ค่าเช่าแพง

ตอนเปิดเทอมกลางเดือนพฤษภาคมก็เก็บ 500 บาท โดยให้ อ.วัลภา เป็นผู้รับผิดชอบดูแล รวมแล้วค่าร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ตกปีละ 30,000-33,000 บาทต่อปี แต่ขายอาหารจานละ 15 บาท ปีนี้แม่ค้าได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะต้องหาเงินก้อนมาจ่ายให้โรงเรียน หาไม่ได้ก็ไม่ให้ขาย ใครมีปัญหาอะไรก็ไม่มีสิทธิ์พูด เพราะถ้าใครมีปัญหา ขายไม่ได้ หาไม่ได้ก็ให้ออกไป อ.วัลภา จะพูดเช่นนี้ทุกครั้งที่มีการประชุม
 ดิฉันอยากทราบว่าแม่ค้าโรงเรียนอื่นเป็นเหมือนแม่ค้าโรงเรียนรัตนาธิเบศร์หรือเปล่าคะ โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนพอเพียงตัวอย่าง แต่กลับขูดเลือด ขูดเนื้อกับแม่ค้า
แม่ค้า
หมายเหตุ
 นายอธิชาติ สวัสดี ผู้อำนวยการโรงเรียนรัตนาธิเบศร์ ชี้แจงว่า ร้านค้าในโรงเรียนมีจำนวน 14 ร้าน พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของนักการภารโรง ค่าเช่าร้านค้าจำนวน 25,000-28,000 บาทต่อปีนั้น ถ้าเทียบกับโรงเรียนอื่นๆ แล้วถูกกว่ามาก เนื่องจากที่นี่ยังเป็นการให้เช่าร้านรายปีกับแม่ค้ารายเดิม เทียบกับโรงเรียนอื่นที่ต้องมีการเปิดประมูลและมีค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่ารายเดือน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าล้างจาน ค่าทำความสะอาด เป็นการเพิ่มภาระให้แม่ค้ามากขึ้น
 ส่วนเรื่องราคาอาหารจานละ 15 บาทนั้น โรงเรียนคำนึงถึงเด็กนักเรียนเป็นสำคัญ เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้ปกครองและเป็นราคาที่พ่อค้าแม่ค้ารับได้
 ด้าน นางวัลภา อุปพงษ์ ครู คศ.2 ชี้แจงว่า ค่าเช่าร้านรายปี ปกติต้องจ่ายปีละ 1 ครั้ง แต่เนื่องจากโรงเรียนเห็นว่าพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เป็นลูกหลานนักการภารโรงของโรงเรียน จึงให้แบ่งจ่ายได้ปีละ 2 ครั้ง ส่วนค่าน้ำ ค่าไฟ เพิ่งจะเรียกเก็บเดือนนี้เป็นเดือนแรก
 ผู้อำนวยการโรงเรียนรัตนาธิเบศร์ บอกว่า จะเปิดให้คนนอกเข้ามาประมูลร้านค้าในโรงเรียน จะได้ไม่เกิดปัญหาอีก
ลุงแจ่ม