มงลง "เกรซ" นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ วัน 21 ปี เป็นนักศึกษา เอกจิตวิทยา จิตอาสาโครงการแก้ปัญหาผู้ป่วยซึมเศร้า
เมื่อเวลา 20.30 น.ที่พาราเดี่ยม ฮอลล์ โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ร่วมกับบริษัทบีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สตาร์ดอม เอเชีย จำกัด ได้จัดประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 รอบตัดสิน
เริ่มเปิดเวทีด้วยความสดใสจาก 24 สาวงามผู้เข้าประกวดฯ กับโชว์พิเศษ โดยมี “นิโคลีน” พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 และรองอันดับ 1 มิสเวิลด์ 2018 ร่วมแสดงด้วย ก่อนที่ 24 สาวงามจะกลับมอีกครั้งพร้อมแนะนำตัวทีละคน ต่อด้วยการอวดโฉมชุดว่ายน้ำ และชุดค็อกเทล แล้วจึงประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้าย โดยเริ่มจาก 6 รางวัลฟาสแทร็กที่เข้ารอบอัตโนมัติ ได้แก่ รางวัลนางงามจิตอาสา โดยธนาคารออมสิน ได้แก่ หมายเลข 3 “เกรซ” น.ส.นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ,
รางวัลความสามารถด้านทักษะนางแบบ โดย BSC Cosmetology และ รางวัลความสามารถพิเศษ โดยโรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ ได้แก่ หมายเลข 18 “เนิส” น.ส.ดุสิตา ทิพโกมุท, รางวัลความสามารถด้านทักษะกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้แก่ หมายเลข 5 “พลอย” น.ส.ปรียาดา บัวสมบุญ, รางวัลทักษะการกล่าวสุนทรพจน์ (Head to Head Challenge) ได้แก่ หมายเลข 11 “แอล” น.ส.ลักขนาวัลย์ ประดับแก้ว และรางวัลมิสพีเพิลส์ ชอยซ์ อะวอร์ด ได้แก่ หมายเลข 5 และผู้เข้ารอบอีก 7 คน ได้แก่ 2,6,8,9,12,19,6, 13 และ 17
สาวงามผู้เข้าประกวด 12 คนสุดท้ายออกมาอวดโฉมอีกครั้งด้วยชุดราตรีแบรนด์ Narong จากนั้นทั้งหมดโชว์วิสัยทัศน์เพื่อรณรงค์โครงการจิตอาสาของตัวเอง หรือปัญหาทางสังคมด้านอื่นๆ ที่สนใจ มีเวลาให้ 30 วินาทีเท่านั้น แล้วประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย ได้แก่ หมายเลข 18,15, 13,3, 17 และ6
ผู้ผ่านเข้ารอบ 6 คนสุดท้ายตอบคำถามโดยการเลือกซองคำถาม มีเวลาให้ 30 วินาที ก่อนพิธีกรรวบรวมผลคะแนนจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ประกาศผู้ผ่านเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย ได้แก่ 18,6 และ3
ซึ่งทุกคนต้องตอบคำถามสุดท้ายเป็นคำถามเดียวกัน โดยขณะที่คนแรกตอบคำถาม อีกสองคนใส่หูฟังเพื่อไม่ให้ได้ยินคำถามและคำตอบ เรียกว่าตื่นเต้นทั้งผู้เข้าประกวดและผู้ชมนั่งไม่ติดกันเลยทีเดียว จากนั้น “นิโคลีน” พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 ขึ้นอำลาตำแหน่ง หลังจากทำหน้าที่ตลอดระยะเวลา 1 ปีได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมสร้างประวัติศาตร์คว้ารองอันดับ 1 เวทีระดับโลก มิสเวิลด์ 2018 มาครองได้สำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
เสร็จแล้วจึงเข้าสู่วินาทีระทึกใจประกาศผลผู้คว้าตำแหน่งอันทรงเกียรติ “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019” ได้แก่ หมายเลข 3 “เกรซ” น.ส.นรินทร ชฎาภัทรวร ได้รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท ,มงกุฎเพชร, รถยนต์ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนรองอันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 6 “แผ่นฟิล์ม” น.ส.พมลชนก ดิลกรัชตสกุล รับเงินรางวัล 500,000 บาท ,มงกุฎเพชร และรางวัลอื่นๆ ขณะที่รองอันดับ 2 ได้แก่ หมายเลข 18 “เนิส” น.ส.ดุสิตา ทิพโกมุท รับเงินรางวัล 300,000 บาท ,มงกุฎเพชร และอื่นๆ
“น้องเกรซ” กล่าวหลังจากคว้ามงกุฎหมาดๆ ว่า ดีใจและตื้นตันใจกับการที่ตัวเองสามารถทำได้ อยากสานต่อโครงการเพื่อผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เอาความรู้ที่ได้เรียนมาไปใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ จะพยายามพิชิตมงฟ้ามิสเวิลด์กลับมาให้คนไทย
สำหรับมิสไทยแลนด์เวิลด์คนล่าสุด “เกรซ” น.ส.นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษาปี 4 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เอกจิตวิทยา สนใจทำงานจิตอาสาโครงการแก้ปัญหาผู้ป่วยซึมเศร้า “เลท มี เฮีย ยู” ซึ่งเป็นโครงการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครให้คำปรึกษานักศึกษาที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า
โดยเธอตอบคำถามในรอบ 3 คนสุดท้ายที่ว่า ในฐานะที่คุณจะเป็นตัวแทนของประทศไทย คุณคิดว่าคุณสมบัติใดในตัวคุณที่จะทำให้โลกเข้าใจในความเป็นคนไทยได้ดีที่สุด?
“คิดว่าการยิ้มสู้ หมายถึงเราสามารถที่จะผ่านสถานการณ์ ไม่ว่าจะแย่หรือมีความสุข ดังนั้นเกรซเชื่อว่านอกจากคนไทยจะยิ้มสวยแล้ว แต่เราต้องมีความยิ้มสู้ด้วยที่จะสามารถฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคที่จะเข้ามาหาเรา” สาวจิตวิทยา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง