ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 20 ปี "เณรคำ"

ศาลอุทธรณ์นัดอ่านคำพิพากษาคดี วิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 114 ปี แต่คงจำคุก 20 ปีตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ จากเรือนจำภิเษกกรุงเทพมหานคร มายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีหมายเลขดำกรณีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง อดีตหลวงปู่เณรคำ เป็นจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2552 ถึงวันที่ 27 มิ.ย. 2557 จำเลยได้อาศัยความเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาและความศรัทธาเลื่อมใสของประชาชน มีการหลอกลวงและปกปิดข้อเท็จจริงต่อประชาชนอ้างว่า จำเลยเป็นประธานสงฆ์ วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ จึงเชิญชวนและโพสต์ข้อความในเว็ปไซต์ให้ ประชาชนนำเงินและสิ่งของมีค่ามาร่วมทำบุญก่อสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงศาสนสถานต่างๆ จนมีผู้หลงเชื่อมอบเงินสด โอนเงิน และทรัพย์สินต่างๆ เป็นเงินทั้งสิ้น 28,649,553 บาท ซึ่งล้วนเป็นเท็จ โดยเหตุเกิดที่วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีษะเกษ และที่อื่นๆ เกี่ยวพันกัน และคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 ส.ค.61 ให้จำคุกจำเลยรวม 114 ปี แต่คงจำคุกจำเลยไว้ 20 ปี ตามกฎหมายต่อมาศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่จำเลยยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ ซึ่งศาลต้องอ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก่อนว่า จะอนุญาตให้จำเลยถอนอุทธรณ์หรือไม่ หากศาลไม่อนุญาตให้ถอนอุทธรณ์ก็จะอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ทันทีล่าสุดศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สั่งจำคุกเณรคำ 20 ปี ส่วนเณรคำขอถอนอุทธรณ์ จึงนับว่าคดีถึงที่สุดแล้ว และส่งตัวกลับเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพตามเดิม