Program Online

(คลิปข่าว) ยุบ "ไทยรักษาชาติ" สุ่มเสี่ยงทำสถาบันฯ เสื่อมโทรม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยุบ "ไทยรักษาชาติ" สุ่มเสี่ยงทำสถาบันฯ เสื่อมโทรม

ระหว่างการอ่านคำวินิจฉัยรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ มีการระบุตอนหนึ่งว่า การกระทำของพรรคไทยรักษาชาติในการเสนอชื่อทูลกระหม่อมฯ เพื่อแข่งขันกับพรรคการเมือง ย่อมเล็งเห็นผลว่าจะทำให้ว่าการปกครองของไทยจะแปรเปลี่ยนไปสู่สภาพ การที่สถาบันพระมหากษัตริย์ใช้อำนาจทางการเมืองปกครองประเทศ สภาพการณ์เช่นนี้ย่อมมีผลให้หลักการพื้นฐานต้องถูกเซาะกร่อนบ่อนทำลายให้เสื่อมทรามไปโดยปริยาย

 

ระหว่างการอ่านคำวินิจฉัยรัฐธรรมนูญมีการระบุตอนหนึ่งว่า การกระทำของพรรคไทยรักษาชาติในการเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เพื่อแข่งขันกับพรรคการเมืองอื่นในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและในกระบวนการให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคการเมือง ตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการกระทำย่อมเล็งเห็นผลว่าจะทำให้ว่าการปกครองของไทยจะแปรเปลี่ยนไปสู่สภาพ การที่สถาบันพระมหากษัตริย์ใช้อำนาจทางการเมืองปกครองประเทศ สภาพการณ์เช่นนี้ย่อมมีผลให้หลักการพื้นฐานต้องถูกเซาะกร่อนบ่อนทำลายให้เสื่อมทรามไปโดยปริยายและมีตอนหนึ่งระบุว่า ถ้าพรรคการเมืองใดกระทำการล้มล้างหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการเมืองและการปกครอง พรรคการเมืองนั้นรวมทั้งกรรมการบริหารพรรคย่อมต้องถูกลงโทษตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง จะอ้างความไม่รู้  ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือความเห็นความเชื่อของตนมาเป็นข้อแก้ตัวไม่ได้  ถึงแม้รัฐธรรมนูญจะไม่ได้นิยามศัพท์คำว่าล้มล้าง หรือเป็นปฏิปักษ์ไว้ แต่ทั้งสองคำก็เป็นภาษาไทยธรรมดา มีความหมาย และความเข้าใจตามที่ใช้กันทั่วไป โดยศาลเห็นว่า คำว่า ล้มล้าง หมายถึง ทำลายล้างผลาญไม่ให้ธำรงอยู่

ส่วนคำว่า ปฏิปักษ์ ไม่จำเป็นต้องรุนแรง ถึงขนาดตั้งตนเป็นศัตรู เพียงแค่เป็นการขัดขวางไม่ให้เจริญก้าวหน้า หรือเซาะกร่อน บ่อนทำลายจนเกิดความชำรุด ทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง ก็เข้าข่ายการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ได้แล้วและเมื่อการกระทำของผู้ถูกร้องมีหลักฐานชัดเจนว่า ได้กระทำโดยรู้สำนึก และสมัครใจอย่างแท้จริง กก.บห.ย่อมรู้ดีว่า ทูลกระหม่อมเป็นพระราชธิดาองค์ใหญ่ และเป็นเชษฐภคินี แม้จะถวายบังคมลาจากฐานันดรศักดิ์ แต่ยังคงดำรงเป็นสมาชิกแห่งพระบรมจักรีวงศ์ การกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเป็นฝักฝ่ายทางการเมือง ทั้งยังเป็นการกระทำที่วิญญูชน คนทั่วไปรู้สึกได้ว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ต้องถูกนำมาใช้เพื่อความได้เปรียบทางการเมืองอย่างแยบยล ให้ปรากฏผลเหมือนฝักใฝ่ทางการเมืองและมุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมือง  โดยไม่คำนึงถึงหลักการพื้นฐานสำคัญในระบอบประชาธิปไตยฯ สุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียฐานะที่ต้องอยู่เหนือการเมืองและเป็นกลางทางการเมือง เป็นจุดเริ่มต้นของการเซาะกร่อน บ่อนทำลาย เป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทรามเป็นเหตุให้เข้าข่ายเป็นกากระทำเป็นปฏิปักษ์ ต่อการปกครอง ตามมาตรา 92 จึงมีมติเอกฉันท์สั่งยุบพรรคการเมืองผู้ถูกร้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ