แสดงความคารวะผู้อาวุโส 36 คน จาก 18 อำเภอที่ทำคุณประโยชน์แก่สังคม
คนไทยเป็นชนชาติที่มีความสุนทรียะ ซึ่งถ่ายทอดออกมาเป็นประเพณีวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและสวยงาม แสดงให้เห็นถึงความละเมียดประณีตในจิตใจ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเพณีวัฒนธรรมเหล่านี้ ที่นับวันจะลบเลือนไปตามกาลเวลาและอยากอนุรักษ์ไว้ จึงเป็นที่มาของจัดงาน “สระเกล้าดำหัว” ในเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2561 เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลัง ในการเคารพนบนอบผู้สูงอายุ โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก ท่านผู้หญิงบุตรี วิระไวทยะ กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานจัดงาน พร้อมด้วย คุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา กรรมการและรองเลขาธิการ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์, นคร พงษ์น้อย กรรมการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้อำนวยการอุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง (ไร่แม่ฟ้าหลวง) และ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และบุคคลสำคัญจากทุกภาคส่วนของจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมงานกว่า 400 คน ที่อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง (ไร่แม่ฟ้าหลวง)
เจ้าชูศรี สิโรรส-เจ้าพนอ ณ เชียงใหม่ วางตุงหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จย่า
นคร พงษ์น้อย เผยว่า ด้วยพระปณิธานของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ในการมุ่งพัฒนาโดยทรงไม่เลือกว่านั่นเป็นชาวเขานี่เป็นชาวเมือง แต่ที่ผ่านมามูลนิธิฯ มัวแต่ไปทำงานด้านการพัฒนา จึงหลงลืมไปว่าคนในเมืองก็ต้องการการพัฒนาและการดูแลเอาใจใส่เช่นเดียวกัน เป็นเหตุให้ มูลนิธิฯ ห่างหายจากกิจกรรมรดน้ำดำหัวไปนานกว่า 20 ปี ในวันนี้เมื่อตระหนักได้ว่า เราดำเนินงานตามรอยพระองค์ท่านจึงได้รื้อฟื้นประเพณีดังกล่าวนี้ขึ้นมาอีกครั้ง โดยในงานนอกจากจะมีพิธีสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังมีพิธีสรงน้ำพระพุทธรูปไม้โบราณอายุกว่า 100 ปีจำนวน 16 องค์ ผ่านรางพญานาค ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน และกิจกรรมกวีล้านนาร่ายกะโลงแสดงความคารวะผู้อาวุโสทั้งปวงจาก 18 อำเภอ จำนวน 36 คน ที่ได้ทำคุณประโยชน์แก่สังคมเชียงราย พร้อมมอบน้ำขมิ้นส้มป่อยและเครื่องคำนับแด่ผู้อาวุโสที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมเชียงรายตามประเพณีดังดั้งเดิมที่เชื่อว่า น้ำขมิ้นส้มป่อย เป็นสิ่งมงคลสามารถขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีต่างๆ ให้หมดไป โดยขบวนสาวสงกรานต์จะเป็นผู้อัญเชิญเครื่องคำนับสู่บริเวณพิธี
พระสงฆ์นำร่วมสรงน้ำตามแบบล้านนาโบราณ
นคร พงษ์น้อย รดน้ำดำหัว ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร
“พิธีวันนี้เกิดจากความต้องการของคนส่วนใหญ่ ที่เห็นว่าพิธีสงกรานต์ไม่ใช่การละเล่นสาดน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ประเด็นสำคัญคือการแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณต่อเรา ซึ่งมิได้หมายความว่าเป็นปู่ย่าตายายหรือพ่อแม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่ ข้าราชการบ้านเมือง ตำรวจ ทหาร แพทย์ พยาบาล ต่างๆ ชาวเชียงรายจึงคิดว่าควรจะทำอะไรขึ้นมาสักทีให้เป็นเรื่องเป็นราว ให้เป็นพิธีที่สวยงามมีระเบียบ พิธีในวันนี้อาจจะไม่สมบูรณ์นัก ด้วยว่าเว้นว่างมานานแล้ว ก็อยากใช้พื้นที่ไร่แม่ฟ้าหลวง เนื่องจากสมเด็จย่า พระราชทานให้ทำประโยชน์ต่อเรื่องศิลปวัฒนธรรมและการศึกษา ดังนั้นอยากให้วันนี้เป็นวันเริ่มต้นที่ดีต่อบางสิ่งบางอย่าง แล้วศึกษาว่าผลตอบรับเป็นอย่างไร เพื่อนำไปปรับปรุงในวันข้างหน้าดูแลแก้ไข ทำให้ดีขึ้นยิ่งๆ ขึ้นไป ประเพณีการแสดงความคารวะต่อผู้ใหญ่ไม่ค่อยมีเห็นเด่นชัดในชาติอื่น ชาติของเราควรหยิบประเพณีนี้ขึ้นมาทำให้โดดเด่น เป็นสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่โบราณ” ผอ.อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง กล่าว
ท่านผู้หญิงบุตรี วิระไวทยะ นำคณะรดน้ำดำหัวผู้อาวุโส
ทั้งนี้ นคร พงษ์น้อย กล่าวถึงจุดเด่นงานนี้ว่า คือการแสดงความคารวะต่อผู้ใหญ่ คำว่าสระเกล้าดำหัว คือการแสดงความคารวะ แสดงความกตัญญูรู้คุณ อันนี้คือจุดเด่นที่สุด ไม่ใช่การตกแต่งดอกไม้ ไม่ใช่พิธีรีตองต่างๆ อันนี้เป็นส่วนปลีกย่อย แต่ส่วนสำคัญคือต้องการให้เราปัจจุบันและเยาวชนรุ่นหลังรู้จักการมีความกตัญญูรู้คุณ อันนี้คือหัวใจสำคัญที่สุด เรื่องพิธีกรรมต่างๆ ถือเป็นส่วนย่อยอะไรสวยเราก็ทำแค่นั้น ส่วนขั้นตอนสำคัญนอกจากพิธีทางศาสนา เรายังมีพิธีที่เราจะถวายน้ำขมิ้นส้มป่อยแด่พระฉายาลักษณ์สมเด็จย่า เพราะถือว่าพระองค์ท่านทรงเป็นผู้มีพระคุณต่อประชาชนชาวเชียงราย นอกจากนี้เรายังเชิญผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีคุณภาพและมีการดำเนินชีวิตที่เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม นอกจากจะเป็นการคารวะแล้ว ยังเป็นกำลังใจแก่ผู้สูงอายุทั้งหลายว่า ถ้าดำเนินชีวิตดี คนทั่วไปก็จะเห็นคุณค่า
คุณหญิงพวงร้อย ดิสกุล ณ อยุธยา ร่วมสรงน้ำพระพุทธรูปไม้
กวีล้านนาร่ายกะโลงแสดงความคารวะผู้อาวุโส
บรรยากาศในงานสระเกล้าดำหัว
"สำหรับพิธีการ สรงน้ำพระพุทธรูปไม้โบราณผ่านรางพญานาค ก็เป็นอีกหนึ่งความเชื่อโบราณของชาวล้านนาว่า พระพุทธรูป คือ ตัวแทนของพระพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่มีชีวิตไม่ใช่เป็นเพียงอิฐ ปูน หรือไม้ การสรงน้ำพระเป็นการแสดงความเคารพนพนอบ เป็นสิริมงคลต่อตัวเอง ซึ่งในครั้งนี้ได้นำ “พระพุทธรูปไม้ 16 องค์” ที่งดงามที่สุดของมูลนิธิฯ ออกมาจัดวางในองค์ประกอบให้สวยงาม มิได้เน้นว่าต้องมีความหมายใดๆ เพียงแค่ต้องการออกมาให้ประชาชนกราบไหว้บูชา ไม่ใช่จะเก็บไว้ในห้องเฉยๆ และเหตุที่ต้องใช้ “ราง” แทนการใช้ขันตักน้ำสาดไปที่องค์พระ เป็นการแสดงความเคารพสูงสุด โดยการเทน้ำผ่านรางน้ำให้ไหลไปสู่ขันน้ำเบื้องหน้าพระพุทธรูป ซึ่งในขันน้ำใบนั้นมีเชือกเป็นตัวเชื่อมนำน้ำไปสู่พระพุทธรูปอีกชั้นหนึ่ง ส่วนที่ต้องเป็น “พญานาค” ตรงนี้่น่าจะมีความเชื่อมโยงกับพุทธศาสนามาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยพุทธกาล ดังนั้น “พิธีสรงน้ำพระพุทธรูปผ่านรางพญานาค” จึงเป็นพิธีที่มีมาตั้งแต่โบราณอย่างแท้จริง สุดท้าย “น้ำส้มป่อย” เพราะคุณลักษณะชำระล้างความสิ่งสกปรกได้ เหมือนชำระความสกปรกในใจมนุษย์ให้สะอาด เมื่อส้มป่อยอยู่ในน้ำ น้ำนั้นจึงมีความสะอาดพอที่จะใช้ในพิธีสรงน้ำพระนั่นเอง" อ.นครเล่าถึงพิธีสรงน้ำพระที่มีมาแต่โบราณ พร้อมกับย้ำว่า ประเพณีรดน้ำดำหัว ต้องปฏิบัติกันหลังจากวันสงกรานต์ โดยสามารถจัดวันไหนก็ได้จนไปถึงสิ้นเดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง