เพจดัง จับพิรุธ ตั้งข้อสังเกต การถูกอุ้ม หายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ว่าแท้จริงแล้วจะเป็นเพราะถูกตั้งข้อหาคดีความมั่นคง หรือ เป็นเพราะโยงเรื่องการค้ายาเสพติด?
จากกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือ ต้า นักเคลื่อนไหวกิจกรรม แอดมินเจ้าของเพจ “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” ที่ทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ จนถูกออกหมายจับ แล้วเจ้าตัวจึงหนีจากประเทศไทยเข้าไปยังประเทศกัมพูชา ท่ามกลางกระแสข่าว นายวันเฉลิม ถูกอุ้มหาย เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.63 ญาติบางคนก็บอกว่าเสียชีวิตแล้ว บางคนก็บอกว่าถูกอุ้มไปกักตัว ยังไม่เสียชีวิต ก็ยังไม่มีการยืนยันจากทางการของประเทศกัมพูชาในเรื่องนี้แต่อย่างใด
ขณะที่เพจดัง อย่าง “ปราชญ์ สามสี” ที่เกาะติดเรื่องกลุ่มบุคคลที่มีความคิดเรื่องขบวนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง กล่มที่เคลื่อนไหวและเป็นภัยความมั่นคง ก็ได้นำเสนอบทความ ตั้งข้อสังเกต จับพิรุธ ถึงการหายตัวไปของนายวันเฉลิม ไว้อย่างน่าสนใจ โดยมีรายละเอียดดังนี้
จริงๆ วันนี้ มีแผนว่าจะเขียนบทความเรื่องหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่า กระแส ของ เรื่องการถูกอุ้ม ของ ต้า วันเฉลิม จะมีประเด็นที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เลยต้องมาเขียนก่อน
ล่าสุดมีประเด็นน่าสนใจหลายประเด็น
1. ทางคสช.ได้ออกมาพูดแล้วว่าไม่เคยได้แจ้งความฟ้องร้องเกี่ยวกับคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ (มาตรา112)ซึ่งเรื่องนี้ น่าสนใจมากเพราะ ต้า วันเฉลิมมักจะโม้ใน เฟสบุ๊กของตนเองว่า โดน มาตรา112 กดหัว. แต่ ในความจริงล้วนๆ ต้า วันเฉลิมนั้นโดนเพียง พรบ.คอมพิเตอร์ และ หนีหมายเรียกของคณะ คสช. ช่วงปี 2557เท่านั้น
ดังนั้น เรื่องราวการ มโนครั้งใหญ่ นี้ ดูเหมือนเป็นการปล่อยข่าวเพื่อหวังผลอย่างอื่นครับ
2. อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วในโพสก่อนหน้านี้ ว่า การจับตัว ต้าวันเฉลิมเป็นเรื่องที่ แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะ ต้าวันเฉลิมไม่เคย โดนคดี หลักฐานมันอยู่โพสของแอนดรู แม๊คเครเกอร์ สองวันก่อนซึ่งเป็นภาพ ใบประกาศจับ ที่เขียนเป็นภาษาไทยชัดเจนว่า นาย วันเฉลิม โดนคดี ความมั่นคงด้านอื่นๆที่ไม่ใช่คดีมาตรา112. เรื่องนี้ เลยโป๊ะแตกแทบจะในทันทีครับ
3. พิรุธ คำให้การของพยาน ซึ่งเป็นพี่สาว ของ วันเฉลิม ที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ ระบุว่า ตนเองกับ น้องชายกำลังปรึกษาวางแผนทำธุรกิจกันทางโทรศัพท์ ก่อนหน้าที่ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา น้องชายจะถูกอุ้ม. สิ่งที่น่าสนใจตรงนี้แหละครับ ว่า ธุรกิจที่พวกเขาทำกันมัน คืออะไร?เพราะ จากที่สายข่าวระบุมา. ต้าวันเฉลิมเดินทางเข้าออกประเทศกัมพูชาและประเทศอื่นบ่อยมาก ยากคาดเดา และไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง มากนัก
จุดนี้เองเลยมีคนไปรื้อประวัติของ ต้า วันเฉลิมแล้วพบว่าธุรกิจของ วันเฉลิม คือ เป็นผู้ค้า กัญชา นั้นเอง โดยเชื่อว่า มีการปลูกและขายนั้นแหล่ะครับ
4. จุดที่น่าสงสัย อีกประเด็นคือ. การสูญหายของ วันเฉลิม แต่กลับไม่มีการแจ้งความชัดเจนในทันที แต่มีการกดดันต่อสถานีตำรวจกัมพูชาในภายหลังให้ปล่อยตัววันเฉลิม ซึ่ง แนวทางแบบนี้เป็นเรื่องตลก. เพราะ ไม่มีคดีความ แต่มีการกดดัน ทางกัมพูชา จึงไม่สามารถ สืบหาตัวบุคคลสูญหายได้ซึ่งไม่แปลกหากกัมพูชา จะไม่สามารถหาตัว วันเฉลิมได้
5.ที่สำคัญ จุดที่น่าสงสัยคือ การพยายามกดดันให้ ปล่อยตัว ต้าวันเฉลิม ทั้งๆที่ ญาติ บอกว่าตายแล้วแทบจะในทันที แล้วรีบกดดันขนาดใหญ่ก่อนที่จะเริ่มเงียบไป อีกทั้งไม่ยอมให้รัฐบาลไทย ประสาน กัมพูชา ในการติดตามผู้สูญหาย. อีกทั้งมีการพยายามกดดัน รัฐบาล กัมพูชา ว่าหากพบ ตัวต้าวันเฉลิม. อย่าส่งตัวให้ทางการไทย
ดู จากข้อมูลเหล่านี้ก็พอจะ เห็นความ แปลกของสถานการณ์ ครับว่า สรุป ต้าวันเฉลิม ตายจริงคือไม่. หากตาย ทำไมถึงต้องห้ามไม่ส่งตัวกลับประเทศไทย
ทำไมรีบตายจัง กลัวว่า ตำรวจจะไปหาหรือครับ?
ยิ่งวันเฉลิมเข้าไปพัวพัน ยาเสพติดด้วยแล้ว การอุ้มอาจะเป็นเพียงการหายตัวไปเพื่อหลบ เจ้าพ่อค้ายาเจ้าถิ่นก็เป็นไปได้มากๆครับ ก็เลยไม่แปลกที่ ญาติจะออกมาปกป้องว่า ตายแล้ว เพราะคงหลบอยู่ในที่ปลอดภัยซักแห่ง.
หรือไม่. หากมองตามกระแส การโดนอุ้ม. ก็อาจจะโดน พ่อค้ายาเจ้าถิ่นอุ้มไปจริงๆก็ได้
ดังนั้น การสนธิกำลัง ปราบปรามยาเสพติด ระหว่างสองประเทศ และตำรวจระหว่างประเทศออกหาตัว นายวันเฉลิมและ พ่อค้ายาเสพติดในกัมพูชา จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ถ้า ต้า ถูกอุ้มจริงและยังไม่ตาย. ข้าพเจ้าเห็นควรว่า การสนธิกำลังตามหา จะทำให้ วันเฉลิมปลอดภัยในมือตำรวจอินเตอร์โพลครับ อีกทั้งยังสามารถปราบสาเสพติดไปด้วย
ส่วนพวกที่มโนไป ส่องไฟเลเซอร์รบกวนในหลวงที่ต่างประเทศใส่ร้ายพระองค์ในเรื่องนี้ เป็นพวกปั้นข่าวเท็จ โดยไม่มีหลักฐานใดๆเลยครับ
ขอบคุณ เพจปราชญ์ สามสี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง