลักสูตรนี้ใช้เกมเป็นเครื่องมือสอนกลุ่มเป้าหมายที่มีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ของฟอร์ติเน็ตระดับหนึ่งแล้ว เพื่อให้ยกระดับทักษะและเป็นผู้เชี่ยวชาญเชิงเทคโนโลยีมากขึ้น ผ่านการออกแบบหลักสูตรในรูปแบบของการแข่งขันเกม แพลตฟอร์ม และสถานการณ์ต่างๆ ที่ผู้อบรมต้องคิดแก้ไขตลอดเวลา ซึ่งจะสร้างแรงจูงใจบุคลากรด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ให้อยากพัฒนาตัวเองยิ่งขึ้นไปอีก




          เมื่อพันธมิตรได้ออกไปแบ่งปันความรู้ในกลุ่มใหม่ๆ แล้ว สมาชิกในกลุ่มจะได้รับความรู้ใหม่ๆ ไปด้วย จึงส่งให้สังคมไทยสามารถยกระดับกระบวนวิธีการคิดและศักยภาพในเรื่องการป้องกันภัยคุกคามให้สูงขึ้นไปด้วย นอกจากนี้เนื่องจากการอบรมเป็นระดับภูมิภาคมีผู้แข่งขันมาจากนานาประเทศ อาทิ ประเทศมาเลเซีย จีน ฮ่องกง ออสเตรเลีย แบ่งปันประสบการณ์ร่วมกันจึงสามารถช่วยยกระดับความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของวิศวกรไทยให้ทันเท่าเทียมประเทศอื่นในภูมิภาคและทั่วโลกอีกด้วย”


          นายเคลวิน ฉั่ว ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมระบบ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และฮ่องกง ผู้รับผิดชอบในการจัดหลักสูตร APAC NSE xperts Academy กล่าวว่า “ฟอร์ติเน็ตจัด NSE xperts Academy ขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้เป็นปีที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และประเทศไทยได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดงานเป็นครั้งที่ 2 โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้การอบรมมาจากฟอร์ติเน็ตในประเทศสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี มาเลเซียและสิงคโปร์ มีวิศวกรให้ความสนใจเข้ารับการอบรมจากประเทศในเอเชียแปซิฟิกประมาณ 160 คน โดยมีวิศวกรไทยร่วมด้วย 12 คน


          ด้านรูปแบบการแข่งขันจะจัดแบ่งเป็นทีม ทีมละ 2 คน ซึ่งแพลตฟอร์มที่เตรียมไว้รองรับการประลองฝีมือเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนให้เกิดการแบ่งปันประสบการณ์ด้านเทคนิคของผู้ร่วมหลักสูตร จากการแข่งขันกับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่างๆ


          “โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการตอบแทนสังคมและชุมชนในเรื่องความรู้และเทคนิคใหม่ๆ ด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ตลอดจนทักษะต่างๆ (Skill set) ที่จำเป็นต่อการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ผู้ที่เข้าร่วมแข่งขันจะได้เรียนรู้ชุดทักษะใหม่ๆ จากคู่แข่งที่มาจากประเทศต่างๆ ซึ่งจะช่วยพัฒนาให้พวกเขากลายเป็นมืออาชีพที่เชี่ยวชาญยิ่งขึ้น เพื่อสามารถช่วยเหลือองค์กรรับมือและตอบโต้กับการคุกคามทางไซเบอร์”


          ขณะที่รองประธานแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และฮ่องกงของฟอร์ติเน็ต กล่าวด้วยว่า เตรียมนำหลักสูตรจัดอบรมรูปแบบนี้ที่มุ่งพัฒนาผู้ที่เป็นมืออาชีพ มาประยุกต์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสร้างบุคลากรด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้รุ่นใหม่ให้แก่ประเทศไทยด้วย โดยมีแนวทางจะเข้าไปหารือความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับภาคการศึกษาในประเทศไทย จัดการเรียนการสอนที่มีการใช้เกม เข้าไปช่วยพัฒนาทักษะด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยจะเป็นอีกกลไกในการสร้างคนเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคลากรในสาขานี้


          “จากเวทีการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม ครั้งล่าสุด (World Economic Forum 2019) พูดถึงเรื่องการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ว่าจำเป็นต้องมีความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และยังย้ำด้วยว่าการศึกษา (Education) ระบบนิเวศ (Ecosystem) และเทคโนโลยี (Technology) จะเป็น 3 ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันไปสู่การปฏิวัติดังกล่าว หรือการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจดิจิทัล ซึ่งก็ตรงกับวิสัยทัศน์ของฟอร์ติเน็ต ซึ่งมีการทำงานด้านนี้ไปก่อนแล้วและมั่นใจว่ามีความพร้อมเหนือคู่แข่งในปัจจุบันในด้านนี้”


          หนึ่งในความท้าทายครั้งใหญ่ที่โลกกำลังจะเผชิญซึ่งมีการระบุบนเวทีประชุมครั้งนี้ มีตำแหน่งงานถึง 800 ล้านตำแหน่ง ซึ่งมีแนวโน้มจะถูกทดแทนด้วยหุ่นยนต์ ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับแรงงานมนุษย์ที่จะพัฒนาทักษะ หรือ skill set ใหม่ๆ ที่จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ในโลกของการทำงาน


          ผู้บริหารของฟอร์ติเน็ต ได้ยกตัวอย่างในเรื่องการศึกษา ว่าฟอร์ติเน็ตมีการเปิดศูนย์เรียนรู้มากถึง 141 แห่งใน 57 ประเทศ และผลิตบุคลากรที่ได้ใบรับรองแล้วกว่า 300,000 คน อีกทั้งมีการทำหลักสูตรที่เป็น Open Learning ให้คนทั่วไปหรือสถาบันการศึกษาต่างๆ เข้าไปศึกษาหลักสูตรที่เป็น basic security ในหัวข้อที่สนใจผ่านเว็บไซต์ด้วย

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ