Lifestyle

ไม่ต้องมีใบเสร็จ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์เปิดซองส่องไทย : ไม่ต้องมีใบเสร็จ

 

               ข่าวดีจากทางรัฐบาลมอบให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเรื่องมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้ 4 มาตรการ ตอนนี้เริ่มมีคำถามจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับการใช้เงิน ที่โอนผ่านบัตรมาให้

 

               คงมีแค่เงินช่วยค่าใช้จ่ายปลายปี 2561 ครัวเรือนละ 500 บาท ที่จะเอาไปใช้ซื้อสินค้าในช่วงปีใหม่ ในร้านที่มีเครื่องรูดบัตรของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่วนอีก 3 รายการจะให้ใช้เงินอย่างไร

               - เอาบัตรไปกดเป็นเงินสดได้ไหม

               - ถ้าเอาไปกดเงินสดได้ ไปกดที่ไหน

               - ค่าเดินทางไปรักษาฯ ไม่มีใบเสร็จจะทำอย่างไร

               - ค่าเดินทางไปรักษาฯ คนไม่ได้ใช้ครั้งเดียวหมด 1,000 บาท เลย นั่งรถสองแถวจากในหมู่บ้านเข้าตัวอำเภอ ตัวเมือง หรือในจังหวัดเป็นทอดๆ ค่ารถประมาณ 200-300 บาท/ครั้ง รวมไป-กลับ

               ถ้าเงินเหลือเอาไว้ใช้กับคนอื่นในครอบครัวได้ไหม เช่น วันนี้ผัวมีนัด หมอให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลในอำเภอ อาทิตย์หน้าเมียมีนัดของหมอให้ไป บางคนโดนหมอนัดถึง 3 ครั้งต่อเดือนก็มี

               - ค่าเช่าบ้านก็ไม่มีใบเสร็จ จะทำอย่างไร

               - ที่บอกว่ามาตรการดังกล่าวนี้ 1 ครัวเรือนจะได้รับสิทธิเพียง 1 สิทธิเท่านั้น หมายความว่า ใน 1 ครัวเรือนที่มีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2 คน แต่ก็จะได้รับสิทธิแค่ 1 คนใช่ไหม

               คำถามเหล่านี้คงต้องขอความกรุณาจากท่านบรรณาธิการเปิดซองส่องไทย ช่วยค้นหาคำตอบให้กับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้เข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จะได้คลายความกังวล

ผู้อ่านคมชัดลึก

 

ร้องทุกข์ ร้องเรียน บอกเล่าปัญหา ที่ [email protected] หรือ

 

ไม่ต้องมีใบเสร็จ

 

ตอบ

               ทีมงานลุงแจ่ม สอบถามไปยังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ให้ข้อมูลว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีวงเงินในบัตรทั้งหมด 3 ส่วน คือ 1. เงินสำหรับซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค จำนวน 200-300 บาทต่อเดือน 2. ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน 3. วงเงินสำหรับค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ ได้แก่ รถเมล์และรถไฟฟ้า 500 บาทต่อเดือน , ่รถ บขส. 500 บาทต่อเดือน และ รถไฟ 500 บาทต่อเดือน โดยวงเงินทั้งหมดในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามกฎเกณฑ์เดิม ผู้ถือบัตรไม่สามารถกดหรือถอนออกมาเป็นเงินสดได้ 

 

               ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2562 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถกดเงินในส่วนของวงเงินสำหรับซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภคออกมาเป็นเงินสดได้แล้ว โดยต้องเหลือวงเงินไว้ 100 บาท สำหรับซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ผ่านเครื่อง EDC นั่นคือ ผู้ถือบัตรที่ได้รับเงิน 300 บาทต่อเดือน กดเงินสดได้ 200 บาท ส่วนผู้ที่ได้รับเงิน 200 บาทต่อเดือน กดเงินสดได้ 100 บาท

 

               สำหรับ 4 มาตรการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมในช่วงปลายปี 2561 ได้แก่ 1.ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายปลายปี 500 บาทต่อคน ในเดือนธันวาคม 2561 2.ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำประปา 10 เดือน 3.ค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุ 1,000 บาทต่อคน และ 4.ค่าเช่าบ้านสำหรับผู้สูงอายุ 400 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 10 เดือน

 

               ในส่วนของเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายปลายปี จำนวน 500 บาทต่อคน  และค่าเดินทางสำหรับรักษาพยาบาลผู้สูงอายุ จำนวน 1,000 บาทต่อคน รัฐจะโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (e-money) โดยผู้ถือบัตรสามารถนำบัตรไปกดเงินสดได้ที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อนำเงินออกมาใช้จ่ายได้ โดยไม่ต้องมีใบเสร็จรับเงิน

 

               ส่วนค่าเช่าบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ต้องเป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และไม่มีที่อยู่อาศัยหรือเช่าที่อยู่อาศัย โดยจะโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (e-money) เดือนละ 400 บาท ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 - กันยายน 2562 เป็นเวลา 10 เดือน ซึ่งสวัสดิการในส่วนนี้จะพิจารณาจากข้อมูลที่ผู้ถือบัตรให้ข้อมูลไว้ขณะลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หากคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด จะได้รับเงินช่วยเหลือ ผู้ถือบัตรสามารถกดเงินส่วนนี้นำออกมาใช้จ่ายได้ โดยไม่ต้องมีใบเสร็จรับเงินเช่นกัน

 

               สำหรับมาตรการช่วยเหลือค่าน้ำ-ค่าไฟ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 - กันยายน 2562 เป็นเวลา 10 เดือน ต้องเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานไฟฟ้าและประปาก่อน ทั้งนี้ต้องเป็นผู้ที่ใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาทต่อเดือน และใช้น้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อเดือน มาตรการนี้เป็นมาตรการที่มอบให้ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครัวเรือนละ 1 สิทธิเท่านั้น

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ