"รักษ์โลก" ผ่านแรงสะท้อนจากช่างภาพนักผจญภัย

          ให้ภาพเล่าเรื่อง...คำพูดนี้ใช้ได้ดีกับบริบทของภาพถ่ายจากช่างภาพฝีมือเฉียบ ซึ่งกำลังเกิดขึ้นภายในนิทรรศการภาพถ่าย "บียอน ดิ แอร์ วี บรีธ : แอดเดรสซิ่ง ไคลแมท เชนจ์" รวบรวมผลงานภาพถ่ายจากช่าง

ภาพระดับโลกกว่า 60 ชีวิต นำโดย เจมส์ นัทชวีย์, สตีฟ แมคเคอรี่, เซบาสเตียน โคปแลนด์, ทอม จาโคบิ และ นัท สุมนเตมีย์ ช่างภาพชาวไทย กับผลงานภาพถ่ายที่สะท้อนถึงความสวยงามของโลกที่แม้จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมประเดิมกิจกรรมร่วมพูดคุยอย่างออกรสกับ เซบาสเตียน โคปแลนด์ ช่างภาพนักผจญภัย เจ้าของผลงานภาพถ่ายไฮไลท์ ที่หวังร่วมผลักดันให้ทุกคนเกิดแรงกระตุ้นที่จะรักษาโลกให้อยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจาก วีระ โรจน์พจนรัตน์ เจ้ากระทรวงวัฒนธรรม มาเป็นประธานเปิดงาน เมื่อวันก่อน  นิทรรศการภาพถ่ายอันน่าตื่นตานี้ เป็นชุดภาพถ่ายเดียวกับที่จัดแสดงมาแล้วในการประชุม COP21 ที่มหานครปารีส ประเทศฝรั่งเศส และยังถูกนำไปจัดแสดงต่อเนื่องในอิตาลี สหรัฐอเมริกา และ เม็กซิโก แต่มีความพิเศษกว่าครั้งที่ผ่านมา คือใช้คุณภาพการพิมพ์ระดับเดียวกับการจัดงานนิทรรศการระดับโลก

วีระ โรจน์พจนรัตน์ ชื่นชมผลงาน

บรรยากาศภายในนิทรรศการ

เซบาสเตียน โคปแลนด์ ถ่ายทอดประสบการณ์

ผศ.ปวิตร มหาสารินันทน์

          ดาว วาสิกศิริ นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า งานนี้เป็นหนึ่งในนิทรรศการระดับชิ้นโบว์แดงที่สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยครั้งนี้เป็นปีที่ 4 ได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิลูซี่โดยภัณฑารักษ์ Houssein Farmani และ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นำผลงานภาพถ่ายจากสุดยอดช่างภาพระดับโลกที่ผู้คนนับล้านได้สัมผัส และสร้างแรงบันดาลใจที่จะปกป้องโลกใบนี้ มาจัดแสดงในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียเป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายผ่านผลงานภาพถ่ายอันสวยงามของช่างภาพระดับโลก และได้ตื่นตัวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงใกล้ตัว นั่นคือ “ปัญหามลพิษทางอากาศ” อันเป็นผลกระทบมาจากปรากฏการณ์ก๊าซเรือนกระจกที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นจากการปล่อยมลพิษโดยฝีมือมนุษย์เอง 

Houssein Farmani

นัท สุมนเตมีย์

          "ผลงานภาพถ่ายที่นำมาจัดแสดงก็คือเสียงสะท้อนอันบอบช้ำของโลกมาถึงพวกเรา ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เรากำลังเผชิญอยู่ล้วนมีผลจากน้ำมือพวกเราเอง พวกเราทุกคนต่างทราบดีว่าสภาวะโลกร้อนนั้นกำลังทำลายมนุษยชาติอย่างรวดเร็ว ช่างภาพ ในฐานะเป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์ และสื่อสารเรื่องราวต่างๆสู่ผู้คนผ่านภาพถ่าย เนื่องจากภาพถ่ายคือสื่อที่ทรงพลัง ภาพเดียวแทนคำพูดได้นับล้านคำ ความร่วมมือในเรื่องของการรักษาโลกไม่ใช่แค่หน้าที่ของนักเคลื่อนไหว แต่เป็นหน้าที่ของทุกคน” ดาว กล่าว

ชำนิ ทิพย์มณี

   นอกจากรับชมนิทรรศการแล้วยังมีกิจกรรมที่จะกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมผ่านผลงานและแรงบันดาลใจจากช่างภาพระดับโลก ผู้ใช้ช่วงชีวิตส่วนใหญ่ของเขาไปกับการเฝ้ามองโลกที่เปลี่ยนแปลงไปโดย เซบาสเตียน ช่างภาพนักผจญภัยผู้มีผลงานภาพถ่ายขั้วโลก ได้ร่วมพูดคุยและถ่ายทอดประสบการณ์จากขั้วโลกเหนือถึงขั้วโลกใต้ของเขา ใน “RPST Master Series Artist Talk”กับSebastian Copeland’s Pole to Pole - A Vanishing World  พร้อมบอกเล่าถึงสิ่งที่เขาค้นพบจากการใช้ชีวิตผจญภัยท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือถึงขั้วโลกใต้ ซึ่งเผยให้เราได้เห็นถึงความลับของโลกที่มีมานานถึง 4,500 ล้านปีจนถึงโลกของมนุษยชาติปัจจุบัน ที่จะนำพาเราไปสู่การหาหนทางแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศพร้อมยังแจกลายเซ็นบนหนังสือรวมภาพถ่ายผลงานของเขาอีกด้วย

เซบาสเตียน โคปแลนด์

          เซบาสเตียน ยังได้นำภาพยนตร์สารคดีจากการเขียนบทและกำกับ “อินทู เดอะ โคลด์ : อะ เจอร์นี่ ออฟ โซล” เรื่องราวของผู้ชายสองคนที่เดินทางไปสำรวจขั้วโลกเหนือในปี 2009 เพื่อส่งข้อความให้ผู้คนได้ตระหนักถึงความเลวร้ายของสภาพอากาศที่ทำให้น้ำแข็งละลายไปอย่างรวดเร็ว ในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้  เวลา 19.00 น. ที่ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร  นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมจาก ทอม จาโคบิ ช่างภาพชาวเยอรมนี ที่จะมาถ่ายทอดประสบการณ์ 4 ทวีปของเขา ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้อีกด้วย

บรรยากาศภายในนิทรรศการ

          ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมชมนิทรรศการภาพถ่ายโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 2 กันยายน 2561 ที่ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (หอศิลป์หยุดทุกวันจันทร์)