คอลัมน์ - พิชิตปัญหาสัตว์เลี้ยง โดย - นสพ.วิรัช ธนพัฒน์เจริญ หรือหมอเล็ก [email protected]
สวัสดีครับพวกเราทราบหรือไม่ว่าสัตว์เลี้ยงเช่น สุนัขและแมว ก็สามารถมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานเหมือนกับคนได้ ใช่แล้วครับท่านผู้อ่าน ไม่ผิดครับมาดูกันว่าเบาหวาน คือภาวะเกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่ตับอ่อนทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ จึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกินไป โดยโรคเบาหวานจะเกิดขึ้นมาจากการที่ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง ซึ่งปกติน้ำตาลจะเข้าสู่เซลล์ร่างกายเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน ภายใต้การควบคุมของฮอร์โมนอินซูลิน
คราวนี้มาดูว่าในสัตว์มีเบาหวานแบบใดบ้าง โดยโรคเบาหวานในสุนัขนั้นมีความคล้ายคลึงกับโรคเบาหวานประเภท 1 ที่พบได้ในมนุษย์ ส่วนแมวสามารถเป็นโรคเบาหวานที่คล้ายกับโรคเบาหวานประเภท 2 แล้วอะไร คือ ประเภท เบาหวาน ขออธิบายว่าเบาหวานประเภท 1 คือการที่ตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้ ส่วนเบาหวานประเภท 2 คือตับอ่อนยังพอผลิตอินซูลินได้บ้าง แต่มีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ในบางรายมีเบต้าเซลล์เสื่อม ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี อาจจำต้องฉีดอินซูลิน โดยอาจสังเกตอาการได้ดังนี้ในสัตว์เลี้ยงของคุณ
ฉี่บ่อยหรือมากกว่าปกติหรือไม่ การฉี่มากขึ้นถือเป็นหนึ่งในสัญญาณของโรคเบาหวานในสุนัขและแมว ซึ่งอาการที่ว่านี้ก็สามารถพบได้ในคนที่เป็นโรคเบาหวานเช่นกัน ทั้งนี้เมื่อน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หากมันถึงขีดจำกัดน้ำตาลก็จะเริ่มไหลเข้าไปในน้ำปัสสาวะ และนั่นก็จะทำเกิดกระบวนการที่เรียกว่า Osmotic diuresis ทำให้สัตว์ฉี่ออกมามากและบ่อยกว่าปกติ
กินน้ำจากถ้วยบ่อยขึ้น คุณเคยสังเกตไหมว่าสัตว์เลี้ยงมีพฤติกรรมการกินน้ำที่เปลี่ยนไป? ถ้าพวกเขากินน้ำบ่อยกว่าปกติ ไม่แน่ว่าอาจกำลังเป็นโรคเบาหวานก็ได้ การเกิดความรู้สึกกระหายน้ำเพิ่มขึ้นถือเป็นสัญญาณทั่วไปของโรคเบาหวานที่พบได้ทั้งในคน สุนัข และแมว อย่างไรก็ดี สัตว์ที่เป็นโรคเบาหวานจะฉี่เป็นจำนวนมากและบ่อยกว่าที่เคย ซึ่งเป็นผลทำให้กินน้ำบ่อยขึ้นเพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียผ่านทางปัสสาวะ
กินอาหารมากขึ้น แต่มีน้ำหนักตัวลดลง ถ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณมีน้ำหนักลดลงทั้งๆ ที่มันกินจุกว่าเดิม คุณก็อาจต้องเฝ้าสังเกตเขาให้ดีเพราะการเจริญอาหารเพิ่มขึ้น และการมีน้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุถือเป็นอาการพื้นฐานของโรคเบาหวานในสัตว์และมนุษย์
ไม่มีแรงหรือไม่ทำกิจกรรม ถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณดูไม่กระตือรือร้น หรือนอนพักมากกว่าปกติพวกเขาเอาจจะตกอยู่ในภาวะคิโตซิส (Diabetic Ketoacidosis) ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายใช้ไขมันเป็นพลังงานแทนน้ำตาล ทำให้มีการผลิตและก่อตัวขึ้นของสารเคมีที่เรียกว่า คีโตน ซึ่งมันทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนเพลียได้
คราวนี้มาดูแนวทางการรักษา หลังจากเจ้าของสังเกตอาการแล้วต้องให้สัตวแพทย์ตรวจวินิจฉัยด้วยการหาระดับน้ำตาลในกระแสเลือด โดยสัตว์ต้องได้รับการควบคุมงดน้ำ และอาหารก่อนการตรวจ หากพบความผิดปกติ แนวทางการรักษา คือ การปรับโภชนาการ และอาจมีการพิจารณาใช้ฮอร์โมนอินซูลิน โดยต้องหาขนาดยาให้เหมาะสมกับสัตว์ป่วยรายตัว เนื่องจากการตอบสนองต่อฮอร์โมนอาจแตกต่างกันไป โดยทั่วไปหากพบภาวะน้ำตาลในกระแสเลือดต่ำ ต้องให้สัตว์ได้รับน้ำตาลทันที
สาเหตุโรคนี้มีหลายปัจจัยคล้ายมนุษย์ เช่น พันธุกรรม ภาวะโภชนาการ หรือการผิดปกติของตับอ่อน และอื่นๆ การคุมโภชนาการไม่ให้สัตว์มีภาวะอ้วนเกิน จึงเป็นการป้องกันที่ดีในเบื้องต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง