(คลิปข่าว) ตร.ตั้งค่าหัว "ไอ้เด๋อ" ฆาตกรฆ่าหญิงวัย 54

ตำรวจโคกสำโรงระดมตำรวจกว่า 200 นาย ปูพรมค้นหาจับกุุมคนร้ายก่อคดีฆ่าหญิงวัย 54 ปี ในพื้นที่ 2 ตำบลหลังพบเบาะแสคาดเป็นที่พักคนร้ายในสวนไผ่แต่เกิดไหวตัวหลบหนีไปก่อน ประกาศใครชี้เบาะแสพร้อมให้เงินรางวัล 20,000 บาท

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสำโรง ออกหมายจับนายมนตรี หรือเด๋อ หรือเบิร์ด ปภัสสโร ผู้ต้องหาก่อเหตุฆาตกรรมนางหวน อยู่คง อายุ 54 ปี เหตุเกิดบริเวณถนนลูกลังเชิงเขาดินริมไร่มันสำปะหลัง หมู่ 8 ตำบลคลองเกตุ อำเภอโคกสำโรง ซึ่งศพส่งไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ แพทย์ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตว่าภาวะช็อคจากการสูญเสียโลหิตจากตับฉีกขาด จากการถูกกระแทกด้วยวัตถุแข็งไม่มีคมนั้นล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านในพื้นที่ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศพร้อมให้เงินรางวัลจำนวน 20,000 บาท หากใครแจ้งเบาะแสนำไปสูู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ผ่านทางเฟสบุ๊ค และกลุ่มโซเชียล ซึ่งชาวบ้านแจ้งเข้ามาว่า มีการนำใบมะพร้าวและใบไม้ ทำเป็นที่นอนคล้ายมีคนมาแอบซ่อนตัวอยู่บริเวณสวนไผ่หมู่ที่1 ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดลพบุรีได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบว่าในจุดที่พบนั้นพบมีการนำใบไม้มาเรียงทำเป็นที่นอนและมีร่องรอยของคนนอนใหม่ๆเหมือนเพิ่งทำมาได้ไม่นาน นอกจากที่นอนแล้วยังพบซองกาแฟ ซองโอวันตินที่กินแล้ว มีการนำอ่างน้ำมาลองทำเป็นเตามีเชื้อเพลิงรวมไปถึงมีจานวางบนเตาเหมือนมีการต้มน้ำ โดยชาวบ้านที่แจ้งเบาะแสได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ทุกวันสามีจะออกไปหาของป่า ไปหาตีรังผึ้งเพื่อเอาน้ำผึ้งมาขายก็ไม่เคยพบที่นอนนี้มาก่อนเพิ่งมาพบในวันนี้นี้จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากจุดที่พบอยู่หายจากจุดเกิดเหตุฆ่าหญิงวัย 54 ปีประมาณ 10-15 กิโลเมตร จึงคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายมาแอบซ่อนตัวกบดานและอาจไหวตัวหลบหนีไปก่อนต่อมา พ.ต.อ.ภูการวิก โชติกเสถียร ผกก.สภ.โคกสำโรง ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชาวบ้านจำนวน 200 นาย พร้อมรูปภาพของนายเด๋อผู้ต้องหาตามหมายจับลงพื้นที่ปูพรมใน 2 ตำบลคือวังขอนกว้าง และห้วยโป่ง เพื่อนำรูปคนร้ายกระจายให้ทั่วเพื่อที่เพื่อให้ชาวบ้านได้ช่วยกันแจ้งเบาะแส หรือคนร้ายอาจจะมาขอข้าว ขอน้ำกินจะได้จำได้และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ออกค้นหาจับกุมโดยรอบทั้ง 2 ตำบลระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรแต่ยังไม่พบตัวคนร้ายแต่อย่างใด