เปิดประสบการณ์ค่ำคืนสุดพิเศษ

          ภัทริสร์ จิตรถเวช ฟาวเดอร์ แอนด์ ครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์ แห่ง แทงโก้ ทูไนท์ กรุ๊ป จัดงานเปิดตัว คริมซัน รูม (Crimson Room) อย่างเป็นทางการ เนรมิตค็อกเทล บาร์สไตล์ แก็ตสบี้ สุดหรูบนโลเกชั่นใจกลางเมือง พาเหล่าแจ๊สเลิฟเวอร์ย้อนเวลากลับไปยังยุคทองแห่งดนตรีแจ๊ส พร้อมลิ้มรสเครื่องดื่มระดับพรีเมียม โดยมีดาราและเซเลบริตี้ อาทิ “บี” น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์, คริส หอวัง, “วุ้นเส้น” วิริฒิพา ภักดีประสงค์, “เจนิส” พีชนา เอกชัย, “มายด์” ณภศศิ สุรวรรณ, “พลอย” พลอยพยัพ ศรีกาญจนา, “พอลลี่” พรพรรณ สิทธินววิธ, พลอย ปิ่นแสง, “จินนี่” เขริกา โชติวิจิตร, “แคลร์” วีรานันท์ สดากรวงศ์วัชร์, นาตาลี ดูเชียง, “แจม” กานต์ จาติกวณิช, “วร” ทัตวร สุกัณศีล ฯลฯ ร่วมงาน ที่ร้านคริมซัน รูม เมื่อค่ำวันก่อน

 “บี” น้ำทิพย์

คริส หอวัง-“วุ้นเส้น” วิริฒิพา

          บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคักด้วยคอนเซ็ปต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 1920 The Roaring Twenties หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นยุคแห่งการหลอมรวมวัฒนธรรมที่หลั่งไหลเข้ามา จนทำให้ทั้งแฟชั่นและดนตรีแจ๊สเฟื่องฟูจนถึงขีดสุด ถ่ายทอดออกมาผ่านการออกแบบร้านสุดหรู ให้ความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยมและความคลาสสิก เพิ่มความสนุกสนานด้วยสไตล์แก็ตส์บี้ ภายใต้โครงสร้างเพดานสูงโอ่อ่า และแชนเดอเลียร์ทองเหลืองที่ดีไซน์ออกมาคล้ายกับแซกโซโฟนห้อยลงมาอย่างโดดเด่น พร้อมด้วยสเต็ปที่นั่งแบบสเตเดียม โดยทุกที่นั่งหันหน้าเข้าสู่เวที

​​​​​​​

“มายด์” ณภศศิ

          เปิดม่านแห่งความอภิรมย์ด้วยดีเจและไลฟ์แจ๊สไพเราะมาวอร์มอัพให้ได้ขยับแข้งขยับขาก่อนถึงช่วงเวลาไฮไลท์ ตามด้วยโชว์ที่ครีเอทขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เริ่มจากโชว์ “เวลคัม ทู คริมซัน รูม” ที่ดึงเอาคาแร็กเตอร์ต่างๆ ภายในบาร์จากยุค 1920 ทั้งบาร์เทนเดอร์ นางโชว์ หนุ่มสาวแก็ตสบี้ หรือจะเป็นมาดามเจ้าของร้าน ข้ามเวลามาร่วมเนรมิตโชว์เพื่อต้อนรับทุกคนเข้าสู่ค็อกเทล บาร์แห่งนี้อย่างประทับใจ สลับกับโชว์กายกรรมอันน่าทึ่ง ปิดท้ายด้วยโชว์ยิมนาสติกกลางอากาศสุดหวาดเสียวแต่งดงามจนยากจะละสายตา

          นอกจากนี้ยังได้เหล่าซิกเนเจอร์ค็อกเทลที่ร้อยเรียงอรรถรสแห่งการดื่มไว้อย่างละเมียดละไม มาเติมเต็มบรรยากาศให้ผู้มาร่วมงานได้ลิ้มลอง โดยบอกเล่าผ่านอารมณ์อันหลากหลายของ 4 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงเวลาที่ไฟดิมเมอร์ภายในโรงละครค่อยๆ หรี่ลงจนมืดสนิท ดึงความสนใจจากทุกประสาทสัมผัสของเหล่าผู้ชมให้เตรียมพร้อมพบกับความรื่นรมย์ที่รออยู่หลังม่านการแสดง ต่อด้วยช่วงเวลาที่ทำให้ดวงตาเบิกกว้างยามเมื่อม่านกำมะหยี่สีแดงสดเคลื่อนตัวขึ้นเผยให้เห็นโชว์แห่งค่ำคืนที่ทุกคนจับตามอง ตามมาด้วยไฮไลท์โมเมนต์ของค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลอง นั่นคือจังหวะความสนุกสนานที่ทะยานขึ้นถึงขีดสุด ตามเสียงดนตรีจากแบนด์ซึ่งเตรียมโชว์มาแสดงได้อย่างไร้ที่ติ ปิดท้ายด้วยช่วงเวลาเมื่อโชว์จบลง พร้อมเสียงปรบมือที่ดังขึ้นอย่างกึกก้อง สร้างความรู้สึกสุขสมที่ยากเกินจะบรรยาย