Program Online

เผย ระเบิดศรีลังกาเพื่อแก้แค้นเหตุกราดยิงมัสยิดนิวซีแลนด์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การสืบสวนเหตุก่อการร้ายในประเทศศรีลังกามีความคืบหน้าครั้งสำคัญ ล่าสุดกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ออกมาประกาศอ้างความรับผิดชอบแล้ว

การสืบสวนเหตุก่อการร้ายในประเทศศรีลังกามีความคืบหน้าครั้งสำคัญ ล่าสุดกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ออกมาประกาศอ้างความรับผิดชอบแล้ว ขณะที่รัฐบาลระบุว่า กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในประเทศลงมือโจมตีโบสถ์คริสต์ เพื่อแก้แค้นเหตุการณ์กราดยิงในมัสยิดประเทศนิวซีแลนด์เมื่อเดือนที่แล้ว

 

สำนักข่าวอามัคซึ่งเป็นกระบอกเสียงของกลุ่มไอเอสออกแถลงการณ์วันนี้ ระบุว่า ผู้ที่ลงมือพุ่งเป้าไปยังพลเมืองของประเทศพันธมิตรสหรัฐฯ ที่ร่วมโจมตีฐานที่มั่นของไอเอสและชาวคริสต์ในประเทศศรีลังกาคือนักรบของไอเอส แต่ไม่ได้แสดงหลักฐานอ้างอิงใดใดขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหมของศรีลังกากล่าวต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า กลุ่มก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลังมี 2 กลุ่ม คือกลุ่มแนชั่นแนล ทาวีธ จามัธ หรือเอ็นทีเจ และกลุ่มจามมิยาธูล มิลลาธู อิบราฮิม ซึ่งเป็นกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในประเทศ ต้องการโจมตีเพื่อแก้แค้นเหตุการณ์ที่ชายชาวออสเตรเลียที่มีแนวคิดนิยมผิวขาวสุดโต่งกราดยิงในมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครซ์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์เมื่อเดือนที่แล้ว ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 50 รายขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 40 คน โดยในจำนวนนี้มีพลเมืองชาวซีเรียรวมอยู่ด้วย ด้านแหล่งข่าวที่เป็นตำรวจกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า สองพี่น้องชาวมุสลิมซึ่งเป็นลูกชายของพ่อค้าเครื่องเทศผู้มั่งคั่งในกรุงโคลัมโบคือผู้ที่ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในโรงแรมแชงกรีล่าและซินนามอนด์แกรนด์ขณะที่แขกกำลังรับประทานอาหารเช้า นอกจากนี้ตำรวจสากลและเอฟบีไอของสหรัฐฯได้ส่งทีมงานมาช่วยศรีลังกาคลี่คลายคดีแล้วตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อวันอาทิตย์อยู่ที่ 321 ราย และบาดเจ็บกว่า 500 คน

ซึ่งองค์การสหประชาชาติเปิดเผยวันนี้ว่า มีเด็กที่เสียชีวิตอย่างน้อย 45 คน แบ่งเป็นเด็กชาวศรีลังกา 40 คน และเด็กชาวต่างชาติ 5 คน โดยวันนี้ญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ประกอบพิธีฝังศพหมู่ ส่วนในช่วงเช้าชาวศรีลังกาทั่วประเทศได้ร่วมกันสงบนิ่ง 3 นาทีเพื่อไว้อาลัยปัจจุบันเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าหน่วยข่าวกรองของศรีลังกาได้รับคำเตือนล่วงหน้าราว 2 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ แต่นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห และคณะรัฐมนตรีอ้างว่าไม่ทราบมาก่อน ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า กรณีนี้อาจเกี่ยวข้องกับความบาดหมางระหว่างนายกฯ กับประธานาธิบดีไมตรีผลา สิริเสนาที่เริ่มขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วหรือไม่ เนื่องสภาความมั่นคงแห่งชาติรายงานตรงต่อประธานาธิบดี และนายกฯ ถูกกันไม่ให้เข้าร่วมประชุมสภาความมั่นคงมาหลายเดือนแล้ว

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ