Program Online

แก๊งแฮกไลน์ หลอกโอนเงินอาละวาด เสียหายแล้ว 38 รายนับแสนบาท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แก๊งแฮกไลน์ หลอกโอนเงินอาละวาด เสียหายแล้ว 38 รายนับแสนบาท

ไปดูคดีพยาบาลวิชาชีพ รพ.นครพนม เข้าแจ้งความถูกแฮกไลน์ขอยืมเงินตนเองและบุคคลอื่นรวมทั้งคนรอบข้าง 38 ราย มีความเสียหายนับแสนบาท นอกจากคดียังไม่มีความคืบหน้าแล้ว ล่าสุดยังมีเหยื่อโผล่เพิ่มอีกรายที่ถูกคนร้ายแฮกไลน์เข้ามาหลอกยืมเงินเช่นเดียวกัน และเนื่องจากเป็นคดีสำคัญทางตำรวจกองปราบจึงเข้ามาร่วมสอบสวนคลี่คลายแล้ว

นางอรอนงค์ โพธิ์ตะนัง อายุ 56 ปี ชาวนครพนม อาชีพเป็นข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นแหยื่อรายล่าสุด ได้เข้าพบตำรวจแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพที่ปลอมไลน์ของญาติหลอกให้โอนเงิน โดยนางอรอนงค์ เล่าว่าเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมามีคนปลอมไลน์เป็น น.ส.ลัดดาวัลย์ โลกะนัง อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนเพื่อขอยืมเงิน 10,000 บาท ตนหลงเชื่อเพราะเคยโอนเงินให้กันและกันประจำ จึงโอนให้ไปจำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรก 4,000 บาท และครั้งที่สองอีก 6,000 บาท โดยโอนเข้าธนาคารเกษตรและสหกรณ์ฯ สาขาภูเก็ต ชื่อบัญชีนายดุสิต พ่วงบุญ หลังโอนครั้งที่สองเสร็จเรียบร้อย ก็เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว โดยนำโทรศัพท์เข้าไปเล่นเฟซบุ๊คด้วย ปรากฏว่ามีข้อความจากผู้หวังดีว่า "คุณลัดดาวัลย์ ถูกแฮกไลน์" จึงรีบออกจากห้องน้ำไปดูโทรศัพท์อีกเครื่อง พบข้อความของคนร้ายที่ใช้ไลน์ของ น.ส.ลัดดาวัลย์ ขอให้ตนโอนเพิ่มอีก 20,000 บาท จึงพยายามพูดหลอกล่อให้คนร้ายโอนเงินคืน พอคนร้ายรู้ก็รีบปิดไลน์หนี  ซึ่งหลังจากคนร้ายปิดไลน์หนีแล้ว ยังใช้ไลน์ของน.ส.ลัดดาวัลย์ ไปทักไลน์หลานอีก 2 คน เพื่อขอยืมเงินในลักษณะเดียวกันอีก 2 รายเป็นเงิน 8,9000 บาท  ซึ่งทั้งสองได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว     จากการตรวจสอบกลุ่มผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารรวม 2 บัญชี คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาภูเก็ต มี น.ส.นูรี งานแข็ง เป็นเจ้าของบัญชี และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาภูเก็ต ระบุชื่อเจ้าของบัญชี นายดุสิต พ่วงบุญ และเมื่อวันที่ 27 เม.ย.นั้นคนร้ายที่อ้างชื่อนายดุสิต พ่วงบุญ ได้ใช้บัตรATM ไปกดเงินจากตู้ที่จังหวัดตราดออกไป  นอกจากนี้เมื่อวันที่ 28 เม.ย.62 บัญชีของนายดุสิต มีการถ่ายเทเงินโอนไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้กว่า 7 ล้านบาท คงเหลือเงินติดบัญชีเพียง 6 บาทเท่านั้นภายหลังมีการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์พบว่า บุคคลที่ชื่อนายดุสิต พ่วงบุญ มีอาชีพรับราชการ เมื่อมีการโทรศัพท์สอบถามเจ้าตัว นายดุสิตแบ่งรับแบ่งสู้ อ้างว่าตนเป็นเจ้าของบัญชีจริง โดยเปิดบัญชีครั้งแรก 300 บาท พร้อมทำบัตรATM ซึ่งบัตรก็อยู่กับตนตลอดเวลา ส่วนกรณีมีคนใช้บัตร ATM ไปกดเงินที่จังหวัดตราดนั้น นายดุสิตไม่ยอมตอบคำถาม ซึ่งทางตำรวจได้ออกหมายเรียกมาให้ปากคำแล้ว ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ขอรายละเอียดจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินการสืบสวนล่าตัวคนร้ายรายนี้

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ