หัวเว่ย ไม่สนสหรัฐฯ แบน เผยยอดขายพุ่งกระฉูด 118 ล้านเครื่อง

แม้ว่าสหรัฐและจีนอยู่ระหว่างสงครามการค้า แต่หัวเว่ยที่ถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ ยังคงมีรายได้ครึ่งปีแรกเพิ่มสูงขึ้น 23% ขณะที่ผู้แทนสหรัฐและจีนเริ่มต้นการเจรจาการค้ารอบใหม่ในวันนี้ แม้ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงยุติความขัดแย้งได้

หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ แถลงผลประกอบการว่า รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ อยู่ที่ราว 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 23.2% จากปีที่แล้ว และมียอดขายสมาร์ทโฟนสูงถึง 118 ล้านเครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 24% แม้ว่าบริษัทถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยอ้างว่าเทคโนโลยีของหัวเว่ยเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ เหลียง ฮั่ว ประธานหัวเว่ย กล่าวว่า รายได้ของหัวเว่ยเติบโตอย่างรวดเร็วจนถึงเดือนพฤษภาคม และคาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่อง ส่วนการขึ้นบัญชีดำมีผลต่อการพัฒนาบ้าง แต่ควบคุมได้ และส่งผลกระทบต่อการเติบโตในระยะสั้นเท่านั้น ก่อนหน้านี้เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของหัวเว่ย ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่าผลกระทบของการขึ้นบัญชีดำอาจทำให้บริษัทมีรายได้ต่อปีลดลงราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 9 แสนล้านบาททั้งในปีนี้และปีหน้าแต่นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนภายในประเทศจีนที่แข็งแกร่ง  และการได้สัญญาว่าจ้างบริการ 5G รายใหม่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นบัญชีดำของสหรัฐ ที่ควบคุมการส่งออกชิ้นส่วนและซอฟต์แวร์ของบริษัทสหรัฐให้หัวเว่ยขณะที่บรรยากาศสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังตึงเครียด ผู้แทนการค้าสหรัฐ และรัฐมนตรีคลังสหรัฐ เข้าร่วมการเจรจาการค้ากับรองนายกฯ จีนเป็นรอบที่ 12 แต่เป็นครั้งแรกที่จัดในนครเซี่ยงไฮ้ แต่สื่อจีนไม่ให้ความสนใจรายงานข่าวมากนัก