อัลติส ไฮบริด ทางเลือกคนชอบประหยัด

วันนี้ขออนุญาตนำเรื่องราวจากการได้ไปร่วมทดสอบ โคโรลล่า อัลติส ไฮบริด รุ่นท๊อป กับตัวรถที่จัดอุปกรณ์ออปชั่นมาให้ชนิดว่าใครให้อะไรฉันก็มี...และบวกกับเทคโนโลยีไฮบริดที่มาในเจนที่ 4 แบตเตอรี่มาด้วยขนาดที่เล็กลงชาร์จไฟเก็บได้เร็วขึ้น การผสมผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์กับเครื่องยนต์ที่จับทางของการทำไม่ได้เลย!!!  แต่ประหยัดมาก!! และย้ายมาลงไว้ที่ใต้เบาะหลัง เพิ่มความจุตรงสัมภาระท้ายได้มากขึ้น

อย่างที่รู้กัน นับเป็นครั้งแรกของกลุ่มรถขนาด c-segment ที่มีเครื่องยนต์ Hybrid ติดมาให้กับราคาเริ่มต้นไม่ถึงหนึ่งล้านบาท  Corolla Altis Hybrid ถือว่าสร้างฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นและสร้างความเข้าใจให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ และมีภาครัฐช่วยด้านภาษีจึงทำให้ราคาลดลง ถึงจะแพงกว่าตัวเก่าไม่กี่พันบาท แต่แลกกับการอัดเทคโนโลยีความปลอดภัยมาให้ชนิดค่ายคู่แข่งมองตาปริๆ แต่ถือว่าต่างคนต่างมีข้อดีกันคนละอย่าง

แล้ว โคโรลล่า อัลติส ไฮบริดใหม่ ล่ะเหมาะสมกับใครดี งั้นมารู้จักกับจุดขายหลักก่อนจะเล่าถึงการขับจริง มากับ สถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA ที่คุยไว้ว่าตัวต่ำลง และทำให้จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถโดยรวมลดลง เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวทั้งการขับขี่ทางตรงและในขณะเข้าโค้ง

และการออกแบบภายนอกภายใต้แนวคิด “Shooting Robust” เส้นสาย ที่โฉบเฉี่ยว แต่หลายคนบอกว่าเหมือนเปลี่ยนหัวเปลี่ยนท้ายเท่านั้น!  ภายในได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Clean & Wide” คำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานจริง เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย แต่เอาเข้าจริงกลับไม่เอาใจรถครอบครัวเลยเพราะช่องเก็บของภายในรถแทบไม่มีการวางธนบัตรไว้จ่ายค่าทางด่วน! 

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ต้องเล่าคือ ช่วงล่างด้านหน้ามาแบบ MacPherson Strut และช่วงล่างด้านหลังให้อิสระแบบปีกนกคู่ Double Wishbone ให้มาแบบนี้ต้องงเกาะถนนแน่นอน และให้ความนุ่มนวลดี ที่ชอบมาคือการซับแรงสั่นสะเทือนในตำแหน่งต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม เวลาขับผ่านถนนที่ขรุขระ ตัวรถเก็บอาการได้เยี่ยมไม่มีอาการสะท้านมาถึงพวงมาลัยถือว่าดีมากๆ ต้องชมเชย  โคโรลล่า อัลติส ใหม่

ยังเพิ่มวัสดุดูดซับเสียง ขึ้นมาแต่เวลาขับจริงกลับรู้สึกผิดหวัง ไม่ว่าจะเสียงลมปะทะ เสียงยางที่ลอดเข้ามาด้านผู้โดยสารตอนหลัง ทุกอย่างชัดเจนเมื่อใช้ความเร็ว 120 กิโลเมตรขึ้นไป อาจจะเพราะคันที่ทดสอบใช้ยาง Dunlop SP Sportmaxx ไซส์ 225/45R17  แต่ทางโตโยต้ากลับให้บางคันเป็นยาง Michelin primacy 4 225/45R17  แน่นอนลายดอกของยางก็มีผลต่อเสียงเวลาวิ่งแต่ละสภาพถนน

ยังไม่จบครับ โคโรลล่า อัลติส ใหม่ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรและ 1.6 ลิตร เบนซินให้เลือกใช้เพิ่มตามความต้องการ สุดท้ายที่นับว่าเป็นข้อดีที่เห็นชัดเจนของรุ่นที่ 12  ตัวนี้คือระบบความปลอดภัย  ไม่ว่า ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Active Safety) แยกย่อยเป็นระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor)

และระบบช่วยเตือนในขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) อีกทั้งยังคงมีระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น ถือว่าให้ครบ ส่วนในรุ่น  Hybrid High คันนี้ยังมี Toyota Safety Sense มีระบบการทำงานเพิ่มขึ้นคือ Dynamic Radar Cruise Control แบบ Full-Speed range สามารถปรับลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งตามรถยนต์ คันหน้าและระบบ Lane Tracing Assist ที่ช่วยประคองรถยนต์ให้วิ่งอยู่ในเลนได้เอง แม้ในขณะเข้าโค้ง  นี่เลยคือจุดเด่นของรถคันนี้ เพราะได้ใช้จริงแล้วชอบมาก ถึงแม้จะใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่น่าจะเป็นเพราะยังไม่คุ้นเคยเพราะใช้เวลาขับเป็นระยะสั้นๆ เท่านั้น!!

แน่นอนระบบความปลอดภัยหลังการชน (Passive Safety) มีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ตัวรถเสริมโครงสร้างด้านหน้าถ่ายเทแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ และโครงสร้างด้านข้างแบบวงแหวนลดการยุบตัวจากการชน 

โดยรถคันที่ทดสอบเป็นรุ่น Hybrid High ราคา 1,099,000 บาท เครื่องยนต์รหัส 2ZR-FXE เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง ทวินแคม  DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.8 ลิตร แรงม้า 98 แรงม้าที่ 5,200 รอบ แรงบิดที่ 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที บวกมอเตอร์ไฟฟ้าจากระบบ Hybrid อยู่ที่ 53 กิโลวัตต์  แรงบิดจากมอเตอร์ทำได้ที่ 163 นิวตันเมตร ส่งผลให้แรงม้ารวมกันอยู่ที่ 122 แรงม้า

ระบบส่งกำลังใช้เป็นเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT  หลายคนว่านี่คือรถแม่บ้าน แต่ถ้าพูดให้ถูกรถ Hybrid High คันนี้เหมาะสมกับ คนที่ชอบเดินสายกลาง ไม่ชอบกดคั่นเร่งหนัก ไม่ใช่คนเค้นประสิทธิภาพรถ แม่บ้านที่ชอบขับรถให้ลูกๆ นั่งไปเรียนหนังสือ คนที่ชอบใช้เวลาชิวๆ ฟังเพลงเพราะๆ ในรถ (มัลติมีเดียคันนี้พออาศัยฟังได้ แต่เปลี่ยนลำโพงดีๆ กับ sub box ซักตัวจะชิวได้อีก....)

แค่นี้จะมองภาพออกว่าใครเป็นคนที่สมควรเป็นเจ้าของ และเชื่อว่ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ขายดีมากสุด แต่ถ้ากังวลว่าเวลาจะแซงรถแต่ละทีไหวไหม เชื่อใจได้ครับถ้าอยู่ในช่วงความเร็ว 80-120 แต่ถ้าเกินกว่านั้นกะระยะหน่อย กำลังเครื่องยนต์ช่วงนั้นตอบสนองหนืดไปหน่อย? และน่าเสียดายทำไมไม่ติด Paddle Shift มาให้เลย... 

ด้วยคันเกียร์ไล่เรียงจะมีเพิ่มแต่เกียร์ B ซึ่งน่าจะย่อจากคำว่า brake และคำถามต่อว่าถ้างั้น Hybrid High รุ่นท๊อปคันนี้สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่เท่าไร? ชนิดที่ขยี้แล้วขยี้อีก ตัวเลขได้เพียง 171 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เท่านั้น!

โตโยต้า ตั้งให้สุดไว้เพียงแค่นี้ แต่ทางสายมืดก็คงสามารถไปปลอดล็อคได้เช่นกัน  และกว่าจะทำตัวเลขความเร็วสูงสุดก็ใช้ระยะทางไกลพอควร และ ลองจับอัตราเร่ง 0-100 บนถนนจริง โดยถนนที่ทดสอบมีความลาดเอียงขึ้นเนิน  แต่ก็ทำเวลาได้ที่ 12 วินาที ใกล้เคียงสเปกที่โรงงานเครมออกมา แต่ความประหยัดต้อง ซูฮก ให้เพราะขับความเร็วขนาดนี้ตัวเลขที่ผมได้ยังอยู่ที่ 19.0  กิโลต่อลิตร เท่านั้น สุดจริง!

 

ก่อนจะจบ ขอวกกลับมาเรื่องภายในที่ออกแบบมาได้แปลก คอนโซลหน้ามากับขนาดใหญ่แบ่งเป็นสองชั้นมีมุมแหลมยื่นเข้ามาและจากมุมกระจกล่างจนถึงปลายคอนโซลหน้ายาวประมาณ 2 ฟุต กว้างขนาดนี้ แต่กลับไร้ที่ว่างของจุกจิกให้กับสมาชิกในรถ และมีจอแบบทัชสกีนแปะติดอยู่ตรงกลางกับขนาด 7 นิ้ว ซึ่งดูแล้ว ชั้นเชิงการดีไซน์ มาแบบคนไร้อารมณ์นึกว่ามีก็เลยติดให้!

ช่อง USB ช่วยชาร์จมือถือหรือเชื่อมต่อกับรถ ก็ให้มาแบบกลัวรถจะแพงขึ้น กับหนึ่งช่องด้านหน้า กับหนึ่งช่องตรงที่ท้าวแขน ด้านหลังที่เด็กๆ นั่งไม่ต้องมี? สรุปรถครอบครัว 4 คนจริงไหม  รถแม่บ้านจ่ายตลาดคนเดียว?  ผมมองว่าตัว โคโรลล่า อัลติส ไฮบริด ตอบโจทย์เรื่องประหยัดอย่างเดียวสำหรับคนมองหา กับเทคโนโลยีที่ติดปลายนวมให้ แต่จำเป็นไหมสำหรับผมไม่! เพราะยังเป็นเพียงอุปกรณ์เสริมช่วยผู้ขับ ถ้าจะเลือกผมมองที่รุ่น  Hybrid Entry ราคา 939,000 บาท สุดท้ายผู้ขับขี่จะต้องตัดสินใจทุกครั้งอยู่ดี ตอนหน้าผมจะมาเล่า "รู้ก่อนซื้อ" กับ โคโรลล่า อัลติส ไฮบริด ว่าทั้ง 6 รุ่นย่อยมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง...

เรื่อง: ธวัชชัย พิชิตรณชัย                                                                                                                                         

E-mail : [email protected] 

Facebook https://www.facebook.com/AeyTawatKomchadluek/