Lifestyle

ทำไมปี๒๕๑๙จึงมีแต่การสร้างพระเครื่องวัตถุมงคลที่เข้มขลัง?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทำไมปี ๒๕๑๙เมืองไทยเราจึงมีแต่การสร้างพระเครื่องวัตถุมงคลที่เข้มขลัง? " คอลัมน์... ตามรอย...ตำนานแผ่นดิน โดย... เอก อัคคี

 


          สำหรับมุมมองของคนอื่นเป็นอย่างไรผมไม่ทราบ ไม่อาจจะไปก้าวล่วง แต่ผมขอบอกไว้ก่อนว่า บทความชิ้นนี้เป็นมุมมองความคิดส่วนตัวของผม เป็นความเชื่อส่วนตัวของผม ซึ่งอาจจะถูกหรืออาจจะผิดมันก็เป็นปัจจัตตังที่ต้องรับรู้ด้วยตัวเอง ความเชื่อของใครก็ของคนนั้น ไม่ก้าวก่ายกัน 

 

 

          ผมเชื่อของผมแบบนี้ ก็เขียนแบบที่ผมคิด ด้วยเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ปกป้องคุ้มครองผืนแผ่นดินนี้


          ประเทศไทยเราในช่วงปี ๒๕๑๘-๒๕๑๙ ภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศที่กำลังทวีความรุนแรง เข้มข้นและลุกลามไปทั่วภูมิภาคคือ ภัยจากลัทธิคอมมิวนิสต์ เพราะว่าในช่วงนั้นการเปิดศึกระหว่างสองขั้วลัทธิกำลังหนักหน่วงมาก ประเทศในแทบอินโดจีน กำลังเผชิญกันสงครามการต่อสู้


          วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๑๘ เวียดนามใต้แตกเปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นสังคมนิยมเต็มรูปแบบ


          วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๑๘ เขมรฝ่ายขวาแตกพ่ายให้กับฝ่ายเขมรแดงเปลี่ยนการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์


          วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๑๘ พรรคคอมมิวนิสต์ลาวได้ประกาศยึดนครเวียงจันทน์ เพื่อปลดปล่อยประเทศ


          ทฤษฎีโดมิโน่ กำลังถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางทั่วโลกว่า ไทยจะเป็นโดมิโน่ตัวสุดท้ายหรือไม่ ?


          ถ้าใช่- ย่อมหมายความว่า การปกครองของประเทศก็ต้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง


          สามสถาบันหลักของประเทศ.... ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ย่อมสั่นคลอน


          แต่เดชะบุญ...ประเทศไทยเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองมายาวนาน

 

          ประเทศนี้มีพระแก้วมรกต ผู้ทรงฤทธิ์, พระสยามเทวาธิราช ผู้ทรงศักดิ์, พระขรรค์ชัยศรี ศาสตราวุธแห่งพระบรมเดชานุภาพ, มีพระเสื้อเมือง, พระทรงเมือง คุ้มครองบ้านเมือง ฯลฯ

 



          และมีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นประมุขปกครองไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินให้อยู่เย็นเป็นสุขภายใต้พระบรมโพธิสมภาร อีกทั้งยังมีพระเถรานุเถระ พระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เคร่งพระธรรมวินัยและทรงไว้ซึ่งอภิญญาแห่งพุทธานุภาพที่ศักดิ์สิทธิ์ พลังแห่งบารมีแห่งกษัตริยาธิราชเจ้าและพุทธบารมีแห่งพุทธศาสนา ยังต้องแผ่บารมีไพศาลยาวนาน ๒,๕๐๐ ปีตามพุทธทำนาย
ผองภัยพาลใดๆ จึงมิอาจกล้ำกรายได้...



          หากจะกล่าวให้ถึงที่สุด กล่าวคือ ปี ๒๕๑๙ ในห้วงแห่งวิกฤติการณ์ความมั่นคงของประเทศ ไทยเรารอดพ้นมาด้วยด้วยพระบารมีโดยแท้

 

          บรรดาพระเกจิคณาจารย์ของไทยเรานั้น ต่างศรัทธาและล้วนกล่าวยกย่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และมิใช่ยกย่องพระองค์ในฐานะพระมหากษัตริย์ผู้ปกครองบ้านเมือง หากแต่ยกย่องพระองค์ในทางธรรม เมื่อพระเกจิทั้งหลายยังกล่าวยกย่องพระองค์ ด้วยเชื่อมั่นว่าพระองค์คือ พระโพธิสัตว์ของปวงชนชาวชนไทย


          จึงไม่แปลกใจว่า เพราะเหตุใด พระเครื่องที่พระองค์ทรงสร้าง, เททองหล่อ, พระราชทานมวลสาร, เสด็จฯ ในพิธี ตลอดจนมีพระบรมราชานุญาต ใครก็ตามที่พกพาบูชาติดตัว ย่อมมั่นใจได้และเชื่อมั่นได้ในความศักดิ์สิทธิ์ โดยมิต้องป่าวประกาศหรือทดลองว่าขลังไม่ขลังให้เสียเวลา


          ซึ่งส่วนหนึ่งของคำกล่าวยกย่องของพระเถระและพระอริยสงฆ์เจ้า ถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เท่าที่รวบรวมมาได้ ความว่า


          “นี้รูปพระเจ้าแผ่นดิน เก็บดีๆ เอาไว้ในห้องพระ กราบไหว้บูชา พระพุทธเจ้านะนั้น” พระครูภาวนาภิรัต วิ. (หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ) วัดป่าอาจารย์ตื้อ ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

....................


          “กูขนพองไปหมด พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงกฤดาภินิหาร ครองบ้านครองเมืองจะมาก้มให้พระป่าสามัญลูบพระเศียรได้ ท่านเป็นเทวดาของปวงชน” พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช

....................


          “ก็มีแต่คนไม่ฉลาดเท่านั้นแหละ ถึงไม่รู้ว่าพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้มีดีอะไร” พระอาจารย์วัน อุตฺตโม วัดถ้ำพวง สกลนคร พระอุปัฏฐากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ทำหน้าที่ยาวนานที่สุด

....................


          “ครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม เคยเป็นช้างนาฬาคิริง ส่วนในหลวงองค์ปัจจุบันเป็นช้างป่าเลไลยก์นะ” (หมายถึงรัชกาลที่ ๙, ช้างป่าเลไลยก์คือพระโพธิสัตว์) หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่

....................


          “วันหนึ่งข้างหน้า ในหลวงจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งของโลกในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ” หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

....................


          “หากไม่มีในหลวง พระพุทธศาสนาก็ตั้งอยู่ไม่ได้” หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

....................


          “พระองค์ทรงมีกระแสจิตแรงมาก ฉันเองยังสู้ท่านไม่ได้ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

....................


          “ในนั้น (พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน) มีเทวดามากน้อ มาก..แน่นไปหมด” หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ เลย

....................


          “พระองค์มัวแต่เป็นห่วงคนอื่น แต่ไม่ทรงห่วงพระองค์เองบ้างเลย” หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

....................


          “มหาบพิตร คือ สมมติเทพ” “รบกวน ไม่รบกวนจะเป็นอะไร แผ่นดินนี้เป็นของพระองค์ พระองค์พึงมาได้ทุกเมื่อ” หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี

....................


          และถ้าถามผมว่า สุดยอดของพระเครื่องในปี ๒๕๑๙ คือ องค์ไหนคงต้องบอกโดยไม่ลังเลว่า คือ
“พระสมเด็จจิตรลดาทรงอุณาโลม” และ “พระสมเด็จนางพญา สก.” เพราะสำหรับพระเครื่อง ๒ องค์นี้ นอกเหนือจากปฐมเหตุจากพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ให้ทรงจัดสร้างพระผงพิมพ์จากกระเบื้องหลังคาวัดบวรฯ อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังปรากฏหลักฐานว่า การสร้างพระผงพิมพ์นางพญารุ่นนี้เกิดจากพระสุบินนิมิต ของสมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช โดยมีลิขิตเป็นประจักษ์

 

          และที่สำคัญ ก่อนหน้านี้ยังสืบค้นไม่พบหรือมีประวัติพระเครื่องพระผงพิมพ์ก่อนปี ๒๕๑๙ ที่ปรากฏอักษรพระนามาภิไธย สก. เสมือนหนึ่งแทนพระองค์ ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวได้ว่า พระสมเด็จนางพญา สก. ๒๕๑๙ คือ พระเครื่องรุ่นแรกที่ปรากฏพระนามาภิไธย สก. ประดิษฐานบนองค์พระ


          เมื่อจัดสร้างพระเครื่องรุ่นนี้ ทั้งสองพิมพ์ คือ พิมพ์พระสมเด็จอุณาโลมทรงจิตรลดา และสมเด็จนางพญา สก. ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระราชทานมวลสารส่วนพระองค์จำนวนมากเป็นการเฉพาะ พร้อมทั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีและทรงพระสุหร่ายด้วยพระองค์เอง

 

          หากแต่เมื่อพินิจถึงพระสุบินนิมิตขององค์สมเด็จพระสังฆราชในการจัดสร้าง “พระทรงพิมพ์นางพญา” แล้วนั้นยิ่งทำให้สมเหตุสมผลในการที่ สังฆราชคู่บัลลังก์ ทรงรับเป็นแม่งานในการจัดสร้างคราวนี้ แลเมื่อสมเด็จท่านที่เปรียบเสมือนแม่ทัพธรรมสายวัดป่ากรรมฐานเป็นแม่งานแล้วนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ผู้เป็นพระอาจารยฺ์สอนกรรมฐานให้ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จญาณสังวรฯ นอกจากจะประทานผงอิทธิเจอันเป็นมวลสารมงคลของพระองค์แล้ว ยังทรงเมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องชุดนี้ถึง ๕ วัน ๕ คืน รวมทั้ง อริยสงฆ์เจ้า เกจิอาจารย์สายวัดป่ากรรมฐานแทบทั่วประเทศ จะทุ่มเทพลังจิตพลังกาย เพื่อเพิ่มพุทธคุณ ในการปลุกเสกพระเครื่องชุดนี้ ให้เข้มขลัง


          สรุปสั้นๆ ได้ว่า มวลสารอะไรที่เรียกว่าดี เกจิไหนที่เข้มขลังพิธีอย่างไรที่ศักดิ์สิทธิ์ ล้วนทำและบรรจุในพระเครื่องชุดนี้แทบทั้งสิ้น (อ่านต่อฉบับหน้า)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ