Lifestyle

วิถีนักเลง-นักรำ-นักร่ายมนต์เสน่ห์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วิถีนักเลง-นักรำ-นักร่ายมนต์เสน่ห์ : คอลัมน์... ตามรอย...ตำนานแผ่นดิน โดย... เอก อัคคี

 

          ผมตื่นมานั่งอ่านหนังสือตั้งแต่เช้ามืดตามปกติวิสัย เช้าวันหนึ่งผมอ่านบทความของ อ.นิติ ภวัครพันธุ์ เรื่อง “นักเลง(เพลง)รอนแรมขมังเวทย์” ในหนังสือรวมบทความ “เจ้าพ่อ ประวัติศาสตร์ จอมขมังเวทย์” หนังสือรวมบทความประวัติศาสตร์ ในโอกาสครบรอบ 60 ปี อ.ฉลอง สุนทราวาณิชย์ แล้วชอบใจมาก เป็นงานวิชาการประวัติศาสตร์ที่อ่านสนุก ดื่มด่ำ ดำดิ่งไปราวกับการอ่านงานวรรณกรรมแนวผจญภัย
บทความชิ้นนี้อ้างอิงเนื้อหางานวิจัยเรื่องชาติพันธุ์และความสัมพันธ์ทางชาติพันธุ์ของนักมนุษยวิทยาชาวอเมริกัน ลูอิส โกโลมบ์ ที่มาทำวิจัยในรัฐกลันตันของมาเลเซียในต้นทศวรรษ 1970 โดยใช้ชุมชนชาวพุทธในรัฐกลันตันมาเป็นกรณีศึกษา

      เขาอธิบายถึงความหมายของคำว่านักเลงได้อย่างน่าสนใจ เพราะในทางวิชาการ โกโลมบ์ขยายความของคำว่า ‘นักเลง’ ที่ปรากฏอยู่ในภาษาไทยและภาษามาเลย์ที่ชาวบ้านในรัฐกลันตันใช้สื่อสารกันว่า มีนัยของการเป็นวีรบุรุษทางวัฒนธรรมเชิงนักแสดง นักผจญภัย คือคนที่เข้าข่ายนักเลงในรัฐกลันตัน อาจรวมถึงนักแสดงมโนราห์ นักล่าหมูป่า นักพนันเช่น เจ้าของ/คนเลี้ยงไก่ชนและชายหญิงเกือบทุกคนที่กล้าพอที่จะเดินทางออกจากหมู่บ้านของตนไปผจญภัยหาความตื่นเต้นสะใจ

 

วิถีนักเลง-นักรำ-นักร่ายมนต์เสน่ห์

 

          ลูอิส โกโบมบ์ ให้ความสนใจบุคคลที่มีลักษณะนักเลง 2 ประเภท ได้แก่ นักล่าหมูป่า และนักแสดงมโนราห์ ทั้งสองกลุ่มมีประวัติความเป็นมาย้อนหลังไปถึงคริสตวรรษที่ 19 มีเรื่องเล่าในหมู่คนท้องถิ่นว่า เมื่อดินแดนส่วนใหญ่ในคาบสมุทรมาเลย์ยังเต็มไปด้วยหมูป่า เนื่องจากชาวมุสลิม/มาเลย์หลีกเลี่ยงการสัมผัสหมูตามข้อห้ามทางศาสนา นอกจากชาวจีนเพียงไม่กี่คนที่ล่าหมูป่า

          หมูป่าก็แทบไม่มีศัตรูหรือใครทำร้ายมันเลย ดังนั้นเมื่อนักล่าหมูป่าชาวสยามกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นนักแสดงละครมโนราห์ เร่ร่อนเดินทางมาจากภาคใต้ของประเทศไทย เข้ามาหากินด้วยการแสดงมโนราห์และล่าหมูป่าในแถบนี้ พวกเขาจึงได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านในท้องถิ่นซึ่งเป็นคนมาเลย์ด้วยความยินดี

 

          นักวิชาการชาวอเมริกันบอกชัดเจนว่านักเลงมโนราห์ล้วนมีเวทมนตร์เป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติ (supernatural power) ........

          ตรงนี้แหละที่ผมมองว่าน่าสนใจ เพราะนักแสดงมโนราห์ที่โกโลมบ์ระบุว่าเป็นนักเลงประเภทหนึ่งนั้น ไม่เพียงแต่ในรัฐกลันตันของมาเลเซียเท่านั้นที่มองเช่นนั้น เพราะตลอดคาบสมุทรมลายูทั้งในไทยและมาเลเซีย นักแสดงมโนราห์ในอดีตไม่ใช่แค่นักแสดง เพราะนอกเหนือจากความสามารถในการแสดงแล้วพวกเขายังเป็นกลุ่มที่เชี่ยวชาญในด้านวิชาอาคมเวทมนตร์คาถา ชำนาญในด้านไสยศาสตร์ ไสยเวท อย่างที่บอกว่า นักแสดงมโนราห์มีอำนาจเหนือธรรมชาติ มีเวทมนตร์ที่ร่ำเรียนกันมารุ่นต่อรุ่น พวกเขาจะไหว้ผีบรรพบุรุษที่เรียกกันว่า “ครูหมอมโนราห์” เพื่อขอพร ขอความคุ้มครองในด้านต่างๆ และเป็นผีที่ต้องกราบไหว้ทุกครั้งก่อนแสดง

 

วิถีนักเลง-นักรำ-นักร่ายมนต์เสน่ห์

 

          นักวิชาการด้านมานุษยวิทยาชาวอเมริกันยังเขียนรายงานการวิจัยไปในทำนองที่ว่าคนไทยและกลุ่มคนอื่นๆ ล้วนมีความเชื่อในเรื่องผีบรรพบุรุษของมโนราห์และผู้ที่จะเชิญวิญญาณได้ต้องเป็นอาจารย์หรือครูหมอผู้มีวิชาอาคมและยอมรับกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณว่าเป็นผู้ที่มีเวทมนตร์ด้านมหาเสน่ห์มากที่สุดในภาคใต้ นอกจากนี้ชาวบ้านในรัฐกลันตันเชื่อว่าอาจารย์หรือครูหมอมโนราห์มีวิชาอาคมที่สามารถทำให้คนอื่นหลงรักกันหรือไม่รักกันก็ได้ ดั้งนั้นเชื่อกันว่าครูหมอมโนราห์มีความสามารถมากในการทำเสน่ห์ยาแฝด

          นั่นต้องบอกก่อนว่าเป็นมุมมองของนักวิชาการชาวอเมริกันนะครับที่เขียนเอาไว้ในงานวิจัยของเขา ที่ระบุว่าความเชื่อของคนในรัฐกลันตัน มองว่า ชาวสยามในยุคนั้นกลุ่มนั้นมีความสามารถด้านไสยศาสตร์และไม่เพียงแค่นักแสดงมโนราห์เท่านั้นที่มีสรรพวิชาเหล่านี้ ยังมีชาวสยามหรือคนไทยพุทธอีกจำนวน 12 คน ในราวปี ค.ศ.1974 ที่มีความสามารถด้านไสยศาสตร์ทำเสน่ห์ให้ลูกค้าชาวจีน ชาวมาเลย์และชาวอินเดียที่อาศัยอยู่ในรัฐกลันตัน นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่อยู่ไกลถึงนครกัวลาลัมเปอร์และสิงคโปร์ หรืออินโดนีเซียที่ดั้นด้นมาซื้อบริการ

          เพราะฉะนั้นเรื่องราวเวทมนตร์ของกลุ่มนักแสดงมโนราห์จึงไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอยแต่อย่างใด

 

วิถีนักเลง-นักรำ-นักร่ายมนต์เสน่ห์

 

          สำหรับวัตถุมงคลในสายมโนราห์ที่โด่งดังในรอบหลายปีที่ผ่านมาคือ “หน้าพรานบุญ รุ่น ๑ จงเจริญสุข” วัดประดู่หอม ทะเลน้อย จ.พัทลุง ที่มี “อาจารย์ไข่" คฑาวุฒิ ทองไทย ศิลปินเพลงชื่อดังแห่งวงมาลีฮวนน่า เป็นประธานในการจัดสร้าง เพราะมีฆราวาสจอมขมังเวทย์ ศิษย์คนสุดท้ายแห่งสำนักตักศิลาเขาอ้อ “อาจารย์เปลี่ยน หัทยานนท์” เป็นเจ้าพิธี มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแดนใต้ “พ่อแก่เจ้าแสง” วัดบ้านตรัง อ.มายอ (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกหน้ากากพรานรุ่นแรกของวัดประดู่หอม ต.ทะเลน้อย พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตา ก็เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกให้ด้วย นอกจากนั้นครูหมอมโนราห์แห่งลุ่มน้ำทะเลน้อย ลงประทับทรงพรานบุญตาขุนศรี มอบมวลสารมงคลสารมโนราห์โดยตรง ให้นำมาหลอมรวมเป็นมวลสาร อาทิ เชือกมัดหางหงส์, บ่วงบาศคล้องนางโนรา, ลูกธนูนายพรานบุญและสายสิญจน์ยอดเทริดที่เป็นของศักดิ์สิทธิ์มีพุทธคุณด้านเมตตามหาเสน่ห์

          กล่าวสำหรับ “พ่อแก่เจ้าแสง จนฺทวฺณโณ” ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์หลายองค์ อาทิ พ่อท่านจันทร์ทอง วัดตะเคียนทอง ซึ่งลูกศิษย์ของพ่อท่านจันทร์ทองและเป็นศิษย์น้องของพ่อแก่เจ้าแสงที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เลื่องลือคือ “พ่อท่านหวาน" วัดบ้านลานควาย เรื่องของคุณธรรมที่พ่อแก่เจ้าแสง มักกล่าวเตือนลูกศิษย์เสมอๆ คือไสยศาสตร์เป็นเรื่องที่แปลก วิชาเดียวกันสามารถทำให้เกิดได้ทั้งคุณและโทษ คาถาอาคมจึงเป็นพื้นฐานของธรรมะ พื้นฐานของคุณธรรมที่ฝังอยู่ในจิตใจของผู้เรียน ใช้ให้ดีก็มีแต่สิ่งดีๆ ใช้ในเรื่องไม่ดีก็มีแต่โทษและความเสื่อม

          เพราะฉะนั้น วิถีนักเลง-นักรำ-นักร่ายมนต์เสน่ห์ จึงไม่ใช่แค่นิทานเรื่องเล่าขบขันจากครั้งโบราณอย่างแน่นอน
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ