เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัญหาผิวในแต่ละวัยจะแตกต่างกันไป ช่วงวัยรุ่นเรื่องสิวชวนให้กลุ้มใจมาก่อนเป็นอันดับแรก
แต่พออายุมากขึ้นหน่อย เริ่มจาก 30 ขึ้นไป ก็จะพบเจอเรื่องฝ้ากระทยอยกันมาก่อกวน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกส่วนบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม
ฝ้าและกระคืออะไร ทำไมมักเกิดขึ้นกับคนอายุมากขึ้น หมอขอตอบแบบเข้าใจง่ายๆ ก่อน ฝ้าก็คือรอยปื้นใหญ่ๆ มีสีน้ำตาลเข้มกว่าสีผิวปกติของคนเรา แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
ได้แก่ ฝ้าชนิดตื้นกับชนิดลึก ชนิดตื้นเม็ดสีจะมีอยู่แค่ตรงชั้นหนังกำพร้า ขณะที่ชนิดลึกเม็ดสีจะมีความผิดปกติอยู่ที่ชั้นหนังแท้ ส่วนกระนั้นจะมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ มีสีน้ำตาลอ่อนหรืออาจเข้มกว่าสีผิวปกติ และขึ้นกระจายทั่วไปตามผิวหน้า ถ้าเป็นกระธรรมดาอย่างกระเด็กหรือกระแดด จะขึ้นแค่ชั้นบนของผิวชั้นหนังกำพร้า แต่ถ้าเป็นกระที่ไม่ปกติหรือกระเนื้อ ลักษณะจะเป็นสีเข้มๆ มีเนื้อนูนขึ้นมาจากผิวหนังครับ
สำหรับสาเหตุที่ฝ้าและกระเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุมากขึ้น ประมาณ 30 อัพ ก็เพราะเป็นไปตามธรรมชาติของอายุผิว นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการได้รับแสงรังสียูวีมากๆ การทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่อง การใช้ฮอร์โมนต่างๆ การขาดการบำรุงผิวที่ดี หรือบางทีก็เกิดจากพันธุกรรม แต่ต้องยอมรับว่าแสงรังสียูวีถือเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิดฝ้ากระได้มากสุด ไม่ว่าจะเป็นรังสียูวีเอ หรือ ยูวีบี เนื่องจากรังสีจากแสงไปกระตุ้นให้เมลานินใต้ชั้นผิวผลิตเม็ดสีออกมาเพิ่มขึ้นและเร่งให้ดำมากขึ้นครับ
ดังนั้น การป้องกันการเกิดฝ้ากระ จึงต้องย้อนกลับไปดูที่ต้นตอ นั่นคือถ้าไม่อยากให้มันเกิดขึ้นหรือมีเยอะขึ้น ให้หลีกเลี่ยงแสงรังสียูวีที่มาจากทั้งแสงแดดและหลอดไฟ หากเป็นแสงแดดควรหลีกเลี่ยงแสงแรงๆ ตั้งแต่ช่วง 10 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรต้องกางร่ม ใส่หมวก ใส่เสื้อแขนยาว หรือสวมแว่นกันแดด และที่จำเป็นมากๆ ต้องทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เพื่อจะป้องกันรังสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งควรทาซ้ำทุกๆ 4 ชั่วโมงเวลาอยู่กลางแดดจัด นอกจากนั้นก็หมั่นดูแลผิวให้สะอาดหมดจดและบำรุงผิวทั้งกลางวันกลางคืนอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำและผลไม้เป็นประจำ ก็จะช่วยให้ผิวพรรณสวยใส ลดฝ้ากระลงได้
สำหรับเรื่องของครีมทากันแดด หลายคนสงสัยเหตุใดทาแล้วหน้ามักจะขาววอก ก็เป็นเพราะครีมกันแดดมีส่วนผสมของสาร 2 อย่าง อย่างแรกคือ Chemical Protection หรือที่เรียกว่า Sunscreen และอย่างที่สองคือ Physical Protection หรือที่เรียกว่า Sunblock ซึ่ง Sunblock จะมีอนุภาคของวัสดุทึบแสงมาผสม วัสดุทึบแสงนี้จะยึดจับกันเป็นเกราะบนผิวหนังโดยไม่ถูกดูดซึมลงสู่ผิวหนัง และจะปกป้องผิวหนังด้วยการสะท้อนแสงที่มากระทบกับผิวหนัง ส่วนใหญ่เป็นอนุภาคของสังกะสี (Zinc Oxide), ไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide), เหล็กออกไซด์ (Iron Oxide) ที่มีความปลอดภัย แต่ด้วยความที่เป็นอนุภาคสะท้อนแสง เวลาทาหน้าก็เลยจะดูขาววอกนั่นเอง
ส่วนการดูแลรักษาฝ้ากระหลังจากเป็นแล้ว หมอแนะนำให้ใช้ยาทากับทำเลเซอร์ การทายาก็มีทั้งทายาฝ้ากระและกรดผลไม้ AHA แน่นอนยาทาฝ้ากระจะเน้นช่วยลดการผลิตเม็ดสีที่ดำๆ แต่ยาในกลุ่มนี้อาจทำให้เกิดความระคายเคืองได้ โดยเฉพาะกับคนผิวแพ้ง่าย จึงต้องระวังสักหน่อย ส่วนกรดผลไม้ AHA ก็จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และผลัดเซลล์ผิวที่ดำๆ ออกไป
ปิดท้ายกันที่การทำเลเซอร์ ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาฝ้ากระ เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ความร้อนจากเลเซอร์มีความอ่อนโยน ไม่รุนแรงหรือทำลายเนื้อผิว อีกทั้งไม่เจ็บปวด ไม่ต้องทายาชา อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย คือทำให้หน้าแดงหรือชมพู แต่ก็จะค่อยๆ หายไปเอง ซึ่งต่อไปหมอจะกล่าวถึงรายละเอียดของการรักษาฝ้ากระด้วยการทำเลเซอร์อีกครั้งหนึ่งว่า มีกระบวนการในการช่วยทำให้ฝ้ากระจางหายได้อย่างไร และเทคนิคในการยิงที่จำเป็นต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครับ...
.....................................
ฝ้ากระ ... ปัญหากวนใจวัย 30 อัพ : By นายแพทย์อมรศิษฐ์ พานศิลป์
นายแพทย์อมรศิษฐ์ พานศิลป์
ทุกวันนี้ความงามและการดูแลรูปร่างให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม เป็นกระแสที่ทุกคนให้ความสนใจถึงขีดสุด จนทำให้ฟิตเนสและสถาบันความงามได้รับความนิยมอย่างมาก คุณหมอต๋องหรือนายแพทย์อมรศิษฐ์ พานศิลป์แห่งสถาบัน Dii Aesthetic Institute คือหนึ่งในระดับต้นๆ ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้
ที่มา : rabbit today
ข่าวที่เกี่ยวข้อง