พบ "จ่านิว" เคยย้ายบ้านหนีแก๊งทวงหนี้นอกระบบ

วันนี้ยังมีการประชุมชุดสืบสวนเพื่อเร่งรัดคดีและติดตามตัวคนร้ายที่รุมทำร้ายจ่านิว โดยตำรวจมีข้อมูลว่า จ่านิว เคยย้ายบ้านหนีแก๊งทวงหนี้นอกระบบหลายครั้ง เตรียมตรวจสอบว่าจะเกี่ยวช้องกับการรุมทำร้ายครั้งนี้หรือไม่ ขณะที่แม่จ่านิว ออกมาปฏิเสธว่าลูกชายจำหน้าคนร้ายได้ เพราะจนถึงขณะนี้ลูกชายยังพูดไม่ได้

วันนี้พลตำรวจสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมชุดสืบสวน เหลังเกิดเหตุคนร้าย 4 คนสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบปิดบังใบหน้า ใช้กระบองแบบยืด เข้ารุมทำร้ายร่างกายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ "จ่านิว" จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้าย ทั้งหมดที่ก่อเหตุโดยมีรายงานข่าว พบข้อมูลว่า จ่านิว เคยย้ายบ้านมาแล้วหลายครั้ง จากปัญหาด้านการเงิน และยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อออนไลน์แห่งหนึ่ง ว่าในอดีตเคยย้ายบ้านไปหลายแห่ง ทั้ง มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง เพราะต้องหลบเจ้าหนี้ ซึ่งประเด็นเรื่องหนี้ ชุดสืบสวนกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ว่า เจ้าหนี้เหล่านี้คือใคร ซึ่งจะได้ขยายผลว่ามีส่วนร่วมในการรุมทำร้าย จ่านิว หรือไม่แต่ทั้งนี้ ตำรวจชุดสืบสวน ก็ยังไม่ตัดประเด็นการเมืองทิ้ง ส่วนการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาเส้นทางหลบหนี และรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการขณะที่นางพัฒน์นรี ชาญกิจ แม่ของจ่านิว เปิดเผยการลูกชายว่า ลุกชายเข้ารับการผ่าตัดบริเวณจมูก ยังหายใจทางจมูกไม่ได้ ต้องหายใจทางปากแทน และยังพูดไม่ได้ และเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ตำรวจได้เข้าสอบปากคำลูกชายที่ที่โรงพยาบาล แต่ได้รับการปฏิเสธ เพราะลูกชายยังไม่พร้อม เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ล่าสุดแพทย์ได้ให้ยาลดบวมและยาฆ่าเชื้อ เพื่อลดอาการอักเสบให้ดีขึ้น และประคองอาการไม่ให้มีการติดเชื้อ ส่วนเรื่องการมองเห็นยังไม่ถึงขั้นวิกฤตนางพัฒน์นรี ยังยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องแก๊งทวงหนี้ แต่ในอดีตจ่านิวเคยพูดให้ข้อมูลเรื่องพ่อเกี่ยวกับปัญหาการเงิน แต่เรื่องนั้นนานมากแล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่า หนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นลูกน้องนักการเมืองนั้น นางพัฒน์นรี ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้ออกมาจากลูกชายอย่างแน่นอน เพราะยังต้องหายใจทางปาก จึงไม่สามารถพูดให้ข้อมูลใด ๆ ได้