Lifestyle

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เตรียมเปิดนิทรรศการพิเศษจิ๋นซีฮ่องเต้และกองทัพทหารดินเผากว่า 130 ชิ้น

          เวลา 10.00 น.​วันที่ 29 สิงหาคม 2562 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดนิทรรศการพิเศษ เรื่อง จิ๋นซี ฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา โดยมี ฉาง ยู่ เหมิง อุปทูตฝ่ายวัฒนธรรม ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมแถลงข่าว ณ​โรงละครแห่งชาติ(เล็ก)

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

นายอิทธิพล คุณปลื้ม

          นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ความสำคัญของสุสาน “ฉินสือหวง” หรือ จิ๋นซีฮ่องเต้ นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นมรดกโลกที่คนทั่วโลกล้วนอยากไปชมความมหัศจรรย์ 2.200 ปี ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเองก็ได้นำทหารดินเผาแสดงแก่ชาวโลกไม่น้อยกว่า 25 ประเทศ และประสบความสำเร็จอย่างสูงทุกแห่ง สำหรับนิทรรศการ จิ๋นซีฮ่องเต้ ครั้งแรกในไทยนี้จะมีโบราณวัตถุมาจัดแสดงมากถึง 133 ชิ้น แบ่งออกเป็นการจดแสดงร่วมกับนิทรรศการที่แสดงเหตุการณ์ในแผ่นดินจีน ทั้งก่อนและหลังราชวงศ์ฉิน รวบรวมตั้งแต่ภาพเขียน หุ่นทหาร อาวุธ เครื่องใช้ เครื่องประดับ และตุ๊กตาดินเผาต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เช้าชมไม่ต่ำกว่าสองแสนคน ช่วยตอกย้ำความสำคัญของพิพิธภัณฑ์ในฐานะแหล่งเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุดแก่ประชาชน และสอดรับกับวันพิพิธภัณฑ์ไทย ซึ่งตรงกับวันที่ 19 กันยายน รวมทั้งบทบาทของกรมศิลปากรในการสร้างกิจกรรมสำคัญ เชื่อมโยงความรู้า ความบันเทิง และอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

นางฉาง ยู่ เหมิง

          นางฉาง ยู่ เหมิง อุปทูตฝ่ายวัฒนธรรม ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า สุสานดินเผาจิ๋นซีฮ่องเต้ นับเป็นความมหัศจรรยย์อย่างหนึ่งของโลกเป็นสิ่งค้นพบที่ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 20 โดย ในปี 1974 ได้ค้นพบหลุมเครื่องปั้นดินเผาซึ่งมีพื้นที่ 20.000 ตร.ม. มีตุ๊กตาดินพบทั้งหมดกว่า 7.000 ชิ้น รูปปั้นต่างๆ ได้รับการสร้างสรรค์บนพื้นฐานของชีวิตความเป็นอยู่จริงๆ จะมีลักษณะอย่างเด่นชัดในยุคสมัยนั้น นับว่ามีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และศิลปะเป็นอย่างมาก แล้วในปี 1980 ทิศตะวันตกของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ มีการค้นพบรถม้าขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น จากนั้น1987 ยูเนสโก้อนุมัติให้ขึ้นบัญชีมรดกวัฒนธรรมของโลก ซึ่งกองทัพดินเผาจิ๋นซีฮ่องเต้ ถูกนำออกไปจัดนิทรรศการในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ มีผู้รับชมมากกว่า 20 ล้านคน ซึ่งไปที่ไหนก็ได้รับความนิยมทั้งสิ้น ซึ่งได้กลายเป็นทูตสันตวไมตรีแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการเมืองนานาชาติ ใน 2007 ตัวขณะที่ตัวปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศอังกฤษ ก็ได้มีการจัดนิทรรศการตุ๊กตาดินเผาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ซึ่งสามารถดึงดูดผู้ชมมากกว่า 85.0,000 คน เชื่อว่าในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีแน่นอน

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

นายอนันต์ ชูโชติ

          ขณะที่ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงรายละเอียดของนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “จิ๋นซีฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา” ว่า นับเป็นครั้งแรกที่มีการจัดแสดงโบราณวัตถุจากสุสานจิ๋นซีในประเทศไทย โดยกรมศิลปากรได้ประสานขอยืมโบราณวัตถุจากสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี เพื่อมาจัดแสดงในประเทศไทย ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ด้วยความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายไทยโดยรัฐบาลและเอกชน และหน่วยงานหลักในสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ สำนักงานมรดกทางวัฒนธรรมมณฑลส่านซี สำนักงานแลกเปลี่ยนวัตถุโบราณ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลส่านซี และพิพิธภัณฑ์สุสานจิ๋นซี ซึ่งโบราณวัตถุอันเป็นสิ่งของเครื่องใช้มีค่าสำหรับจักรพรรดิในสุสาน รวมทั้งสิ้นจำนวน 86 รายการ 133 ชิ้น แห่งเนื้อหาการแสดงออกเป็น 4 หัวเรื่อง คือ

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

          “พัฒนการก่อนการวมชาติ : ยุคราชวงศ์โจวตะวันออก นำเสนอความเป็นแคว้นต่างๆ ที่มีการปกครองเป็นเอกเทศ แต่ก็ได้มีพัฒนการ การส่งสมทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรม อันเป็นปัจจัยส่งเสริมให้แคว้นฉินกลายเป็นจักรวรรดิที่แข็งแกร่งและสามารถผนวกแคว้านต่างๆ เข้าเป็นอาณาจักรเดียวกันในกาลต่อมา ซึ่งโบราณวัตถุที่นำมาจัดแสดง ก็ทำให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านโลหรรมเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ภาชนะสำริด อาวุธและเงินตรา

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

         “จิ๋นซีฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของจีน ผู้ผนวกโลกมนุษย์และสวรรค์” จัดแสดงความสำเร็จในการรวมรัฐทั้ 7 ให้เป็นอาณาจักรหรือจักรวรรดิหนึ่งเดียว พร้อมกับการปฏิรูประบบการปกครองแบบรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง พัฒนาเทคโนโลยีการสงคราม มีการกำหนดมาตรฐานหน่วยชั่ง ตวง วัด ระบบเงินตรา ภาษาเขียน และพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ รวมถึงทำการเชื่อต่อแนวกำแพงดินอัดของแคว้นต่างๆ เพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึกศัตรูจนกลายเป็นกำแพงเมืองจีนที่มีความยิ่งใหญ่เป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ มหาอาณาจักรใต้พิภพ ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตเป็นอมตะทำให้จิ๋นซีฮ่องเต้ เสาะแสวงหายาอายุวัฒนะและสร้างสุสานเตรียมพร้อมสำหรับชีวิตหลังความตายหรือโลกหน้า เรื่องราวของจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้รับการบันทึกไว้โดย “ซือหม่าเฉียน” อาลักษณ์สมัยราชวงศ์ฮั่น ได้พรรณารายละเอียดอันน่าทึ่งของมหาสุสนานจักรพรรดิจิ๋นซี และปริศนานี้ได้กระจ่างขึ้น เมื่อมีการค้นพบหุ่นทหารดินเผาครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ..2517 หรือ คริสต์ศักราช 1974 นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีครั้งสำคัญแห่งศตวรรษที่ 20 ซึ่งองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้ยกย่องและประกาศให้สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อ ..2530 สำหรับโบราณวัตถุในส่วนจัดแสดงนี้ จะเป็นส่วนสำคัญของนิทรรศการ เช่น หุ่นดินเผาทหารแม่ทัพ แม่ทัพสวมชุดเกราะ พลธนูสวมชุดเกราะนั่งชันเข่า นักรบสวมชุดเกราะ และม้าประกอบรถม้า สมัยราชวงศ์ฉิน .. 322-337 ซึ่งแสดงให้เห็ฯถึงความสามารถชั้นสูงของช่างและเทคโนโลยีสมัยนั้

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

          “สืบสานความรุ่งโรจน์ : ยุคราชวงศ์ฮั่น แสดงถึงการต่อยอดความรู้มรดกภูมิปัญญาจากราชวงศ์ฉิน มาสู่ราชวงศ์ฮั่น ปรากฎผ่านความรุ่งเรืองทางด้านวัฒนธรรม การเมืองการปกครอง สังคม เกษตกรรม และเทคโนโลยีทางการทหาร ตลอดจนด้านเศรษฐกิจการค้า และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างชาวจีนโบราณกับชาวต่างชาติอีกซีกโลกบนเส้ทางสายไหม จนได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของงานศิลปกรรมและอารยธรรมจีนโบราณอย่างแท้จริง

ยกสุสาน"จิ๋นซีฮ่องเต้" มาไว้ในไทยครั้งแรก

          นิทรรศการพิเศษเรื่อง “จิ๋นซี ฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา” ซึ่งรวบรวมวัตถุโบราณวัตถุชิ้นสำคัญอายุกว่า 2,700 ปี จะเร่ิมเปิดให้ประชาชนเข้าชม ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน-15 ธันวาคม 2562 เวลา 09.00-16.00 น. ปิดวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รวมเป็นเวลา 3 เดือน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ