Program Online

บันทึกของคุณก๊อป ผู้เลือกจบชีวิตตัวเองด้วยวิธีการุณยฆาต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เรื่องราวของหนุ่มไทยผู้เดินทางไปเข้ารับการทำการุณยฆาต ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เรื่องราวของหนุ่มไทยผู้เดินทางไปเข้ารับการทำการุณยฆาต ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อย่างถูกกฎหมายได้ออกมาโพสต์ระบายถึงความในใจวาระสุดท้ายของเขา ก่อนที่จะจบชีวิตลงอย่างสงบ โดยเรื่องนี้ได้ถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ 

ทั้งนี้โพสต์สุดท้ายของเขานั้น ได้ระบุข้อความดังต่อไปนี้

 

Oh! my beloved moon...

Please tell my dad and mom I'm happy now 
And there is no need to cry 
I'm finally reunited with the universe
Forever where I abide by

หลังจากจบโพสต์นี้ ผมจะรับยาและจากไปอย่างถาวร ที่ผมมาทำการุณยฆาตนี้เพราะไม่อยากให้ป๊ากับคุณแม่ต้องมาคอยดูแลผม หากในการผ่าตัดครั้งต่อไป มันทำให้ผมต้องเป็นอัมพาตหรือเจ้าชายนิทรา ผมรู้สึกมีความสุขมากในตอนนี้ทั้งกับตัวเองที่จะไม่ต้องเจ็บปวดทรมานอีก และกับป๊าและแม่ที่จะไม่ต้องลำบากต้องมาดูแลคนที่นอนเป็นผัก ในเวลาที่ป๊ากับแม่ควรจะต้องอยู่อย่างสบายกายแล้ว ลาก่อนครับป๊า ลาก่อนครับคุณแม่ 'ก๊อป' 

 

 

ทั้งนี้ทางเพจ Poetry of Bitch ได้มีการให้ข้อมูล โดยสรุปเรื่องราวชีวิตของคุณก๊อป ก่อนที่เขาจะเลือกจบชีวิตด้วยวิธีการ การุณยฆาต ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า 

สรุปบันทึกชีวิตของคุณกอล์ฟ (ชื่อในเฟซบุ๊ก Vis Arshanakh) ซึ่งป่วยเป็นเนื้องอกในสมองนานกว่า 10 ปี และตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยวิธีการุณยฆาต (การขอฆ่าตัวตายอย่างถูกกฎหมาย) ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

1.คุณกอล์ฟได้รับการผ่าตัดสมองมา 3 ครั้ง ครั้งแรก พ.ศ. 2548 ครั้งที่สองปลายปี 2552 และครั้งสุดท้ายกลางปี 2558

2.คุณกอล์ฟเริ่มป่วยในปี 2548 ขณะเขาอายุประมาณ 28-29 ปี กำลังมีอนาคตที่สดใส บริษัทกำลังจะส่งไปฝึกงานที่ญี่ปุ่น 1 ปี เพื่อกลับมารับตำแหน่งต่อจากคนญี่ปุ่น

3.คุณกอล์ฟมีอาการชาที่หัว และชาจากหลังไปสู่ปลายมือปลายเท้า ตามองไม่เห็นในสภาวะแสงน้อย จึงไปพบหมอที่ห้องพยาบาลของบริษัท

4.หมอบอกให้ไปโรงพยาบาลไหนก็ได้ที่มีแผนกนิวโรศัลย์ และต้องไปเดี๋ยวนี้! เขาจึงลางานไปทันที

5.หมอตรวจพบเนื้องอกในสมองบริเวณท้ายทอย ต้องผ่าตัดทันที เพราะเนื้องอกเริ่มกดทับแกนสมอง

6.เมื่อฟื้นจากผ่าตัด เขาพบว่ามันเจ็บอย่างถึงที่สุด ทรมานเหมือนอยู่ในนรก เจ็บปวดแสนสาหัสทุกครั้งที่ขยับตัว แต่ก็ต้องลุกขึ้นอาเจียนอยู่ตลอดเวลา จนร้องไห้ทั้งยามหลับยามตื่น วันไหนที่ไม่เจ็บสัก 5 นาทีก็เหมือนได้ขึ้นสวรรค์

7.หลังกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้เพียงอาทิตย์เดียว หมอพบว่าเขาติดเชื้อในสมอง ต้องกลับมานอน รพ.และให้น้ำเกลืออีก 1 เดือน ระหว่างนั้นก็ต้องเจาะน้ำไขสันหลังดูเป็นระยะจนบอบช้ำไปหมด

8.ค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวครั้งนี้เฉียดล้าน เฉพาะค่าน้ำเกลือผสมยาถุงละเป็นหมื่น ทำให้เงินที่เก็บมาตลอดชีวิตไม่เหลือ

9.จากนั้นคุณกอล์ฟได้เล่าถึงความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ซึ่งขอไม่กล่าวถึงในที่นี้ (แต่สามารถอ่านได้เองจากลิงค์ด้านล่าง)

10.พักฟื้นได้ 1 เดือนก็กลับเข้าทำงาน บริษัทได้ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลผ่านสวัสดิการและประกันต่างๆ ส่วนที่เกินจากนี้จะทยอยหักจากเงินเดือนในอนาคต

11.แต่อาการป่วยทำให้ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ จึงถูกย้ายตำแหน่งไปเรื่อยๆ จนในที่สุดวันหนึ่งบริษัทก็ขอเลิกจ้างกะทันหันโดยไม่แจ้งล่วงหน้าและไม่มีค่าชดเชย แต่ยกหนี้จากการรักษาตัวทั้งหมดให้

12.คุณกอล์ฟไปทำงานที่อื่นอีกหลายที่ แต่ก็ทำได้ไม่เกิน 3-4 เดือน เพราะร่างกายอ่อนเพลียมาก ต้องหลับทุกๆ 3 ชม. แค่จะออกไปจ่ายค่าโทรศัพท์นอกบ้านก็ถึงกับต้องวางแผนพักผ่อนล่วงหน้าไว้เป็นอาทิตย์

13. แฟนชวนคุณกอล์ฟแต่งงาน ทั้งสองวางแผนอนาคตไว้ด้วยกัน ตั้งชื่อลูกล่วงหน้าไว้ 3 คน แต่คุณกอล์ฟอยากให้เธอมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ ไม่อยากให้ต้องมาทุกข์ทรมานเพราะมีคู่ชีวิตที่ป่วย จึงถอยออกจากความสัมพันธ์โดยไม่อธิบายอะไรเพื่อให้เธอตัดใจได้

(ปัจจุบันอดีตคนรักของคุณกอล์ฟแต่งงานมีครอบครัวและมีลูกไปแล้ว)

14.คุณกอล์ฟไปปฏิบัติธรรมและเที่ยวเชียงใหม่แล้วรู้สึกว่าร่างกายดีขึ้น ไม่หลับทุก 3 ชม.อีกต่อไป จึงย้ายไปอยู่เชียงใหม่และหางานทำ พบว่าตัวเองสามารถทำงานได้นาน 8 ชม. โดยไม่ง่วงหรืออ่อนเพลีย

15.คุณกอล์ฟเข้าใจว่าตัวเองรอดพ้นจากโรคร้ายแล้ว เตรียมขายบ้านที่ กทม. วางแผนพาแม่มาอยู่ด้วย

16. ไม่ถึง 1 อาทิตย์หลังวางแผนเริ่มต้นชีวิตใหม่ คุณกอล์ฟตรวจพบเนื้องอกในสมองที่เดิมอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2552 ต้องผ่าตัดอีก คุณกอล์ฟร้องขอการุณยฆาตจากหมอ แต่หมอไม่สามารถทำให้ได้

17.หลังผ่าตัด ร่างกายอ่อนแอ หนาวสั่นและยังปวดศีรษะมาก จากที่เคยเดินไปหาอะไรกินหน้าปากซอย 3 นาที กลายเป็นเดิน 30 นาที

18.ไปตรวจอีกครั้งพบว่าสมองติดเชื้อจากการผ่าตัดอีก ต้องนอนให้ยาอีกร่วมเดือน พอออกจาก รพ.ได้ก็ต้องลาออกจากงาน เพราะร่างกายต้องการหลับทุก 3 ชม.อีกตามเคย

19. ปี 2553 คุณกอล์ฟกลับมาอยู่ กทม. และได้กลับไปช่วยมหาวิทยาลัยที่จบมา (ม.เกษตรศาสตร์) สอนกู่เจิงให้รุ่นน้อง


(คุณกอล์ฟเป็นนักดนตรี เล่นดนตรีได้หลายประเภท เช่น กู่เจิง ฮาร์พ และช่วงสุดท้ายของชีวิตก่อนไปทำการุณยฆาตยังไปเรียนกีตาร์เพิ่มเติมด้วย และคุณกอล์ฟยังเป็น 1 ในสมาชิกของวงออร์เคสตร้า Nontri Ocherstra Wind)

20. พ่อหางานที่โรงแรมให้ทำ สามารถขอตัวไปหลับได้เพราะงานเป็นกะ คุณกอล์ฟจึงทำงานที่นี่ได้นานถึง 4 ปี

21. กลางปี 2558 เริ่มมีอาการแบบเดิมอีก หมอตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกในสมองตรงจุดเดิม คุณกอล์ฟร้องขอการุณยฆาตอีกครั้ง แต่หมอก็ทำให้ไม่ได้ 

22. คุณกอล์ฟเข้ารับการผ่าตัดครั้งที่ 3 ครั้งนี้ไม่มีการติดเชื้อ แต่ร่างกายก็ไม่แข็งแรง มีอาการบ้านหมุนอยู่เนืองๆ

คลิกอ่านบันทึกฉบับเต็มของคุณก๊อป

 

ทั้งนี้ สิทธิขอตายขณะยังไม่ถึงวาระสุดท้ายของชีวิต  เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ  โดยเฉพาะในต่างประเทศ นับตั้งแต่กรณี คุณปู่เดวิด กูดออล อายุ 104 ปี  ต้องเดินทางไกลข้ามโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ไปขอรับบริการช่วยจบชีวิตอย่างสงบในสวิตเซอร์แลนด์ และล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว ดับเพลิงชาวอออสเตรเลียอีกคนก็ดำเนินรอยตาม เพราะป่วยเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา ไม่อาจดำรงชีวิตประจำวันเป็นปกติสุข นอกจากนี้ยังมีกรณีผู้ประกาศข่าวกีฬาที่ไต้หวัน

 

อ่านข่าว : การุณยฆาตแล้ว คุณปู่ออสซี่สิ้นลมอย่างสงบตามประสงค์

อ่านข่าว : ดับเพลิงออสซีบินไปจบชีวิตที่คลินิกการุณยฆาตในสวิตเซอร์แลนด์

อ่านข่าว : อดีตผู้ประกาศข่าวกีฬาในไต้หวัน เดินทางไกลครั้งสุดท้ายขอรับการุณยฆาตในสวิตเซอร์แลนด์

อ่านข่าว : "สิทธิขอตาย" วิธีเขียนพินัยกรรมให้หมอ "ไม่ยื้อชีวิต"

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Poetry of Bitch , Vis Arshanakh

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ