แฟชั่นสัญชาติกิมจิเขย่าแคทวอล์กไทย

    ความเป็นเกาหลียังคงแทรกซึมไปแทบทุกหย่อมหญ้าเมืองไทย ในมุมของแฟชั่นเป็นครั้งแรกที่คนไทยได้ตื่นเต้นกับ “เค-คอลเลกชั่น” (K-Collection) แฟชั่นโชว์ที่รวมแบรนด์ดังรังสรรค์โดยดีไซเนอร์ชื่อดังจากแดนกิมจิ ซึ่งกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานเกาหลีใต้ จากการสนับสนุนขององค์การสนับสนุนแฟชั่นเกาหลีใต้จัดขึ้น เพื่อนำเสนอแฟชั่นและผลักดันอุตสาหกรรมเสื้อผ้าเกาหลีสู่ตลาดโลก ที่โรงแรมดิ แอทธินี แบงค็อก เมื่อวันก่อน  

     ปีนี้ เค-คอลเลกชั่น ได้เดินทางไปจัดแสดงแฟชั่นโชว์ในหลายๆ เมืองทั่วโลก อาทิ ปารีส, นิวยอร์ก เป็นต้น ปาร์ค ยองซู ผู้อำนวยการสมาคมแฟชั่นเกาหลีใต้ กล่าวว่า ตัวเอง ทีมงาน และเหล่าดีไซเนอร์ ต่างรู้สึกดีใจที่ได้มาจัดแฟชั่นโชว์ที่กรุงเทพฯ ไทยเป็นประเทศที่สวยงามอีกทั้งผู้คนยังให้ความสนใจแฟชั่นไม่น้อย องค์กรอุตสาหกรรมแฟชั่นเกาหลีใต้เล็งเห็นถึงความเป็นไปได้และศักยภาพในการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมแฟชั่นในประเทศไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแฟชั่นโชว์ครั้งนี้จะสร้างความประทับใจและเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งตัวให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าชาวไทย 

    ด้าน ลี ชางชาง ดีไซเนอร์แบรนด์ “LIE” 1 ใน 5 แบรนด์ที่ร่วมจัดแสดงแฟชั่นโชว์ เผยว่า LIE เปิดตัวครั้งแรกที่กรุงปารีส ปัจจุบันมีกว่า 16 สาขาทั่วโลก คอนเซ็ปต์ของแบรนด์คือ ความโมเดิร์น เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย สำหรับคอลเลกชั่น สปริง/ซัมเมอร์ 2019 หัวใจหลักคือ “โน บอร์เดอร์, จัสท์ เฮอริซอน” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอเมเลีย เอียฮาร์ท หญิงสาวอเมริกันคนแรกผู้คิดค้นเครื่องบินและบินเดี่ยวข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งใจออกแบบคอลเลกชั่นนี้เพื่อสร้างรอยยิ้มและพลังบวกให้แก่ผู้สวมใส่ จึงมีสีสันสดใสอย่างชมพู ฟ้า เขียว ที่สื่อถึงภาพที่ปรากฏด้านล่างในขณะที่บินอยู่บนท้องฟ้า สีอ่อนให้ความรู้สึกสบายตา นอกจากนี้ยังมีสีเหลืองที่เปรียบเสมือนแสงอาทิตย์ทอดผ่านกลุ่มเมฆสีขาว เนื้อผ้าในคอลเลกชั่นนี้บางเบาเหมาะกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวของเมืองไทย

     

     สำหรับแบรนด์ทั้ง 5 ที่ยกขบวนมานำเสนอประกอบไปด้วย “D-ANTIDOTE” หนึ่งแบรนด์ในดวงใจของเหล่าคนดังเกาหลีใต้และซูเปอร์สตาร์ระดับโลก โด่งดังด้วยการร่วมงานกับ FILA เพื่อสร้างสรรค์เสื้อผ้าเขย่าวงการแฟชั่นแนวสตรีท ส่วน “GREEDILOUS”  แบรนด์ที่นักร้องสาว “บียอนเซ” เคยเลือกสวมใส่มาแล้ว มาแรงกับเสื้อนอกตัวหลวมและกางเกงดิจิทัลปรินท์ลายอันโดดเด่น

  

     ทางด้านแบรนด์สำหรับสุภาพบุรุษอย่าง “D.GNAK” ก็ไม่น้อยหน้า นำเสนอคอลเลกชั่นสะท้อนวิถีชีวิตที่รีบเร่งของคนเมืองผ่านศิลปะและสีสันแห่งการออกแบบ เปลี่ยนสไตล์ไปกับแบรนด์ LIE ที่มีชื่อย่อมาจาก Love Identity Ego มีจุดขายที่ความหรูหราผ่านการตัดเย็บอันประณีต รวบรวมเนื้อผ้าหลายชนิดไว้ด้วยกัน ส่งผ่านนิยามแห่งความรัก ความมีเอกลักษณ์และความทะเยอทะยานซึ่งเป็นดีเอ็นเอหลักของแบรนด์

    และสุดท้าย “ti:beag” ที่สื่อถึงความร่าเริงในวัยเยาว์ผ่านสีสันสดใสและลายกราฟฟิกต่างๆ ที่นำมามิกซ์แอนด์แมทช์ได้อย่างลงตัว