คอลัมนิสต์

จบแล้ว..อัยการล่าตัว'บอส' มาฟ้องศาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จบแล้วคดี"บอส อยู่วิทยา"เมื่อปรมาจารย์กฎหมายชั้นแนวหน้าออกมาชี้ตรงกันว่าคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ ไร้ผลเพราะขัดกฎหมายขณะที่คำสั่งฟ้องตั้งแต่แรกยังมีผล อยู่ อัยการจึงมีหน้าที่ติดตามตัวนายวรยุทธ ที่หนีคดีอยู่ต่างประเทศมาขึ้นศาลก็เท่านั้น   

คดีนายวรยุทธหรือบอส อยู่วิทยา ขับรถชน ด.ต.วิเชียร อยู่ประเสริฐ เสียชีวิต  มาถึงตอนนี้น่าจะชัดเจนได้แล้วว่า คำสั่งไม่ฟ้องของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดและ พล.ต.ท. เพิ่มพูน ชิดชอบ  ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ไม่เห็นแย้ง ไม่มีผลตามกฎหมาย และทำให้คำสั่งฟ้องของอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ตั้งแต่แรกต่อนายวรยุทธ ในคดีนี้ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม

จากหนังสือที่ อดีตอัยการสูงสุด "อรรถพล ใหญ่สว่าง" ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานคณะกรรมการอัยการ ได้ทำหนังสือถึงนายวงศ์สกุล   กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุดคนปัจจุบัน  ระบุชัด คำสั่งไม่ฟ้องของรองอัยการสูงสุดและการไม่เห็นแย้งของตำรวจในคดี"บอส" ไม่มีผลตามกฎหมายเพราะอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งฟ้องคดีนี้ไปแล้วและ ร.ต.ต. พงษ์นิวัติ ยุทธภัณฑ์บริการ อัยการสูงสุด(ในขณะนั้น) ได้สั่งยุติการพิจารณาร้องขอความเป็นธรรมของนายวรยุทธ ผู้ต้องหา ไปแล้ว ดังนั้นการที่นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดหยิบคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาอีกและสั่งไม่ฟ้องทั้งที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นส่งสำนวนพร้อมความเห็นไปให้ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาและผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่แย้งคำสั่ง ก็ไม่เป็นผลให้เกิดเป็นคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องที่ถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย คำสั่งฟ้องของอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ยังมีผลอยู่เหมือนเดิม

ความเห็นอดีตอัยการสูงสุด "อรรถพล ใหญ่สว่าง" สอดคล้องกับ นายสุรินทร์ นาควิเชียร อดีตรองประธานศาลฎีกา ผู้ซึ่งได้รับการยอมรับเรื่องความซื่อตรง ได้แสดงทัศนะเอาไว้ในไลน์กลุ่มนักกฎหมายกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นนักกฎหมายชั้นผู้ใหญ่ทั้งสิ้น ความว่า
 "ขณะนี้สังคมวุ่นวายเกี่ยวกับคดี"บอส" ผมเห็นเป็นการส่วนตัวในฐานะนักกฎหมายคนหนึ่งว่า สังคมต้องเรียกร้องความยุติธรรมคืนมา...
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา คดีอาญาแผ่นดินเมื่อพนักงานอัยการสั่งฟ้องแล้ว คดีนั้นพนักงานอัยการจะต้องนำตัวผู้ต้องหาฟ้องศาลสถานเดียว พนักงานอัยการท่านอื่น แม้แต่อัยการสูงสุดจะกลับความเห็นสั่งไม่ฟ้องไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ ขืนกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญว่าด้วยความเป็นอิสระของพนักงานอัยการผู้สั่งคดีการมีคำสั่งไม่ฟ้องของรองอัยการสูงสุดทับคำสั่งฟ้องเดิมของพนักงานอัยการผู้สั่งฟ้อง จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย ชอบที่พนักงานอัยการจะต้องนำตัวนายบอสส่งฟ้องศาลต่อไป มิฉะนั้น สังคมจะสิ้นหวังต่อกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ดังที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายทางสื่อต่างๆ อยู่ในขณะนี้
นอกจากนี้ยังมีนายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา  โพสต์เฟซบุ๊กว่า ..
 คดีนายวรยุทธหรือบอส อยู่วิทยา ได้ความว่าพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องและพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ก็สั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวน แต่นายวรยุทธหลบหนีจึงยังไม่ได้ฟ้องต่อศาล
.....รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๔๘ วรรคสอง บัญญัติว่า พนักงานอัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดี และการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปโดยรวดเร็ว เที่ยงธรรม และปราศจากอคติทั้งปวง

.....ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่มีบทบัญญัติให้อำนาจพนักงานอัยการท่านอื่นมีอำนาจเพิกถอนคำสั่งของพนักงานอัยการที่สั่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว และมีคำสั่งใหม่เป็นสั่งไม่ฟ้อง

.....กรณีนายวรยุทธเมื่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งฟ้องก็ต้องถือว่ายุติคือต้องนำตัวฟ้องต่อศาลเท่านั้น พนักงานอัยการท่านอื่นย่อมไม่มีอำนาจเพิกถอนคำสั่งฟ้องและมีคำสั่งใหม่เป็นสั่งไม่ฟ้อง
.....การกระทำเช่นนั้นเป็นการก้าวล่วงความเป็นอิสระของพนักงานอัยการท่านที่สั่งฟ้องนายวรยุทธ อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
  สรุปตามความเห็นของนายชูชาติ ก็คือ  เมื่อคดีนี้อัยการคำสั่งฟ้องต้องถือว่ายุติ ต้องนำตัวนายวรยุทธหรือบอส มาฟ้องต่อศาลเท่านั้น 
 ทั้ง 3 ท่าน ล้วนเป็นปรมาจารย์กฎหมายชั้นแนวหน้า สังคมให้ความเคารพเชื่อถือ เมื่อมีความเห็นตรงกันเช่นนี้  ผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงคือ อัยการควรปฏิบัติตามมิควรแข็งขืนอีกต่อไป 

  ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา อันเป็นกฎหมายที่บัญญัติเกี่ยวกับกระบวนการดำเนินคดีอาญา มาตรา  141 วรรคท้าย บัญญัติว่า 

 "ถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าควรสั่งฟ้อง ก็ให้จัดการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้ได้ผู้ต้องหามา ถ้าผู้ต้องหาอยู่ต่างประเทศให้พนักงานอัยการจัดการเพื่อขอให้ส่งตัวข้ามแดนมา "
  คดีนี้หมายจับ นายวรยุทธ ก็มีอยู่แล้ว ศาลอาญายังไม่ได้เพิกถอนหมายจับ อัยการจึงมีหน้าที่ติดตามเอาตัวนายวรยุทธ ที่หนีอยู่ต่างประเทศ กลับมาขึ้นศาลไทยพิจารณาดำเนินคดีก็เท่านั้น.. เรียกศรัทธาประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมกลับคืนมา

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ