Lifestyle

โรลส์-รอยซ์  คัลลิแนน หรูอยากลุย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โรลส์-รอยซ์  คัลลิแนน หรูอยากลุย คอลัมน์...  ยานยนต์

 

 

          ในโลกนี้มีรถยนต์มากมายหลายยี่ห้อหลายแบบ บางรุ่นหลายคนสงสัยว่าขายได้อย่างไร ทั้งเรื่องของรูปลักษณ์ รูปแบบ หรือบางคันที่มีราคาแพงลิ่ว คำตอบก็อาจจะเป็นดังด้านบน ก็คือ มันตอบสนองความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

 


          และรถบางรุ่นบางยี่ห้อ ก็ทำให้ตัวเองเป็นมากกว่ารถ อย่างเช่น โรลส์-รอยซ์ ที่ลูกค้าอาจไม่ได้มองว่าเป็นรถ แต่ว่าเป็นโรลส์-รอยซ์

 

 

โรลส์-รอยซ์  คัลลิแนน หรูอยากลุย

 


          รถที่มีตราสัญลักษณ์โผล่มาบนฝากระโปรงรถที่โดดเด่น ครองตลาดซูเปอร์ลักชัวรี่ มายาวนาน และวันหนึ่งก็มีความท้าทายครั้งใหญ่ นั่นคือการโดดเข้าไปเล่นในตลาดเอสยูวีเป็นครั้งแรกเมื่อปีกว่าๆ ที่ผ่านมาในรุ่น “คัลลิแนน”


          ในเชิงธุรกิจ ความนิยมของรถเอสยูวีขยายตัวไปทั่วโลก และในทุกระดับตลาด แต่ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ภาพของเอสยูวีไปทางสายลุยมากกว่าสายหรู ช่วงแรกๆ จึงอาจดูขัดแย้งอยู่บ้างกับการที่รถซูเปอร์ลักชัวรี่จะลงมาเล่นในตลาดนี้ แต่ก็อาจะต้องให้เครดิตกับรถยนต์หลายๆ ยี่ห้อก่อนหน้านี้ที่ยกระดับตลาดนี้ขึ้นมา รวมถึงการมีรถพรีเมียมโดดลงมาเล่นในตลาดนี้เช่นกัน

 

 

 

โรลส์-รอยซ์  คัลลิแนน หรูอยากลุย

 


          และเมื่อโรลส์-รอยซ์ เข้าสู่ตลาดนี้ ก็ยืนยันว่าเป็นการต่อยอดแบบไร้รอยต่อ ลูกค้ายังได้ความเป็นโรลส์-รอยซ์ แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือความสามารถในการใช้งานที่หลากหลายขึ้น


          รายละเอียดปลีกย่อยของคัลลิแนนที่โรลส์-รอยซ์ นำเสนอกับลูกค้า เริ่มต้นตั้งแต่ชื่อรุ่นที่มาจากชื่อเพชรที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก ซึ่งนำไปประดับอยู่บนมงกุฎของพระราชินีอังกฤษ จากนั้นเมื่อจะเข้ารถแค่ใช้มือแตะมือจับประตู บานประตูก็จะเปิดกว้างเพื่อให้เข้าได้ง่าย พร้อมกับตัวถังรถจะลดระดับลง 40 มม. ด้วยการทำงานของช่วงล่างแบบถุงลม เพื่อให้ขึ้นรถง่ายขึ้น และเมื่อนั่งเรียบร้อย ก็ไม่ต้องเสียแรงดึงบานประตูบานใหญ่แต่อย่างใด แต่ใช้วิธีแตะเช่นกัน ประตูจะปิดให้อัตโนมัติ


          ที่บานประตูหลังยังมีลูกเล่นคือ ซ่อนร่มเอาไว้ทั้ง 2 ด้าน กรณีที่มีคนขับรถเมื่อลงมาเปิดประตูให้นาย ก็ทำได้พร้อมกับดึงร่มออกมาเตรียมพร้อมได้เลย

 

 

โรลส์-รอยซ์  คัลลิแนน หรูอยากลุย

 


          เข้ามาในห้องโดยสารก็จะพบกับความกว้าง และหรูหรา ทั้งหนังหรือว่าลายไม้ ซึ่งไม้แต่ละคันก็จะต่างกันไป และมีจุดที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกภาคภูมิในการเป็นเจ้าของ คือท่อนไม้ชิ้นที่นำมาแปรรูปตกแต่งภายในรถ ซึ่งยังใช้ไม่มีหมด จะถูกเก็บไว้สำหรับรถคันนี้โดยเฉพาะ หากวันหนึ่งวันใดมีเหตุต้องเปลี่ยน ก็จะได้ไม้ลายเดิม


          การควบคุมระบบต่างๆ ทำได้ผ่านทัชสกรีนกลางแดชบอร์ด หรือผ่านแป้นควบคุม Spirit of Ecstasy ที่อยู่บริเวณคอนโซลกลาง และการควบคุมระบบขับขี่ออฟโรด ก็สามารถเลือกปรับระดับสูงต่ำของตัวถังได้ ทั้งนี้การลุยน้ำ โรลส์-รอยซ์ ระบุว่าลุยได้ลึก 54 ซม. ซึ่งมากที่สุดในกลุ่มเดียวกัน


          เบาะหลังซึ่งเลือกได้ว่าจะเอาแบบนั่ง 3 คนหรือ 2 คน พับได้หลายแบบด้วยไฟฟ้า และหากนั่งคนเดียว ก็ใช้พนักพิงของอีกเบาะเป็นโต๊ะทำงานได้เลย

 

 

 

โรลส์-รอยซ์  คัลลิแนน หรูอยากลุย

 

 

          ยังมีลูกเล่นอีกมากมาย รวมถึงหากยังไม่พอใจ ก็สามารถสั่งออปชั่นเพิ่มเติมได้ เช่น ใครอยากได้เก้าอี้ด้านท้ายสัก 2 ตัว เอาไว้เปิดฝาท้ายแล้วนั่งชมวิวจิบน้ำชา แต่ก็ต้องจ่ายหนักสักหน่อย แต่ก็อย่างที่บอกครับว่านี่มันมากกว่าการเป็นแค่รถยนต์


          ด้านสมรรถนะ คัลลิแนนใช้เครื่องยนต์เบนซินวี 12 ขนาด 6.75 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 571 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที ขับเคลื่อน 4 ล้อ โรลส์-รอยซ์ บอกว่ามันไปได้ทุกที่ที่อยากไป ทั้งทางออฟโรด หรือทะเลทราย


          แต่ผมมีเวลากับคัลลิแนนไม่มากนัก เราก็ไปกันแค่พื้นที่กรุงเทพฯ ก็พอ


          สำหรับในกรุงเทพฯ รถมีขนาดใหญ่เอาเรื่องทีเดียว กับความยาว 5,341 มม. กว้าง 2,164 มม. และสูง 1,835 มม. และแบกค่าตัวประมาณ 41 ล้านบาทเอาไว้ เพราะคันนี้เพิ่มเติมออปชั่นพิเศษเข้ามาอีกหลายล้านบาท

 

 

โรลส์-รอยซ์  คัลลิแนน หรูอยากลุย

 


          แต่เมื่อได้ขับจริง ราคาก็ไม่ได้กดดันอะไร ขนาดรถก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเครียด ใช้งานได้ปกติเหมือนรถทั่วไป ซึ่งสมรรถนะของเครื่องยนต์นั่นแหละเป็นตัวเพิ่มความคล่องตัว แรงบิดมหาศาล ช่วยให้รถกระฉับกระเฉง พุ่งไปข้างหน้าเมื่อได้ไฟเขียวอย่างรวดเร็ว และอัตราเร่งที่ปราดเปรียว แม้แต่ตอนไต่ขึ้นสะพานชันๆ ก็พุ่งไปข้างหน้าไม่ต่างจากทางราบ และเผลอครู่เดียวตัวเลขความเร็วพุ่งขึ้นไปจนถึงระดับความเร็วที่ควรจะต้องรีบผ่อนเท้าจากคันเร่ง


          ทัศนวิสัยที่ชัดเจน จากความสูงของรถ และมุมมองที่กว้างทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และหลัง ก็ช่วยให้การควบคุมรถง่ายขึ้น


          ช่วงล่างก็คงจะถูกใจลูกค้าแน่นอน เพราะให้ทั้งความนุ่ม นั่งสบาย แต่ก็สามารถจัดการกับทางโค้งได้ดี แม่นยำ และมีอาการโยนตัวน้อย


          ขณะที่พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลัง ก็กว้างขวาง นั่งสบาย จึงไม่แปลกใจว่าที่สุดผมก็ตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะนั่งหลังพวงมาลัย หรือว่าไปนั่งที่เบาะหลังดี

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ