"รูทส์" ไม่ได้หมายความถึงบรรยากาศที่เหมือนสวนอันร่มรื่นเท่านั้น หากยังนำเสนอแก่นแท้ของอาหารดั้งเดิม
นั่งชิลท่ามกลางธรรมชาติ
ต้องยอมรับว่าสมัยนี้จะหาอาหารแบบดั้งเดิมได้ยากในเมืองกรุง ซึ่งอาหารฟิวชั่นและการรับประทานอาหารแบบร่วมสมัยเข้ามายึดพื้นที่ไว้อย่างเหนียวแน่น แต่การมาที่ “รูทส์ แบงคอก” ภายใน เค วิลเลจ ซอยสุขุมวิท 26 กลับเป็นที่ตอบโจทย์ความต้องการและสามารถทิ้งตัวท่ามกลางบรรยากาศสงบร่มรื่นในสวนกลางกรุง แม้ว่าภายในร้านจะอยู่ในร่มติดเครื่องปรับอากาศ แต่จากของตกแต่งด้วยเถาวัลย์และไม้ซุงท่อนเล็กๆ ก็ทำให้ได้บรรยากาศสบายๆ เป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผ่อนคลายอารมณ์ในระดับหนึ่ง เชื่อมต่อไปยังพื้นที่สวนกลางแจ้งที่มีต้นไม้ใหญ่รายล้อม เหมาะมากสำหรับใครที่กำลังมองหาแหล่งแฮงเอาท์ยามค่ำคืน โดยเฉพาะวันหยุดทางร้านมีดีเจมาสแครชแผ่นให้ฟังกันสดๆ หรือจะมาผ่อนคลายกับครอบครัว ชมหนังคลาสสิกหรือเกมกีฬาสุดมันก็ได้เช่นกัน
ทุกจานรังสรรค์ด้วยความตั้งใจ
ชื่อ “รูทส์” ไม่ได้หมายความถึงบรรยากาศที่เหมือนสวนอันร่มรื่นเท่านั้น หากยังรวมรวบเอาแรงบันดาลใจจากเจ้าของที่ต้องการอวดเอารากฐานแก่นแท้ของอาหารที่ทุกจานล้วนมีเรื่องราวมาถ่ายทอดในแบบฉบับดั้งเดิม เมื่อกลิ่นหอมฉุยลอยมาเตะจมูกจึงเป็นสัญญาณว่าเชฟได้เริ่มลงมือปรุงอาหารมื้อพิเศษแล้ว รายการอาหารมีไว้ให้บริการมากมาย เคล็ดลับความอร่อยต้องยกให้ซอสสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดขึ้นเอง ด้วยพริกพันธุ์พิเศษนำเข้ามาจากเนปาล ปานามา และสหรัฐอเมริกา
เชฟนเรศ โคตรชมภู โชว์ชิกเก้น วิงส์ บาร์บีคิว พิรี่ พิรี่
ยำแซลมอน
สำหรับเมนูแนะนำก็อย่าง “ยำแซลมอน” เป็นลูกผสานระหว่างไทยและเทศ เลือกใช้ปลาแซลมอนนำเข้าจากนอร์เวย์ สไลด์ชิ้นใหญ่แบบเต็มคำ ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรไทยแท้รสกลมกล่อม แต่ไม่เผ็ดจนเกินไป เพื่อให้ถูกปากคนไทยแถมต่างชาติก็กินได้สบายๆ แบบไม่ต้องซี้ดปากให้เสียอารมณ์
อะโวคาโด ทาทาร์
จานถัดมา “อะโวคาโด ทาทาร์” อาหารคลีนที่เหมาะมากสำหรับคนรักสุขภาพ ส่วนผสมหลักอย่างอะโวคาโดและมะเขือเทศพันธ์ุเนื้อจากต่างประเทศ ปรุงรสด้วยน้ำมันมะกอก เอ็กซ์ตร้า เวอร์จิ้น และน้ำเลมอน เพิ่มความหอมจากโหระพาจากอิตาลี ก่อนจะนำไปจัดจานให้สวยงาม แล้วตกแต่งด้วยสไปซี่ซอสและมายองเนส
มีทเลิฟเวอร์ คาโซเน่
ถัดมาเป็นจากไฮไลท์ของร้านพลาดไม่ได้เชียวกับ “ชิกเก้น วิงส์ บาร์บีคิว พิรี่ พิรี่” ขายดีมาก ความพิเศษอยู่ที่ซอสสูตรตุรกีรสจัดจ้าน นำไปหมักกับปีกไก่จนเข้าเนื้อประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นย่างด้วยถ่านชาร์โคลใช้ไฟอ่อนๆ จนไก่สุกได้ที่ จัดวางบนถาดไม้ที่มีผักชีรองเป็นฐาน เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่าง มะเขือเทศ กริลล์ โรยพาสลี่ย์ และพริกหวานย่าง ทั้งยังมีซอสบาร์บีคิว และซอสบลูชีส จัดวางมาคู่กันด้วย
ส่วนใครชอบอาหารแนวอิตาเลียนต้องลอง “มีทเลิฟเวอร์ คาโซเน่” อารมณ์คล้ายพิซซ่าเพราะใช้แป้งชนิดเดียวกับแป้งพิซซ่าที่ทำสดใหม่ รีดเป็นแผ่นกลม โรยมอสซาเรลล่าชีสตรงกลาง แล้วแต่งหน้าด้วยไส้แบบจัดหนัก จัดเต็ม ทั้งแฮม เบคอน เปปเปอร์โรนี ตามด้วยซอสสูตรเด็ดของร้าน แล้วพับครึ่งจับจีบจนสวยงามคล้ายขนมกะหรี่พัฟฟ์ ส่งเข้าเตาอบใช้ไฟเบาๆ ราว 10 นาที นำออกมาทาไข่แดงเพื่อเพิ่มสีและกลิ่น แล้วส่งกลับเข้าเตาอบอีกครั้ง รอจนไข่แดงสุก นำออกจากเตาวางบนถาดไม้ แต่งหน้าด้วยชีส ซอสมะเขือเทศ โหระพาฝรั่ง และออริกาโน เมนูนี้แนะนำให้กินตอนร้อนๆ แป้งจะนุ่มลิ้นมากๆ เรียกว่าเด็ดจนวางช้อนไม่ลง
ข้าวผัดต้มยำกุ้ง
ส่วนคนที่ยังไม่เบื่ออาหารรสไทยแท้ แนะนำเป็น “ข้าวผัดต้มยำกุ้ง” ออกแนวฟิวชั่นนิดๆ แต่รสชาติรับรองว่าไทยดั้งเดิมไม่ผิดเพี้ยน เขานำเครื่องปรุงต้มยำไปผัดเป็นซอสจนได้กลิ่นเหมือนต้มยำ รสชาติออกเผ็ดนิดๆ ก่อนจะนำไปผัดกับข้าวสวยจนได้ที่ เสิร์ฟพร้อมกุ้งลายเสือตัวโตปรุงรสด้วยซอสตัวเดียวกับข้าวผัดต้มยำ แล้วโรยด้วยใบมะกรูดหั่นฝอย ทีเด็ดก็คือข้างจานยังจัดวางเครื่องต้มยำมาเพิ่มกลิ่นให้หอมกรุ่น เรียกความอยากให้เพิ่มขึ้นอีกเป็นกอง
รูทส์ พาราไดซ์
ลิ้นจี่ คอสโม่
ชิมอาหารไปหลายรายการจนเริ่มอิ่ม จะสั่งของหวานปิดท้ายมื้ออร่อย แต่ทางร้านออกตัวก่อนว่าไม่มีบริการ เลยขอเปลี่ยนอารมณ์ไปที่เครื่องดื่มม็อกเทลเจ๋งๆ แทน วันนี้บาร์เทนเดอร์แนะนำ 2 ตัว ตัวแรกคือ “ลิ้นจี่ คอสโม่” รสออกเปรี้ยวนำ ตามด้วยหวานนิดๆ จากวิปครีมที่ท็อปมาด้านบน ส่วนอีกแก้วสีชมพูหวานแหวว ชื่อ “รูทส์ พาราไดซ์” รสออกเปรี้ยวนิดๆ ซ่าหน่อยๆ เรียกความสดชื่นได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการเครื่องดื่มอีกนานาชนิดทั้งที่มีแอลกอฮอล์และโนแอลกอฮอล์
วันไหนเกิดอยากแฮงเอาท์ กิน-ดื่ม ชิลๆ แวะไปได้เลย ย้ำกันอีกทีร้านอยู่ในโครงการ เค วิลเลจ ปลายซอยสุขุมวิท 26 เปิดบริการทุกวัน จันทร์-วันศุกร์ เปิดบ่าย 3 ไปจนถึงตี 1 วันเสาร์เปิด 11 โมงครึ่งยาวไปจนถึงตี 1 ส่วนวันอาทิตย์ 11 โมงครึ่งไปจนถึงเที่ยงคืน โทรไปสอบถามเส้นทางก่อนหรือจองโต๊ะล่วงหน้า โทร.0-2661-5227 ได้เลยคร้า...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง