Lifestyle

พระขุนแผนผงพรายเมืองนนท์!?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดตำนานวัดละครทำ สมัยกรุงศรีอยุธยา สู่วัดบางแพรกต้นตำรับ พระขุนแผนผงพรายเมืองนนท์!? : คอลัมน์... ตามรอย...ตำนานแผ่นดิน โดย... เอก อัคคี

 


          ก่อนอื่น เราต้องมาทำความรู้จักกันก่อนว่า พรายคืออะไร?


          มีความเชื่อกันมาแต่โบราณว่า พราย คือ จิตวิญญาณชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กสุดตามลำดับของดวงจิตวิญญาณที่สามารถปรากฏให้รับรู้ได้ คือ พราย ภูติ ผี ปีศาจ ส่วนใหญ่มักมีที่มาจากการหมักหมมของซากพืชหรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กๆ ดวงจิตวิญญาณนี้มักแสดงตนมีลักษณะเป็นผู้หญิงใส่เสื้อสีขาว เป็นดวงไฟเรืองแสง มักปรากฏตัวตอนเวลาหกโมงเช้า เที่ยงวัน หกโมงเย็น และเที่ยงคืน มักอยู่ในคลองหรือแม่น้ำที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด เมื่อจับเหยื่อได้จะเอาร่างเหยื่อที่ไร้วิญญาณเป็นร่างของตน

 

 

          ผีพรายส่วนมากจึงมักปรากฏร่างเป็นผู้หญิง นางไม้ บางทีก็จัดเข้าพวกผีพรายได้เช่นกัน เช่น พรายตะเคียน พรายตานี เป็นต้น หรือแม้แต่ผีทะเลหรือผีน้ำก็จัดเป็นพรายด้วยเช่นกัน เช่น พรายทะเล พรายน้ำ นอกจากนี้ ในเรื่องขุนช้างขุนแผนยังปรากฏผีพรายด้วย คือโหงพราย แต่ในเรื่องขุนช้างขุนแผน คาดว่าน่าจะเป็นผีผู้ชายมากกว่า


          สำหรับพระขุนแผนสายพราย กำเนิดเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใดนั้นยังไม่มีเอกสารหลักฐานบันทึกกันอย่างชัดเจน แต่ที่ยอมรับกันว่า พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์เปี่ยมด้วยวิทยาคมนั้นมีจำนวนไม่น้อยที่นิยมสร้างพระเครื่องขุนแผนขึ้นมาเพื่อแจกจ่ายให้ลูกศิษย์ของท่านได้นำไปพกพาบูชาติดตัว

 

พระขุนแผนผงพรายเมืองนนท์!?


          แต่ที่โดดเด่นและโด่งดังมากก็มาจากการสร้างของ หลวงปู่ทิม อิสริโก แห่งวัดละหารไร่ นั้นคือ พระขุนแผนผงพรายกุมารอันลือลั่น และต่อมาก็มีพระเกจิอาจารย์ที่อีกหลายท่าน ได้นำเอาอัฐิสังขารของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วมาประกอบพิธีกรรมที่เรียกว่าพลีกรรมแล้วบดผสมสร้างเป็นพระเครื่อง เช่น พระผงกระดูกผีพระอาจารย์หนู วัดโพธิ์ท่าเตียน, หลวงปู่ฮก วัดท่าข้าม, พระเครื่องผงพรายสมุทรของ หลวงพ่อเจิม วัดหอยราก ในราวปี ๒๕๕๗ ถือว่าเป็นช่วงยุคทองของพระขุนแผนสายพรายยุคใหม่ที่มาแรงมาก โดยเฉพาะกระแสพระขุนแผนพรายกัญญา ซึ่งจัดสร้างแจกฟรีให้ญาติโยมโดย ท่านญาคูจุณฑ์แห่งเสนาสนะวัตรป่าเจ้าสัว เมืองอุบลราชธานี กำลังฮือฮา



          เอก อัคคี คอลัมนิสต์แนวพระเครื่องชื่อดังเล่าว่า ในช่วงนั้น ทางวัตรป่าเจ้าสัว จ.อุบลราชธานี ได้มีการมอบผงพรายกัญญาให้ทางวัดบางแพรกเป็นมวลสารตั้งต้นในการจัดสร้างพระเครื่องเพื่อหาปัจจัยมาบูรณะศาสนสถานที่ชำรุดทรุดโทรมและที่สำคัญวัดเก่าแก่แห่งนี้ 

 

          เมื่อท่านพระอาจารย์มหาธีร์ เจ้าอาวาสวัดบางแพรก ได้รับ “ผงพรายกัญญา” ที่ได้มาหนึ่งกระปุก ท่านได้เทผสมกับมวลสารอื่นๆ ของทางวัดที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วเก็บในโถกระเบื้องซาเรมิกขนาดใหญ่ถึงสองโถเต็มๆ และแบ่งมาสร้างพระขุนแผนของทางวัดไปแล้วสองรุ่น ซึ่งก็ตักมาผสมกับผงพุทธคุณอื่นๆ เพื่อใช้เป็น “ผงพุทธคุณผงพรายวัดบางแพรก” รวมไปถึงพระขุนแผนรุ่นล่าสุด “พระขุนแผนพรายเสน่ห์จันทร์” ที่มีการนำไปปลุกเสกภายในถ้ำฉัททันต์บรรพต สำนักวัดเขาอ้อ ที่เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์แห่งภาคใต้ โดยมี อ.เปลี่ยน หัทยานนท์ ฆราวาสอาวุโส วัย 82 ปี ศิษย์ผู้น้องของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธีกรรม เรียบร้อยแล้วและปลุกเสกอีกหลายวาระ

 

พระขุนแผนผงพรายเมืองนนท์!?

 


          และท่านเมตตาเล่าถึงประวัติความเป็นมาของวัดบางแพรก ท่านบอกว่าในสมัยโบราณย่านนี้เป็นชุนชนชาวสวน ริมคลองบางแพรก ซึ่งเป็นคลองแยกออกจากคลองอ้อมนนท์ ในสมัยที่ยังไม่มีถนนรัตนาธิเบศร์ ชาวบ้านจะมาวัดทางเรือ ด้วยการพายกันมาในคลองบางแพรก แต่ทุกวันนี้คลองกลายเป็นคูน้ำไปแล้ว!?!


          นับย้อนหลังกลับไปร่วม ๓๐๐ ปี วัดบางแพรกแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ประมาณพุทธศักราช ๒๒๔๐ เดิมชื่อวัดละครทำ ว่ากันว่า คณะบุคคลที่มาสร้างวัดแห่งนี้เป็น ชาวคณะละครรำ ทำให้ผมนึกไปถึง วัดประดู่หอม ที่เมืองพัทลุง ที่ชาวคณะมโนราห์ รับหน้าที่คณะโยมอุปถัมภ์วัดมายาวนานวัดบางแพรกหรือว่าละครทำ ก็น่าจะทำนองเดียวกัน คือ เมื่อชาวคณะละครรำ มาสร้างวัด ชาวบ้านเลยเรียกว่า วัดละครทำ แต่เนื่องจากวัดตั้งอยู่ริมคลองบางแพรก ในกาลต่อมาจึงมีผู้เรียกชื่อวัดตามชื่อคลองว่าวัดบางแพรก จากการไปศึกษาค้นคว้าเอกสารเก่าพบว่า ตามหนังสือทำเนียบคณะสงฆ์ของกระทรวงธรรมการ พิมพ์เมื่อ ร.ศ.๑๒๓ (พ.ศ. ๒๔๔๘) ก็ได้มีชื่อวัดบางแพรกแล้ว
ดั่งเนื้อความดังนี้


          “วัดบางแพรก ตำบลบางไผ่ อำเภอบางบัวทอง พระเหลี่ยมเจ้าอาวาสและตามหนังสือที่กรมการศาสนาได้รวบรวม ชื่อไว้เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๒ ได้มีชื่อวัดบางแพรก ด้วยวัดบางแพรกได้เป็นวัดร้างในช่วงเวลาที่กรุงศรีอยุธยาล่มสลายเช่นเดียวกับวัดอื่นๆ อีกหลายวัดในบริเวณคลองอ้อมนนท์นี้จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์มีชาวบ้านมาอยู่ที่ชุมชนบางแพรก และมีพระสงฆ์มาอยู่จำพรรษาที่วัดบางแพรกและได้บูรณะจนเป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่ประจำเรื่อยมาวัดบางแพรก ได้มีการบูรณะสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดต่อเนื่องกันมาจนถึง พุทธศักราช ๒๓๖๔ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการขอพระราชทานวิสุงคามสีมาได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมาเป็นที่เรียบร้อย"

 

          และที่วัดบางแพรกแห่งนี้มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่โบราณที่ยึดเหนี่ยวชาวบ้านย่านนี้เรียกว่า คือหลวงพ่อศิลาแลงหรือหลวงพ่อหิน พระคู่บ้านชาวสวนคนคลองบางแพรก ที่บนบานสิ่งใดมักจะต้องได้นำไข่ต้มขนมตะไลมาแก้บนกันไม่ขาด ท่านพระอาจารย์มหาธีร์ มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ และท่านได้สร้างพระเครื่องอันเปี่ยมในพุทธคุณและโด่งดังในวงการนักสะสมพระเครื่องสายพรายมงคล คือพระขุนแผนพรายชมจันทร์ และพระขุนแผนพรายเทวะประสิทธิ์


          และเมื่อจัดสร้าง พระขุนแผนพรายเสน่ห์จันทร์ เพื่อเตรียมมอบให้ญาติโยมที่จะร่วมงานบุญกฐินประจำปีนี้เดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ จึงน่าสนใจมาก เพราะเป็นการทำงานบุญเพื่อบูรณะซุ้มประตูวัด ส่วนเหตุที่ใช้ชื่อว่า “พรายเสน่ห์จันทร์” นั้นมีที่มาน่าพิศวงมาก เพราะมีสุภาพสตรีคนหนึ่งมากราบเรียนท่านว่า ฝันว่า มีนางละครรำที่มีลักษณะเหมือนคนโบราณไปเข้าฝันบอกว่าให้มาบอกท่านว่า นางรำผู้นั้นมีชื่อว่า “จันทร์” เป็นนางละครรำและอยากจะช่วยวัดอีกครั้ง...จึงเป็นที่มาของแรงศรัทธาดลใจให้ท่านคิดจะจะจัดสร้าง พระขุนแผนพรายเสน่ห์จันทร์ขึ้น เพื่อเป็นที่ระลึก รำลึกถึง


          และด้วยเหตุว่า วัดบางแพรกหรือวัดละครทำในสมัยโบราณแห่งนี้ ขึ้นชื่อว่า เป็นวัดต้นตำรับการจัดสร้างพระขุนแผนสายพราย เพราะสร้างมาแล้วสองรุ่นคือ พระขุนแผนพรายชมจันทร์และพระขุนแผนพรายเทวะประสิทธิ์ ในครั้งนี้จึงมาเป็นพรายเสน่ห์จันทร์ เพราะท่านดำริว่า นางรำนางละครนั้นการจะตรึงตาตรึงใจผู้ชมได้นั้น จะต้องมีความสวยงาม การร่ายรำคงจะต้องมีเสน่ห์งดงามอ่อนช้อย จึงจะสามารถทำหน้าที่เป็นนางละครรำได้ ส่วนจะรำอะไรแบบไหนก็ยากเกินจะไปบอกแบบชัดเจน ยิ่งฟังอ่าน-ยิ่งฟัง ยิ่งศึกษายิ่งค้นคว้า...ยิ่งขนลุก ฤาพลังฤทธิ์ จิตศรัทธาอันแรงกล้าของแม่นางพรายเสน่ห์จันทร์แห่งวัดละครทำ เริ่มปรากฏแล้วกระมัง ????


          ถ้าใครสนใจจะร่วมทำงานบุญ บูชาพระขุนแผนพรายเสน่ห์จันทร์ของวัดบางแพรกก็ลองติดต่อสอบถามไปได้กับทางวัดบางแพรก บางบัวทอง จ.นนทบุรี วัดเก่าแก่ ที่ตอนนี้ได้รับการเรียกขานว่า เป็นวัดต้นธารตำนานพระขุนแผนพรายเมืองนนท์ยุคใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ