ข่าว

ผสานวิถีชีวิตคนสองยุคสู่ธุรกิจชุมชนยั่งยืน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชุมชนบนดอยสูงที่อยู่ห่างไกล แต่ทุกวันนี้อัพเกรดตัวเองให้เป็นกะเหรี่ยงออนไลน์

          ในยุคที่ช่องทางออนไลน์กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มรายได้ให้แก่บรรดาพ่อค้าแม่ค้า ไม่ว่าธุรกิจใดหากต้องการอยู่รอดในยุคนี้สมัยนี้ต่างก็ต้องหันมาเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่เว้นแม้แต่ “ชุมชนหล่ายแก้ว” ชุมชนบนดอยสูงที่อยู่ห่างไกล แต่ทุกวันนี้อัพเกรดตัวเองให้เป็นกะเหรี่ยงออนไลน์ ผสานวิถีชีวิตของคนสองยุคเข้าด้วยกันเพื่อนำไปสู่ธุรกิจชุมชนที่ยั่งยืน ด้วยการยื่นมือเข้าไปช่วยพัฒนาของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และลาซาด้า (Lazada) ภายใต้ “โครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้ประกอบการ สำหรับ SMEs”

ผสานวิถีชีวิตคนสองยุคสู่ธุรกิจชุมชนยั่งยืน

ชุมชนชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง

          จันทร์คำ ปู่เป็ด ประธานศูนย์การเรียนรู้ผ้าทอกะเหรี่ยง เล่าว่า ชุมชนหล่ายแก้ว หรือบ้านหล่ายแก้ว เป็นชุมชนชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง กลุ่มชาวโผล่งที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ใน ต.บงตัน อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านในชุมชนนี้จะพูดได้อย่างน้อยสามภาษา คือ ภาษาไทยกลาง ภาษากะเหรี่ยง และภาษาเหนือ รายได้ของชุมชนมาจากการประกอบอาชีพหลัก คือ การทำสวนลำไย และมีอาชีพเสริมคือการทำหัตถกรรม ทำไม้กวาด ทอผ้ากะเหรี่ยงและแปรรูป ที่มีกรรมวิธีทำเป็นธรรมชาติทุกขั้นตอน และมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชุมชนที่สวยงาม ด้วยอัตลักษณ์อันโดดเด่นนี้ชุมชนจึงอนุรักษ์ผ้าทอลายดั้งเดิมควบคู่ไปกับการทำสินค้าหัตถกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย โดยทางชุมชนได้ตั้งร้านค้าและศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมผ้าทอกะเหรี่ยงตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 เพื่อรวบรวมสินค้าในชุมชนออกไปขายสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน ช่วยให้หลายๆ คนไม่ต้องเดินทางไปประกอบอาชีพไกลถึงในตัวเมือง

ผสานวิถีชีวิตคนสองยุคสู่ธุรกิจชุมชนยั่งยืน

จิตต์ปภัสร์-จันทร์คำ ปู่เป็ด

          จากวิถีชีวิตดั้งเดิม ผ่านรุ่นสู่รุ่น จนมาถึง “จ๋า” จิตต์ปภัสร์ ปู่เป็ด หนึ่งในสมาชิกชุมชน เล่าว่า เติบโตมาในชุมชนหล่ายแก้วด้วยวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม เห็นการเปลี่ยนผ่านของสิ่งต่างๆ มากมาย รับรู้ถึงความสำคัญและเรื่องราวที่มาที่ไปในรากเดิมของเรา จึงอยากอนุรักษ์วิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์นี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อไป ขณะเดียวกันชาวบ้านเองต้องมีธุรกิจที่ยั่งยืนและเติบโตได้มากขึ้นบนโลกปัจจุบัน จึงนำความรู้ด้านเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการผสมผสานวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเข้ากับวิถีชีวิตของคนในยุคนี้ ถ่ายทอดเรื่องราวประเพณีผ่านผืนผ้า เพิ่มช่องทางในการขายสินค้าโดยขายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ผู้ซื้อได้เข้าถึงเอกลักษณ์ของชุมชนมากขึ้น

ผสานวิถีชีวิตคนสองยุคสู่ธุรกิจชุมชนยั่งยืน

ผสานวิถีชีวิตคนสองยุคสู่ธุรกิจชุมชนยั่งยืน

ผสานวิถีชีวิตคนสองยุคสู่ธุรกิจชุมชนยั่งยืน

ผสานวิถีชีวิตคนสองยุคสู่ธุรกิจชุมชนยั่งยืน

          "เริ่มเรียนรู้อย่างจริงจังโดยความช่วยเหลือจาก สสว. และลาซาด้า ซึ่งเข้ามาช่วยให้ความรู้ และให้คำแนะนำในการทำร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มของลาซาด้า เครื่องมือต่างๆ ทำให้ชุมชนห่างไกลอย่างบ้านหล่ายแก้วได้เข้าถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพื่อจำหน่ายสินค้าไปได้กว้างไกล และสามารถขยายตลาดมาสู่ตลาดอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ขึ้น สร้างรายได้ให้ชาวบ้านมากขึ้น ที่สำคัญคือไม่ใช่เรื่องยาก ชาวกะเหรี่ยงในหมู่บ้านสามารถบริหารจัดการร้านค้าของได้ด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้ชีวิตของชาวบ้านแตกต่างจากเมื่อก่อนที่ต้องรอให้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมชุมชนถึงจะขายสินค้าได้ แต่หลังจากเข้าสู่ระบบออนไลน์แล้วปัจจุบันไม่จำเป็นต้องรอให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมชุมชนก็สามารถขายสินค้าได้ทุกวัน” สาวกะเหรี่ยงยุคใหม่เผย

ผสานวิถีชีวิตคนสองยุคสู่ธุรกิจชุมชนยั่งยืน

ผสานวิถีชีวิตคนสองยุคสู่ธุรกิจชุมชนยั่งยืน

สุพัชเชษฐ์ เภาวะนิต

          ด้าน สุพัชเชษฐ์ เภาวะนิต รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารและพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการ บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด เล่าว่า ลาซาด้าและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อสร้างความรู้ และยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการตลาดออนไลน์อย่างยั่งยืน โดยชุมชนหล่ายแก้วถือเป็นชุมชนต้นแบบที่เราช่วยดูแลตั้งแต่ขั้นตอนในการเปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์มของลาซาด้า ให้คำแนะนำการเริ่มต้นขายสินค้า รวมไปถึงการจัดอบรมการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้แก่ชุมชน เน้นการสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน ในอนาคตชาวบ้านสามารถนำองค์ความรู้เหล่านี้ไปพัฒนาและขยายธุรกิจของตัวเองต่อไปได้ ทั้งยังรักษาวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของชุมชนไว้อีกด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ