Lifestyle

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"คินชิโร่ (Kinshiro)" ร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ส่งต่อความอร่อยมาจากเมืองนางาซากิ เมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่น

      เวลาไปรับประทานอาหารญี่ปุ่นน้อยคนนักจะสนใจที่มาที่ไปของร้าน เอาแค่ว่ามีชื่อเสียงพอประมาณรสชาติอร่อยถูกปากเป็นอันใช้ได้ แต่รู้สึกเหมือนกันมั้ยว่าจานเด็ดที่กำลังใช้ตะเกียบจัดการอย่างเมามันอยู่นั้นพอได้รู้ต้นตอความเป็นมาก็จะรู้สึกว่ายิ่งอร่อยเป็นเท่าตัว อารมณ์เดียวกับตอนที่อยู่ใน “คินชิโร่ (Kinshiro)” ร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ส่งต่อความอร่อยมาจากเมืองนางาซากิ เมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่น โดยหนุ่มไทย “กอล์ฟ” สหบดินธร์ พงศ์เจตน์พงศ์ ผู้คลุกคลีอยู่ในวงการอาหารญี่ปุ่นมานานอีกทั้งเคยไปใช้ชีวิตที่แดนอาทิตย์อุทัยมาพอสมควร อยากให้คนไทยได้ลิ้มรสวัฒนธรรมอาหารนางาซากิ จึงตัดสินใจเจรจาแล้วนำมาปักหลักในเมืองไทย สำคัญว่าได้หุ้นส่วนใหญ่เป็นเชฟญี่ปุ่นจากนางาซิกิและโอกายามา มาสำแดงฝีมืออีกด้วย

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

หน้าร้านน่าตื่นเต้นเร้าใจ

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

กินดื่มท่ามกลางงานศิลปะกราฟฟิตี้

     “กอล์ฟ” เจ้าของร้านเล่าว่า สไตล์อาหารของคินชิโร่เป็นรสญี่ปุ่นดั้งเดิม ตั้งแต่สมัยคุณพ่อของหุ้นส่วนทำโรงงานถั่วงอกในเมืองนางาซากิ มาถึงรุ่นลูกทำโรงงานเส้นก๋วยเตี๋ยว รวมถึงซอส และซุป ลูกค้าแน่นร้านทุกวัน สำหรับร้านในเมืองไทยเปิดมาได้ 4 ปี เดิมอยู่ที่โครงการเรนฮิลล์ สุขุมวิท 47 ก่อนจะย้ายมาอยู่ในซอยบางนา-ตราด 23 หลังเซ็นทรัล บางนาได้ประมาณ 8 เดือนแล้ว พร้อมตั้งคอนเซ็ปต์ใหม่เพิ่มความเป็น “อิซากายะ” หรือกินดื่ม และ “ราเมง” คราวนี้ล่ะสนองนี้ดชาวกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น จัดเต็มทั้งอาหารดั้งเดิมอิ่มท้องแล้วนั่งชิลต่อด้วยเครื่องดื่มแบบฟูลออปชั่น 

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

บรรยากาศภายในร้านอบอุ่นนั่งสบาย

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

สลัดหมูชาบู

      กางเมนูสำรวจรายการอาหารหลากหลายมาก ทั้งซาซิมิ, ซูชิ, ยากิโทริหรือปิ้งย่างที่ทำซอสเอง ยังมีสเต๊ก, ข้าวอบ, หม้อไฟ, เทมปุระ, สลัด, ยำ, กระทะร้อน และจัมปง สำหรับจานเด่นดังที่มาแล้วต้องไม่พลาดสั่งขึ้นโต๊ะ เริ่มจากสลัดอยากให้ลอง “สลัดหมูชาบู” ที่ใช้หมูสไลด์ลวกโปะหน้าสลัดที่ราดด้วยครีมสลัดสีขาวสไตล์ญี่ปุ่น รสชาติน้ำสลัดกลมกล่อมเข้ากับผักและหมูชาบู บอกเลยอร่อยขนาดคนไม่ชอบสลัดยังต้องขอชิม ต่อด้วยอีกจานเรียกน้ำย่อยที่ขายดีและเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน “ยำสามอย่าง” เสิร์ฟมาในจานหลุมแบ่งเป็นยำหนวดหมึกยักษ์, ยำแซลมอน และยำหอยปีกนก เด็ดที่น้ำยำรสเผ็ดเปรี้ยวหวานกำลังดีสไตล์ไทยๆ แต่ใช้พริกขี้หนูแดงแทนพริกขี้หนูเม็ดเล็กเพื่อลดระดับความจัดจ้าน รับประทานได้ทั้งคนไทยและต่างชาติแน่นอน 

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

ยำสามอย่าง

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

ไข่ม้วนใส่น้ำซุป

      ของกินเล่นที่อร่อยใช่เล่นยังมี  “ไข่ม้วนใส่น้ำซุป” สูตรเฉพาะของร้าน ไม่ได้ทำง่ายๆ ต้องเจียวไข่บางๆ แล้วม้วนเป็นสิบๆ ชั้นกว่าจะได้เป็นก้อนพอคำ กัดแล้วมีน้ำซุปไหลออกมาช่วยเพิ่มความอร่อยและกลืนง่าย เช่นเดียวกับ “หมูผัดกะหล่ำปลีห่อไข่” เสิร์ฟมาร้อนๆ ก้อนหนาๆ แล้วตัดให้เห็นเนื้อใน ความอร่อยอยู่ที่ใช้ซอสรสหวานหอมคล้ายๆ ทาโกะยากิ

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

หมูผัดกะหล่ำปลีห่อไข่

      เอาใจแฟนปลาดิบด้วยชุด “ซาซิมิ 7 อย่าง” ทั้งปลามากุโร, แซลมอน, ซูซูกิ, หนวดหมึกยักษ์, หอยโอตาเตะ, กุ้งหวาน และหอยปีกนก แต่ละชิ้นการันตีความสด มาที่ “สุกี้หม้อไฟ” มีให้เลือกทั้งไก่, เนื้อวัว และหมูดำคุโรบุตะ น้ำซุปหวานแบบญี่ปุ่น พอสุกี้ได้ที่่ก็คีบร้อนๆ แล้วจุ่มไข่ไก่สดที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน ชิมรส นุ่มละมุนลิ้นมากๆ  

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

ชุดซาซิมิ

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

สุกี้หม้อไฟหมูคุโรบุตะ

      ส่วนไฮไลท์ของร้านต้องยกให้จานเนื้ออย่าง “สเต๊กเนื้อสันนอกเซอร์ลอยด์” ที่คัดเลือกอย่างดีจากนางาซากิ การันตีด้วยรางวัลรับรอง 2 ปีซ้อน เป็นเนื้อจากวัวสีดำคุณภาพเกรดเอ 4 มีมันแทรกลวดลายสวยงาม แล่มาเป็นชิ้นพอคำแล้วหมักเกลือพริกไทย เสิร์ฟมาพร้อมกระทะสำหรับจี่เนื้อ เวลารับประทานก็ทาเนยที่กระทะให้ร้อนแล้วคีบเนื้อลงจี่ อยากอร่อยแบบสุกระดับไหนก็ใช้เวลาตามสะดวก จิ้มซอส 2 แบบมีซอสวาฟูสไตล์ญี่ปุ่น กับแจ่วแบบไทยๆ ต้องบอกว่าเกรดเอ 4 นุ่มจนแทบละลายในปากอย่างที่ใครๆ พูดกัน จนเจ้าของร้านท้าให้ชิมดิบๆ ก็สามารถ  

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

เนื้อเกรดเอ 4 จากวัวสีดำเมืองนางาซากิ

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

เนื้อพรีเมี่ยมร้อนได้ที่เตรียมชิมรส

      มาถึงอีกหนึ่งเมนูไฮไลท์แถมเป็นซิกเนเจอร์มาจากเมืองนางาซากิ นั่นคือ “จัมปง (Champon)” ภาษาญี่ปุ่นหมายถึง “การผสมผสาน” แต่รากของอาหารประเภทนี้มาจากคนจีนที่อพยพไปอยู่เมืองนางาซากิแล้วสร้างสรรค์ขึ้นมา ในจานเดียวประกอบด้วยวัตถุดิบถึง 13 อย่าง อาทิ หมู, กุ้ง, หมึก, ลูกชิ้นปลา, กะหล่ำปลี, ถั่งงอก, เห็ดหูหนู, ถั่วลันเตา, หอมสไลด์, แครอท ฯลฯ ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วต้มต่อในน้ำซุปกระดูกหมูสีขาวนวล แล้วจึงลวกเส้นที่ผลิตจากโรงงานทำเส้นของคินชิโร่ใส่ลงไป คีบเส้นนุ่มๆ ซดซุปร้อนๆ กลมกล่อมสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เห็นว่าอาหารแนวนี้ในเมืองไทยมีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ไม่กี่ร้านที่ทำขายนะ

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

"จัมปง" เมนูท้องถิ่นนางาซากิ

กินดื่มตำรับนางาซากิที่ "คินชิโร่"

พุดดิ้งอัลมอนด์ท็อปด้วยพีชในน้ำเชื่อม

      ล้างปากด้วยของหวาน แนะนำเป็น “พุดดิ้งอัลมอนด์ท็อปด้วยพีชในน้ำเชื่อม” หวานเย็นเรียกความสดชื่นได้ดี ขณะที่ในส่วนของเครื่องดื่มคงไม่ต้องสาธยายมากเพราะจัดหนักจัดเต็มสำหรับนักดื่มอยู่แล้ว ดื่มด่ำรื่นเริงเคล้าดนตรีอะคูสติกเล่นสดทุกวันศุกร์และเสาร์ ถ้าสนใจก็หาโอกาสแวะไปทำความรู้จักกันได้ ร้านเปิดจันทร์-อาทิตย์ แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา จันทร์ถึงศุกร์ เวลา 11.30-15.00 น. มื้อเย็น 17.00-23.00 น. ส่วนเสาร์และอาทิตย์ เปิดยาวตั้งแต่ 11.30-23.00 น. พิเศษสำหรับลูกค้าที่แจ้งว่าอ่านพบจากหนังสือพิมพ์หรือเว็บไซต์ “คม ชัด ลึก” ทางร้านยินดีมอบส่วนลด 10 เปอร์เซ็นต์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.0-2077-7035, 06-2880-9878

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ